เอเมน เราขอบคุณพระเยซูสำหรับวันนี้ที่พระองค์นำเรามาถึงกิจการบทที่ 20
ขอบพระคุณพระเจ้าที่เราได้มารู้จักพระองค์และได้เข้าถึงพระองค์ถึงพระสิริของพระองค์ ได้รับพระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการ ได้เข้าสู่ชีวิตใหม่ในฝ่ายวิญญาณ ได้รับการเปิดตา สรรเสริญพระเยซูเอเมน
เราขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้เราได้พบ 3 สิ่ง
ก็คือเรื่องการเดินในพระวิญญาณของมนุษย์วิญญาณ ก็คือเปาโลการประกาศ การรับใช้ การหนุนใจตักเตือนว่ากล่าว โดยที่ท่านได้รับอนุญาต คำสั่ง การนำพา การทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านจึงทำ
ถ้าหากว่าท่านไม่ได้รับการนำพา การเร้าใจ การอนุญาต การทรงสั่งของพระเจ้า ท่านจะไม่ทำ
ก็คือเราจะทำร้อยพันครั้ง แต่พระเจ้าไม่อนุญาต พระเจ้าไม่พอพระทัย พระเจ้าไม่ได้สั่ง มันก็เสียเปล่า ก็คือการก่อชีวิตก่อการรับใช้ขึ้นด้วย ไม้ ฟาง หญ้าแห้ง นั่นเอง
บำเหน็จอาจจะมีในชีวิตนี้ พระเจ้าอาจจะตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ แต่จะไม่มีบำเหน็จในอาณาจักรและในแผ่นดินโลกใหม่ สำคัญมากนะเรื่องนี้ นี่คือการดำเนินชีวิตของคริสเตียนที่ควรทำตามแบบอย่างของเปาโล
ที่ผ่านมาเราอาจจะทำโดยการกระตุ้นของความคิดจิตใจ จิตใต้สำนึก จากจิตของเรา ความเมตตา สงสาร อยากช่วย อยากให้ แต่ไม่ได้รับการเร้าใจดลใจนำพาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็ได้รับผลตอบแทนในชีวิตนี้ (แต่ไม่มีบำเหน็จ) ไม่ได้ก่อขึ้นเป็นมงกุฎให้เราสวมใส่ มีบำเหน็จมีตำแหน่งในอาณาจักรที่จะมา
สำหรับคำสอนของศาสนา ก็คือการเดินในพระวิญญาณ การฟังการรับพระสุรเสียงจากพระเจ้า เป็นสิ่งที่เขาเข้าใจกันอีกแบบกับพวกเรา คริสเตียนโดยทั่วไปส่วนมากเขาจะรอฟังพระสุรเสียง เฝ้าเดี่ยวตอนดึกๆ ตี 2 ตี 3 เพื่อจะได้ยินเสียงของพระเจ้า แล้วก็ออกมาจากห้อง แล้วก็ไปทำ เขาคิดว่าพระเจ้าจะตรัสกับเขาบ่อยๆ แล้วบางคนก็อ้าง อ้างว่าพระเจ้าตรัสกับเขาบ่อยมาก ตรัสกับเขาทั้งวัน แต่จริงๆ ถ้าเขาพูดแบบนี้ มีใครพูดแบบนี้อย่าไปเชื่อ อย่าเพิ่งไปเชื่อ
ยุคนี้เป็นยุคพระคุณ พระเจ้าซ่อนอยู่ โดยอาศัยความเชื่อพระเจ้าก็ปรากฏ แต่การปรากฏของพระเจ้าไม่เยอะขนาดนั้น จะไม่พูดกับเราบ่อยขนาดนั้น ถ้ามีใครมาอ้างในกลุ่มพวกเรา บอกเขานะครับว่าให้กลับใจ หรือมาคุยกับผมนะครับ เพราะว่ามันไม่มี พระเจ้าตรัสกับเรานะครับครั้งสองครั้ง นานๆ ทีนึง
ต่อไปจะพูดเรื่องการตรัสของพระเจ้า การเรียนรู้ที่จะฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า
คือเอาเริ่มจากการเดินในพระวิญญาณก่อน สำหรับการเดินในพระวิญญาณ คือคำสอนของศาสนา เขาบอกว่าพยายามเชื่อฟังเลิกทำบาป เขาเรียกอันนี้ว่าการเดินในพระวิญญาณ เขาไม่เน้นและไม่รู้จักเรื่องการสนิทการบอกรัก ไม่เน้นความผูกพัน แต่เน้นการทำทำเพื่อพระเจ้า ถูกไหมครับ
แต่สำหรับพวกเรา ก็คือเราดูเปาโลเป็นตัวอย่าง ในการดำเนินชีวิตคริสเตียน หรือมนุษย์วิญญาณ ชีวิตของมนุษย์วิญญาณจะเป็นแบบนี้
จากคำสอนการฝึกเดินของท่าน เราพบว่า การเดินในความจริงของพระเจ้าในพระคริสต์ ของเปาโลก็คือ
