ถาม.
ขอถามอาจารย์หน่อยครับ ว่าพระเยซูทรงรักษาโรคทางร่างกายของเราให้หายได้ทุกอย่าง แล้วส่วนจิตใจล่ะครับ พระเยซูจะรักษาไหมครับ หรือว่าพระเยซูจะเปลี่ยนจิตใจใหม่ให้เราครับ เอเมนครับ
ตอบ.
สำหรับพระเจ้านะครับ สำหรับพระเจ้า เมื่อเราเชื่อพระเยซู เราต้อนรับพระเยซู สิ่งที่เราต้องมองนะครับ ก็คือ ใหม่หมด
คำว่า ใหม่หมด ที่นี้ ในที่นี้ ก็คือ ใหม่ในพระคริสต์
ซึ่งอยากเห็นประสบการณ์ของร่างกายใหม่ จิตใจใหม่ ชีวิตใหม่ ก็ต้องเชื่อว่าเราเป็นคนใหม่แล้ว เป็นของพระคริสต์แล้ว
สิ่งที่พระเจ้ารักษานะครับ ร่างกายก็คือรักษาโรค เพียงแต่เราเชื่อ พระเยซูแบกรับเอาความเจ็บไข้ทั้งหลายไปที่กางเขนแล้ว ไปที่ความตายของพระเยซูแล้ว เมื่อเราเชื่อและเชื่ออย่างตายใจ พระเจ้าก็จะรักษาไม่ว่าจะโรคร้ายหนักแค่ไหนก็หายได้
ส่วนจิตใจของเรา ความเป็นจริงนะครับก็คือจิตใจเราใหม่แล้วในพระคริสต์ ในพระคริสต์ไม่ใช่เราเอง ไม่ใช่สายตาที่เรามองเห็น เมื่อเราเชื่อทุกวันว่าเราใหม่แล้ว ในที่สุดพระวิญญาณก็จะครอบครองขยายอาณาเขตจาก วิญญาณของเราไปสู่จิตใจของเรา จิตใจของเรามีกี่ห้องคือที่ไหนก็ตาม พระเจ้าก็จะเข้ามาครอบครองทีละเล็กทีละน้อย จนสุดท้ายเราทำบาปไม่ได้ และนี่คือผ่านไปหลายปีเราก็จะเห็นประสบการณ์สิ่งนี้ก็คือ เลิกทำบาปได้อย่างครบถ้วน นานๆ ทำบาปทีนึงครับ
สรุปก็คือ พระเจ้าครอบครองจิตใจเราแล้ว โดยทางความเชื่อ (อฟ 3:17) ในพระเยซูคริสต์ เพียงแต่เราตอนนี้ยังไม่เห็นประสบการณ์นี้นะครับ ก็คือ เรายังทำบาปอยู่ ยังไม่เห็นจิตใจใหม่
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราควรทำ ก็คือ เชื่อว่า “พระเยซูข้าพระองค์มีจิตใจใหม่แล้ว พระองค์ประทานให้แล้ว”
เอเสเคียล 36:26-27 บอกว่า เราจะประทานวิญญาณใหม่ให้แก่เจ้า เอเมนเราได้รับแล้ว เราจะประทานจิตใจใหม่ให้แก่เจ้า เอเมนเราได้รับแล้ว เมื่อพระเยซูฟื้นคืนพระชนม์
แล้วตอนนี้อยากเห็นไหม จิตใจใหม่ อยากเห็นชีวิตใหม่ ก็คือเชื่อในความจริงของพระเจ้าที่ทำแล้วในพระคริสต์ แล้วในที่สุดพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะนำประสบการณ์เหล่านั้นมาสู่จิตใจของเรา ทำให้เราเห็นจิตใจใหม่มากขึ้นมากขึ้นทุกวัน
ทุกวันนี้คริสเตียนมากมายไม่รู้นะครับว่าเขาเป็นคนใหม่ใช่ไหม เขารู้แต่ว่าได้บังเกิดใหม่ คำว่า บังเกิดใหม่ คือเกิดใหม่ คำว่า เกิดใหม่ ก็คือคนที่เกิดมาเนี่ยเป็นคนใหม่หรือคนเก่า (คนใหม่เอเมนขอบคุณพระเยซู) แล้วคนใหม่คนนี้มีจิตใจไหม มีนะครับ แล้วจิตใจนี้นะครับควรจะเป็นจิตใจใหม่ เราเห็นหรือยัง ยังไม่เห็น ถ้ายังไม่เห็นเชื่อสิครับ เมื่อเชื่อเราจะเห็น เอเมน
เอเฟซัสบทที่ 3:17 เพื่อพระคริสต์จะทรงสถิตอยู่ในจิตของท่านโดยทางความเชื่อ โดยทางความเชื่อนะครับ พระคริสต์สถิตในจิตใจของเรา
