พี่น้องบางท่านอาจจะสงสัยหรือข้องใจว่าทำไมผมถึงพูดถึงราชอาณาจักรสวรรค์ราชอาณาจักรของพระเจ้าบ่อยนัก ทำไมไม่พูดถึงสวรรค์หรือนรก หรือความรอดในวันสุดท้าย
สำหรับความรอดในวันสุดท้ายนะครับ คือเมื่อเราเชื่อในพระเยซูคริสต์แล้ว เราก็ได้รอดทันที สวรรค์เป็นของเรา เราอยู่ที่ไหนสวรรค์ก็อยู่ที่นั่นเพราะว่าพระเจ้าอยู่กับเราอยู่ในเราและไม่เคยพรากจากเราไปไหนเลย และเรานะครับอยู่สวรรค์และอยู่สวรรค์บนดินได้ด้วยถ้าหากว่าเรามีสันติสุขได้ทุกวันทุกเวลานาทีและชีวิตของเราก้าวเข้าสู่การเติบโตในพระคริสต์ ซึ่งผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ชีวิตไม่มาถึงสันติสุขทุกวันเวลานาทีได้ แล้วเขาไม่เชื่อด้วย ไม่เชื่อว่าความสุขสันติสุขทุกวันเวลานาทีมีจริง
ถ้าหากเราเลิกกลัวพระเจ้า ความสงบสุขภายในจิตใจก็จะเกิดขึ้น แน่นอนนะครับถ้าหากพี่น้องเรียนรู้เรื่องการสารภาพบาปการยกโทษบาปของพระเจ้าด้วยพระโลหิต คือพระเจ้ายกโทษให้เราไม่ว่าจะเป็นบาปอะไรก็ตามบาปไหนก็ตาม พระเจ้ายกโทษเนื่องจากว่าพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ชำระเราและพระบิดาเห็นแก่พระโลหิต และการเข้ามาหาพระเจ้าทุกครั้ง เรามาทางพระโลหิต
และเรารู้ว่าสันติสุขซึ่งเป็นบ่อน้ำแห่งชีวิตอยู่ในเราแล้ว พระเยซูสัญญาใช่ไหมยอห์นบทที่ 4:14 เขาจะไม่กระหายอีกเลยเพราะว่าเขาจะได้รับบ่อน้ำแห่งชีวิตที่อยู่ในตัวเขา เพียงแต่เราเข้าใจเพียงแต่เรารู้นะครับว่าสันติสุขมาจากพระเจ้าโดยทางความเชื่อ เมื่อเราเชื่อเราก็ได้รับสันติสุขนี้ (โรม 5:1 / ยน 4:14) เป็นของขวัญที่พระเจ้าให้เราฟรีๆ ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องเชื่อฟังเพื่อที่จะได้สันติสุขมาก
แต่สันติสุขที่ครบถ้วนคือการที่เราเลิกทำบาปได้เพราะว่าตราบใดที่เรายังทำบาปอยู่ สันติสุขเราจะมีแต่น้อยนะครับ เพราะว่าเรายังเป็นห่วงเรายังกังวลในเรื่องการเอาชนะความบาปนี้ให้ได้ แต่อันนั้นเป็นงานของพระเจ้าเป็นงานขั้นต่อมาของพระเจ้าที่จะทำงานในเรานะครับ ขอให้เราพักสงบในพระเจ้า พักสงบในพระคริสต์ มีความสงบสุขระหว่างเรากับพระเจ้าและมีสันติสุขกับพระเจ้าได้ทุกครั้งเมื่อเราสรรเสริญยกย่องขอบพระคุณ อธิษฐาน สนิทในพระคริสต์ทุกวันทุกเวลานาที เมื่อทำบาปก็กลับมาทันทีอย่าให้โอกาสมารซาตานนะครับ
พระเจ้ามีพระคุณต่อเรามากมายเหลือเกิน พระเจ้าทำทุกสิ่งไว้ให้เราดำเนินเพื่อความสะดวกเพื่อความง่ายกางเขนก็เบา แต่เรานี่แหละที่ไม่รู้ เมื่อเราไม่รู้เราก็ทำให้ทุกสิ่งยากขึ้น ทุกสิ่งก็รู้สึกว่ามันจะเป็นภาระหนักสำหรับชีวิตของเราในแต่ละวันใช่ไหม แต่แท้ที่จริงแล้วถ้าหากเรารู้ความจริง เรารู้จักความไพบูลย์ พระสติปัญญาที่พระเจ้าเปิดตาเราให้เราเห็น คือชีวิตของเรามันก็จะง่าย กางเขนก็เบา การพักผ่อนของเราก็มีทุกวันทุกเวลานาทีในพระคริสต์
และสำหรับกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเทียมเท็จนะครับ คือความเชื่อของกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์เขาพูดถึงอาณาจักรใช่ไหม แต่ต่อไปนี้ผมจะพูดถึงความเชื่อเทียมเท็จ ความเชื่อที่ผิดเพี้ยนมากมายของกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ ซึ่งพี่น้องคริสเตียนหลายคนไม่รู้ไม่เข้าใจและแม้แต่คริสตจักรบางแห่งที่เชิญผมไปเทศนาและปรากฏว่าเมื่อเทศนาเสร็จนะครับ เขาก็บอกว่าเนี่ยระวังอาจารย์คนนี้เป็นพยานพระยะโฮวาห์ และเกิดความเข้าใจผิดกันนะครับ แต่ไม่เป็นไรเป็นเรื่องปกติที่ถ้าหากเราไม่ค้นดูไม่คิดพิจารณาเราก็จะคิดว่า อ่า คนนี้พูดถึงอาณาจักรสงสัยจะมาจากกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์
เอาเป็นว่า ต่อไปนี้เป็นความเชื่อเทียมเท็จ เป็นความเชื่อเทียมเท็จเป็นความเชื่อที่ผิดเพี้ยนของกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์นะครับ กลุ่มพยานพระยะโฮวาห์เชื่อว่าพระเจ้ามีพระภาคเดียว ไม่มี 3 พระภาคเหมือนเรา เราที่เป็นคริสเตียนเป็นโปรเตสแตนต์ทั่วโลกเลยนะครับ คือเชื่อว่ามีพระเจ้า 3 พระภาค พระเจ้าพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์
ส่วนพระเยซูคริสต์ กลุ่มพยานพระยะโฮวาห์เชื่อว่าเป็นผลแรกเป็นบุคคลคนแรกเป็นผลแรกที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ก่อนที่พระเจ้าจะสร้างโลกสร้างจักรวาลสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย พระเจ้าสร้างพระเยซูคริสต์ก่อน และพระเยซูคริสต์นะครับวันหนึ่งเมื่อโลกนี้มีบาปพระเยซูคริสต์ก็สมัครใจลงมาตายเพื่อไถ่บาปมนุษย์โลกแล้วกลับขึ้นไปอยู่สวรรค์ แล้ววันหนึ่งจะกลับมาครองโลกนี้อีก อันนี้เป็นความเชื่อของกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ แต่สำหรับเราคือพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์
เมื่อพระเยซูคริสต์ที่เป็นผลแรกของสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง พระองค์สมัครใจลงมาตายเพื่อไถ่บาปมนุษย์โลกและฟื้นขึ้นมาจากตายและไปอยู่สวรรค์ แล้ววันนึงนะครับเขาทำนายว่าพระเยซูจะกลับมาเพื่อล้างโลก โลกนี้จะถูกทำลายถูกล้างโลกและพระเยซูจะครอบครองโลกนี้ การทำนายนี้เขาบอกว่าพระเยซูจะเสด็จมาในปี 1914 แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงปี 1914 พระเยซูไม่เสด็จมา โลกนี้ไม่ได้ถูกทำลาย พระเจ้าไม่ได้ล้างโลกนะครับ เขาจึงแก้ตัวกลุ่มนี้จึงแก้ตัวว่าพระเยซูคริสต์เสด็จมาแล้วมาทางฝ่ายวิญญาณนะครับ อันนี้เป็นเรื่องที่พี่น้องมากมายยังหลง ยังหลงเชื่อเขานะครับ ถึงแม้เขาจะแก้ตัว แต่ก็มีหลายคนที่ออกมาจากกลุ่มนี้เนื่องจากว่ามีหลายสิ่งที่ผิดเพี้ยนจากพระคัมภีร์ แต่ก็น่าสงสารน่าเสียดายที่พี่น้องอีกมากมายที่ยังตกหลุมแห่งความเชื่อที่ผิดเพี้ยนของเขา
สรุปก็คือคำทำนายของเขาไม่สำเร็จนะครับ คือปี 1914 พระเยซูไม่ได้มาล้างโลกและครอบครองโลกนี้ฟื้นฟูโลกนี้ใหม่ ผิดครับผม และเขาอ้างว่าพระเยซูคริสต์ครอบครองโลกนี้แล้วตั้งแต่ปี 1914 คือครอบครองฝ่ายวิญญาณ อาณาจักรของพระเจ้าเริ่มแล้ว อันนี้ไม่ครับไม่เป็นความจริงในพระคัมภีร์ไม่มีบันทึกไม่มีบอกเลย