1. ข้อที่หนึ่ง ก็คือแบกกางเขนติดตามพระเยซู แบกกางเขนคืออะไร ก็คือตายทุกวัน กางเขนเล็งถึงความตาย ก็คืนแบกกางเขนทุกวัน ตายทุกวันก็คือนับว่าตาย เชื่อว่าตาย 1 โครินธ์ 15:31 ข้าพเจ้าตายทุกวัน โรม 6:11 จงนับว่าท่านตาย และกาลาเทีย 2:20 ข้าพเจ้าไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป ข้าพเจ้าตายแล้ว
2. และข้อที่สอง ก็คือนับว่าเป็นคนใหม่ ถวายตัวใหม่นี้ให้พระคริสต์ใช้ทุกวัน ตัวบาปทำบาปในเราแทนเราฉันใด ตอนนี้ก็คือผู้ชอบธรรมในเราทำแทนเราฉันนั้น (โรม 6:12-13)
ยิ่งเราสนิทมาก เราก็จะได้สัมผัสพระวิญญาณมาก การได้ยินพระสุรเสียง การได้รับรู้การเตือนการสัมผัส การนำพา การเร้าใจของพระวิญญาณกับเรา ก็จะมีมากขึ้น เคล็ดลับอยู่ตรงนี้ “สนิทมากจะได้สัมผัสมาก”
ต่อมาก็คือการเรียนรู้เรื่องการฟัง การดำเนินชีวิตตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์
1. ก็คือจากเสียง จากนิมิต จากโซเชียล จากทีวี จากมือถือ จากอะไรก็ตาม หรือมนุษย์ที่อยู่รอบข้างเรา เหตุการณ์ที่อยู่รอบข้างเรา สิ่งที่เราได้เห็นได้ยินซ้ำๆ จากหลายคนมาบอกด้วย หรืออาจจะมีคนเดียวมาบอกแต่เป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายวิญญาณ นี่คือการมาเตือนมาบอกมาพูดกับเราของพระวิญญาณบริสุทธิ์
อย่าเข้าใจผิดนะครับ ว่าพระเจ้าจะพูดกับเราเท่านั้น พระเจ้าจะตรัสกับเราอาจจะทางเสียงก็ได้ พูดได้แต่นานๆ ทีนึง หรือจากนิมิต จากโซเชียล จากทีวี จากมือถือ จากมนุษย์ จากสิ่งที่ได้เห็นได้ยินซ้ำๆ หลายครั้ง
อย่าเชื่อถ้ามีใครมาบอกคนเดียวนะครับ บอกว่าพระเจ้าบอกให้ผมมาบอกคุณ ว่าอันนี้อันนั้น อันนี้อย่าไปเชื่ออย่าเพิ่งเชื่อนะครับ ต้องรอเหตุการณ์ที่จะตามมาก่อนซ้ำๆ
และสำหรับเรานะครับ ที่เรียนรู้ที่จะฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า เราต้องสังเกตว่า สิ่งที่เราได้ยินได้ฟัง หรือคนพูด ต้องอยู่ในทางที่บริสุทธิ์ ความสว่าง และความชอบธรรม
เมื่อวานมีน้องสาวคนหนึ่งที่มาถามผมนะครับว่า ฝันว่ามีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอันนี้ผมรู้เลยนะครับว่า นี่ไม่ได้มาทางบริสุทธิ์ ความสว่าง และความชอบธรรม ก็คือมารแทรกเข้ามา
2. สิ่งที่เราควรระมัดระวัง สองสิ่งที่เราระมัดระวังนะครับ
- สิ่งที่ระวังอันเเรก ก็คือจากมนุษย์ที่พูดมาโดยที่เขาอ้างว่าพระเจ้านำ หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์เตือน บอกให้มาบอก
หรือระวังมารนะครับ ที่ฉวยโอกาสแทรก มารมันปลอมตัวมาเป็นทูตสวรรค์ แล้วก็มาพูดกับเราว่าพระเจ้าบอกอันนี้อันนั้น
- และสิ่งที่ระวังต่อมานะครับ ก็คือความคิดของเราเอง สมองของเราความคิดของเราบางครั้งเนี่ย ก็คือโกหกเราว่าพระเจ้า หรือเชื่อนะครับ หลอกตัวเองว่าเป็นพระเจ้าที่พูด จริงๆ แล้วไม่ใช่นะครับ
ซึ่งถ้าเป็นพระเจ้าพูดกับเราหรือบอกเราเนี่ย ก็จะเกิดขึ้นซ้ำๆ หลายครั้ง จนเรามั่นใจว่าเนี่ยไม่ใช่บังเอิญ หรือไม่ใช่ความคิดของเรา หรือไม่ใช่มารแทรกนะครับ แต่เป็นมาโดยพระเจ้า เอเมน
นี่คือสิ่งแรก จาก 3 สิ่ง 3 สิ่งก็คือ..