เพื่อพวกท่านซึ่งถูกหยั่งราก หยั่งรากนะครับอันแรก และตั้งมั่นอยู่ในความรักแล้ว คำว่า แล้ว นะครับ เราไปดูภาษาอังกฤษ ก็คือเราพบว่าพระคริสต์หยั่งรากแล้ว และพระคริสต์ตั้งมั่น ให้เรานะครับตั้งมั่นอยู่ในความรักของพระองค์แล้ว เป็นอดีตกาล คือสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้ว
เราอยากเห็น การหยั่งรากและการตั้งมั่นในความรักของพระเจ้าในเราแล้ว ก็คือเราเชื่อ
ขอบคุณพระเจ้าทุกวันนี้พระองค์หยั่ง เรานะครับถูกหยั่งรากเข้าสู่จิตของเรา และตั้งมั่นอยู่ในความรักเข้าสู่จิตของเรา ในจิตของเรามีการหยั่งรากของพระเจ้า และในจิตของเรามีความรักของพระเจ้าเต็มอยู่ในหัวใจในจิตของเรา
เพราะฉะนั้นถ้าอยากเห็น อยากมีประสบการณ์ชีวิตที่มีจิตใหม่ ที่เบาสบาย ที่สงบสุข นิ่งสงบเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น ปัญหาเกิดขึ้น ทุกสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับเรา เราจะตั้งมั่นอยู่ในความรักของพระเจ้าและถูกหยั่งรากในพระเจ้า ไม่มีอะไรทำอะไรเราได้ ไม่สะทกสะท้านไม่กระทบกระเทือนเรา ขอบคุณพระเยซู
ตอนที่ผมฝึกครั้งแรกนะครับ ช่วงแรกๆ ที่ผมฝึก ก็คือ “ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ครอบครองจิตใจของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เชื่อ เชื่อ เชื่อ ไม่เห็นจะเชื่อ” ในที่สุดกิเลสตัณหาโลภโกรธหลงก็ค่อยๆ ค่อยๆ ค่อยๆ ค่อยๆ เบาลง คือนานๆ มาทำบาปอีกทีนึง อันนี้เป็นเรื่องปกตินะครับ เป็นเรื่องปกติของคริสเตียน ที่เราคริสเตียนเด็ก หนุ่ม หรือผู้ใหญ่ เราอาจจะเผลอบ้าง พลั้งบ้าง พลาดบ้าง
คือความบาปสำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณนะครับ ความบาปสำหรับพระเจ้าเนี่ย ก็คือเป็นสิ่งที่เราอาจจะเผลอ อาจจะพลั้ง อาจจะคิดไม่ถึง อาจจะมองไปที่ฝ่ายเนื้อหนัง ฝ่ายร่างกาย เราเห็นอากาศร้อนเราอาจจะบ่นนิดๆ หน่อยๆ ทุกสิ่งที่มันไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้าที่ไม่เป็นสิ่งที่ดีเนี่ย ก็คือเป็นสิ่งบาปทั้งหมด เพราะฉะนั้นไม่มีใครในโลกนี้ สำหรับพระเจ้านะครับไม่มีใครที่จะไม่ทำบาป ทุกคนทำ เพียงแต่ว่าทำมากทำน้อยแค่นั้นเอง
แต่เรา เราถูกครอบครองจิตแล้ว เราเชื่อแล้ว เราจะทำบาปน้อยลง จาก 10 นะครับ ลงมาเป็น 9-8-7-6-5-4-3-2-1 แต่สำหรับคริสเตียนมากมายทุกวันนี้ ก็คือเขายังเก็บหมกความบาปเอาไว้ เขาเชื่อใหม่นะครับความบาปก็คือ 1 แต่ต่อมาเชื่อนานเข้าก็คือความบาปก็เป็น 2-3-4-5-6 ความบาปของคริสเตียนศาสนาก็คือมีมากขึ้น แต่ความบาปของคริสเตียนฝ่ายวิญญาณมีน้อยลง เท่านั้นเอง เอเมนพระเยซู
เชื่อทุกวันนะครับ เชื่อทุกวันว่าเราเป็นคนใหม่แล้ว เชื่อทุกวันว่าจิตนี้พระคริสต์ทรงครอบครองเป็นเจ้าของแล้ว และในที่สุดพระวิญญาณก็จะแพร่ขยาย ขยายอาณาเขต จากวิญญาณของเรา มาสู่จิตของเรา ขอบคุณพระเยซู
...