ประการต่อไปกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ เชื่อว่ามนุษย์ไม่มีวิญญาณ คือมนุษย์เป็นดิน ถ้าหากตายไปก็จบสิ้นไม่มีอะไร แต่ทุกคนที่ตายไปแล้วเนี่ยเมื่อถึงวันพิพากษาครั้งสุดท้าย มนุษย์ทุกคนจะฟื้นขึ้นมาจากความตาย แต่ไม่มีวิญญาณนะครับไม่มีวิญญาณ คือดินร่างกายดินจะกลับคืนมาสู่สภาพเป็นบุคคล และไปยืนอยู่ต่อหน้าพระบัลลังก์และรับการพิพากษา ถ้าหากผู้ใดที่เป็นกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์นะครับก็จะได้รอด และใครก็ตามเชื่อพระเจ้ามากมายแค่ไหนรับเชื่อพระเยซูคริสต์หรืออะไรก็ตาม ไม่มีใครที่จะได้รับความรอดเลยนอกจากกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ กลุ่มนี้เห็นแก่ตัวมากนะครับเขาบอกว่ากลุ่มเขาเท่านั้น ถ้าอยากรอดก็ไปร่วมกลุ่มกับพยานพระยะโฮวาห์ แล้วกลุ่มอื่นเนี่ยไม่รอด
และเมื่อการพิพากษาจบสิ้นลง เขาบอกว่าทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ ก็จะดับสลายดับสิ้นไปดับสูญไป คือสูญสลายไปเพราะว่าไม่มีวิญญาณไง แล้วร่างกายนี้ก็ถูกทำลายไป และกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์เชื่อว่าไม่มีนรกนะครับ พระเจ้าคงไม่โหดร้ายถึงขนาดว่าสร้างนรกไว้สำหรับคนที่ไม่เชื่อไม่รับพระเยซู แต่แท้ที่จริงพระคัมภีร์กล่าวไว้นะครับว่า มีการลงโทษ มีนรกบึงไฟ เราปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหม
และความเชื่ออีกความเชื่อหนึ่งของกลุ่มนี้เขาเชื่อว่ากลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ที่ดีมากๆ ที่ดำเนินชีวิตที่แบบว่าไม่มีความผิดความบาปไม่ทำบาปเลยตลอดชีวิต จะมี 144,000 คน ที่ได้ขึ้นไปอยู่สวรรค์กับพระเจ้าที่ประทับของพระเจ้า และที่เหลือนะครับที่เหลือคือกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ที่เหลือเนี่ยก็จะได้อยู่ในโลกนี้เป็นพาราไดซ์ ก็คือเป็นเมืองบรมสุขเกษม หรือเป็นโลกใหม่ของเขา
แต่อีกครั้งนะครับ คนที่ไม่ได้ร่วมกลุ่มกับพยานพระยะโฮวาห์ก็จะไม่มีโอกาสได้รับความรอด และชีวิตของพวกเราทุกคนก็จะดับสลายสูญสิ้นไปไร้วี่แววไร้ร่องรอย เพราะว่าวิญญาณไม่มี สำหรับเขาเขาไม่เชื่อว่ามีวิญญาณนะครับ คือความเชื่อจะคล้ายๆ กับกลุ่มสะดูสีที่อยู่ในสมัยของพระเยซูคริสต์นะครับ
และเรื่องหลักการแห่งความรอดของกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์นี้ก็คือ 1. เชื่อพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด 2. ดำเนินชีวิตอยู่ใต้พระบัญญัติเดิมและพระบัญญัติใหม่ ซึ่งต้องเป็นคนที่เคร่งครัดในการดำเนินชีวิตเชื่อฟังพระเจ้าอย่างเคร่งครัด ซึ่งแตกต่างไปจากความเชื่อของคริสเตียนอย่างมากมาย
ความเชื่อหรือข่าวประเสริฐที่ไม่ถูกบิดเบือนนะครับ ก็คือเชื่อเท่านั้น เมื่อเราเชื่อรับพระเยซูคริสต์ เราก็ได้รับความรอดในวันสุดท้าย ไม่ถูกพิพากษา เพราะว่าเราบังเกิดใหม่ ความรอดเป็นของขวัญเป็นพระคุณที่พระเจ้าประทานให้เรา (อฟ 2:8-9) แต่นะครับพระเจ้าต้องการให้ทุกคนเชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าต้องการให้ทุกคนเปลี่ยน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เปลี่ยนได้
เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากเราเปลี่ยนไม่ได้ เปลี่ยนไม่ทัน ไม่สุกงอม ไม่มีชีวิตเป็นผู้ชนะ ไม่ได้ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฎหมายใหม่ของพระเยซูในมัทธิวบทที่ 5 บทที่ 6 และบทที่ 7 เราก็จะไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมงานเลี้ยงยิ่งใหญ่งานเลี้ยงแต่งงาน ยุคแห่งการฟื้นฟูโลกในยุคหน้าคือยุคอาณาจักร ซึ่งเป็นของขวัญเป็นรางวัลเป็นบำเหน็จสำหรับผู้ชนะทั้งหลาย ขณะที่คริสเตียนเด็กคริสเตียนศาสนาที่เปลี่ยนไม่ทัน ไม่มีโอกาสได้เปลี่ยน พระเจ้าจำต้องตีสอนเขาและให้เขาใช้หนี้จนครบนะครับ ก็คือครบพันปี
และหลังจากนั้นก็จะได้รอดในวันสุดท้าย เนื่องจากว่าพระเจ้าสงสารเมตตาทุกคน แต่พระเจ้าต้องการให้เขาเปลี่ยนและเขาเปลี่ยนไม่ทัน เขาก็จำต้องอยู่ข้างนอกใช้หนี้ให้ครบร้องไห้ขบเคี่ยวเคี้ยวฟันถูกทุบตี พระเจ้าลงโทษเขานะครับ และมนุษย์ที่ไม่เชื่อที่อยู่ในช่วงเวลาพันปีก็จะดูถูกเหยียดหยามเขา คือให้คนเหยียบย่ำ คำว่าเหยียบย่ำ ในมัทธิวบทที่ 5:13 คือการมองของชาวโลกที่มองคริสเตียนที่เป็นเด็ก คือคนเหล่านี้ไม่มีปัญญาได้เข้าไปข้างใน ดูสิเป็นคริสเตียนยังไง
และสำหรับคริสเตียนเรา เราเชื่อว่าโลกนี้จะต้องถูกทำลาย และการพิพากษาครั้งสุดท้ายจะเกิดขึ้นจะเริ่มขึ้น และพี่น้องคริสเตียนผู้เชื่อทุกคนที่ได้บังเกิดใหม่จริงๆ ก็จะได้รับความรอดเข้าไปสู่ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ซึ่งเป็นชีวิตที่ยืดยาวไปชั่วนิรันดร์ ไม่มีวันจบสิ้นอีกแล้ว คริสเตียนทุกคนจะได้รอด และถึงแม้ว่าคริสเตียนศาสนาคริสเตียนเด็กที่โตไม่ทัน ไม่มีชีวิตใหม่ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลง ก็จะได้รอดนะครับ แต่เป็นประชากรของสวรรค์ใหม่เท่านั้น ไม่มีโอกาสได้ครอบครองร่วมกับพระเยซูเพราะว่าการครอบครอง ตำแหน่งใหญ่โต การได้มีส่วนได้รับเกียรติที่พระเยซูประทานให้ คือคนที่สุกงอมแล้วเท่านั้น คือคนที่ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้พระบัญญัติใหม่และเขาได้พบเคล็ดลับก็คือการดำเนินชีวิตที่ให้พระเยซูทำแทนเขา
ขอบพระคุณพระเจ้านะครับที่พี่น้องคริสเตียนจำนวนหนึ่งได้รู้ความจริงนี้แล้วได้เห็นข้อล้ำลึกของพระคำพระเจ้าแล้ว คือพระเจ้าเปิดตาให้รู้ว่าทุกวันนี้ชีวิตของเราไม่ต้องพยายามทำดี แต่พระคริสต์เป็นคนทำแทนเรา กท 2:20 กล่าวว่าข้าพเจ้าไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป ข้าพเจ้าถูกตรึงแล้วกับพระเยซูคริสต์ แต่พระคริสตจต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า
การมีชีวิตอยู่ในพระคริสต์ การมีชีวิตอยู่ของพระคริสต์อยู่ในเรา ก็คือพระคริสต์ทำแทนเรา เราจะเห็นว่า กท 5:22-23 กล่าวว่าผลของพระวิญญาณ ไม่ใช่ผลของเราเอง
อ่านต่อ: กลุ่มเทียมเท็จ