ถาม.
ผมเคยอ่านบทความของคริสเตียนศาสนาเขาบอกว่า เขาเลิกทำบาปได้แล้ว แบบเขาไม่ทำบาปอีกแล้ว แสดงว่ายังไงครับ เขาโกหกหรือเปล่าครับแบบนี้ เอเมนครับ
ตอบ.
นี่คือคำโกหกที่เขาโกหกตัวเอง โกหกพระเจ้า แล้วก็โกหกพี่น้องนะครับ ในหนังสือ 1 ยอห์น ก็คือยอห์นเป็นคนพูดโดยพระวิญญาณ ถ้าหากใครที่บอกว่าเขาไม่ทำบาปอีกและไม่มีบาปอีก คือคนที่โกหกพระเจ้า และโกหกเขาเอง ทุกคนนะครับจะต้องทำบาปไม่มากก็น้อยนะครับ
“1 ยอห์น 1:8 ถ้าเราทั้งหลายจะว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเอง และความจริงไม่ได้อยู่ในเราเลย ”
สำหรับผมผมเข้าใจดีว่า มีพี่น้องคริสเตียนศาสนาหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้นำ บอกว่าข้าพเจ้าเลิกทำบาปได้ทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้ทำอะไรผิดต่อพระเจ้า เดินไปกับพระเจ้าในแต่ละวัน แต่เขาเป็นคริสเตียนศาสนา อันนี้เป็นคำพูดที่เขาพยายามยกเขาขึ้น แล้วก็อวดความชอบธรรม
มีหลายครั้งใช่ไหมที่เราเคยอยู่ในโบสถ์คริสเตียนศาสนา เราจะพบว่ามีพี่น้องบางคนแต่งกายสุภาพดูดี การเดินการนั่งการพูดจะพูดเบาๆ พูดเหมือนคนที่เข้มแข็ง พอหนุนใจพี่น้องก็บอกว่าเราต้องเข้มแข็งนะ ต้องรักพระเจ้านะ ต้องไม่ทำบาปนะ ต้องกลับใจนะ อะไรประมาณนี้ คนในลักษณะนี้พระเยซูตรัสว่า เป็นคนที่เรียกตนเองว่าเป็นคนชอบธรรม เป็นคนชอบธรรม แต่จริงๆ เขาไม่ได้ชอบธรรมต่อสายพระเนตรของพระเจ้า พระเจ้ารู้ดีว่าเขายังทำบาปอยู่ในที่ลับลี้แน่นอน
...
ถาม.
พระเยซูไม่สถิตอยู่กับเราตลอดเวลา เพราะว่าเราเป็นเนื้อหนังนะครับ เอเมน
ตอบ.
อันนี้ขอล้างเท้าพี่น้องนะครับ ขอคัดค้านนะครับ พระเยซูสถิตอยู่ในเราตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วัน พระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระบิดา ก็สถิตอยู่กับเรา 24 ชั่วโมง 7 วัน
เมื่อเราทำบาปนะครับ พระวิญญาณของพระเจ้าทั้ง 3 พระภาคก็อยู่กับเราและไม่ยอมจากไปไหน เพียงแต่ว่าพระองค์เสียพระทัย
ถามว่าพระวิญญาณสถิตอยู่ที่ไหน อยู่ในวิญญาณครับ ส่วนที่ทำบาปก็คือจิตเราเป็นคนทำนะครับ
คืออาจจะไม่ชัดเจนเท่ากับตอนที่พระคัมภีร์ยอห์นบทที่ 14:16 ที่บอกว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์จะอยู่กับเราตลอดไป ในหนังสือยอห์นบทที่ 14 คือเราจะขอพระบิดา ประทานพระองค์หนึ่งมาอยู่กับพวกท่าน และจะอยู่กับพวกท่านตลอดไป ภาษาอังกฤษ Forever
“ยอห์น 14:16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะทรงประทานผู้ปลอบประโลมใจอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อพระองค์จะได้อยู่กับท่านตลอดไป”
...
ถาม.
เข้าใจแล้ว คงจะเป็นการทดสอบเนาะ ทดสอบการทดลองเนาะ เอเมน
ตอบ.
เป็นการเรียนรู้ครับ เราอยู่ร่วมกันกับพระกาย เราได้เรียนรู้จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราทุกคนรับการเสริมสร้างกันและกัน ก่อกันขึ้น ล้างเท้ากันและกัน เมื่อมีพี่น้องที่อาจจะเข้าใจผิดอยู่นะครับ แล้วเราก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพี่น้องที่ถ่อมใจ เอเมน