1. ข้อที่หนึ่ง การเดินในพระวิญญาณเพื่อเรียนรู้ในการฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า ไปมาทำทุกสิ่งโดยการนำพาของพระเจ้า ถ้าพระเจ้าไม่นำไม่ทำ
พูดง่ายๆ สำหรับวันนี้ตรีมของเรา ข้อ 1. ข้อแรก ถ้าพระเจ้าไม่นำไม่ทำ
2. และข้อที่สอง ก็คือเปาโลไปถึงที่ไหน พี่น้องสังเกตนะครับ ว่าท่านจะเกิดผล 2 อย่าง เกิดผล 2 ประการ ก็คือประกาศข่าวประเสริฐกับคนที่ไม่เชื่อ และหนุนใจตักเตือนสั่งสอนว่ากล่าวผู้ที่เชื่อ
เราสังเกตนะครับ ว่าจดหมายของเปาโล ไม่มีบอกว่ารำคาญ หมาที่บ้านเห่ารำคาญ เสียงนกเสียงกา หรืออากาศร้อน วันนี้ร้อนมาก โอ้อากาศหนาวมาก รถติด เป็นแบบนี้แบบนั้น ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราควรจะทำเป็นแบบอย่างนะครับ
เรามาถึงคริสตจักรหรือมาเปิดกลุ่มไลน์ร่วมกันเพื่อนมัสการพระเจ้า เราก็เริ่มบ่นใช่ไหม รถติด อากาศร้อน เป็นแบบนี้แบบนั้น เป็นหนี้อธิษฐานเผื่อด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่ควรนำมาสู่พระกายของพระเยซู พระกายของพระเยซูนะครับต้องการการเสริมสร้างให้เติบโตในฝ่ายวิญญาณ เราพูดแต่สิ่งดีๆ พูดแต่สิ่งที่เสริมสร้างพี่น้อง ล้างเท้าพี่น้อง เอเมนไหมครับ
อันนี้เป็นจุดบกพร่องนะครับ สำหรับกลุ่มศาสนา ศาสนาคริสต์เนี่ยเขาทำกันจนเห็นเป็นประจำ และในกลุ่มของพี่น้องพระกายฝ่ายวิญญาณก็พอมีบ้างนะครับสำหรับพี่น้องที่เข้ามาใหม่
แต่สำหรับเราที่อยู่นานแล้วเนี่ย มีพี่น้องที่เข้ามาใหม่ เราก็หนุนใจตักเตือน แนะนำเขา บอกว่าอย่าพูดถึงเรื่องฝ่ายร่างกาย รถเสีย อากาศร้อน เป็นแบบนี้แบบนั้น รถติด เราจะไม่พูดถึงเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เราจะไม่พูดถึงเรื่องกระแสเรื่องดาราเรื่องข่าวดราม่าทั้งหลายที่อยู่ข้างนอก เราไม่พูดถึงนะครับ แต่เรามาถึงปุ๊บเนี่ย ก็คือพูดถึงเรื่องฝ่ายวิญญาณ เอเมน
3. สิ่งที่สาม เราพูดถึงเรื่องแดนคนตาย เมืองบรมสุขเกษม เกเฮนา บึงไฟ สวรรค์ อาณาจักรพันปี และแผ่นดินโลกใหม่ มีคำสอนที่ผิดมากมายนะครับ เนื่องจากว่าการแปล แปลผิดจากภาษากรีก คำว่า บึงไฟ เขาแปลแทนคำว่า แดนมรณา แดนคนตาย คือ (Hades ฮาเดช) และบึงไฟบางครั้งเขาก็แปลแทนคำว่า นรก เขาใช้คำว่านรกใช่ไหม
อีกอย่างเราอย่าเข้าใจผิดนะครับ บึงไฟตอนนี้ยังไม่มี ยังไม่เปิดใช้บริการ เพราะว่าพระเจ้ายังจะไม่ส่งใครไปที่บึงไฟ บึงไฟนะครับเป็นสถานที่เป็นเหมือนคุกที่กักขังคนที่ไม่เชื่อ ต้องเกิดขึ้นต้องมีขึ้นหลังจากที่พระเยซูคริสต์พิพากษาครั้งสุดท้าย ก็คือที่พระบัลลังก์ใหญ่สีขาว
เพราะฉะนั้นการพิพากษาดังกล่าวยังมาไม่ถึง เพราะฉะนั้นบึงไฟก็ยังไม่เปิดใช้บริการ แต่บึงไฟจะเปิดใช้ในหนังสือวิวรณ์บทที่ 19 ก็คือ หลังจากที่พระคริสต์เทียมเท็จและซาตานร่วมมือกันกำจัดต่อสู้กับพระเยซูเป็นสงครามอามาเกดอนครั้งสุดท้าย ในวิวรณ์บทที่ 19 หลังจากนั้นก็คือส่งซาตานและส่งพระคริสต์เทียมเท็จไปอยู่ก่อนเพื่อน ไปเปิดบริการใช้บริการก่อนเพื่อน
หลังจากนั้นนะครับ การพิพากษาที่พระบัลลังก์ใหญ่สีขาวก่อน ที่จะเปิดแผ่นดินโลกใหม่ให้คนที่เชื่อ ก็คือส่งคนที่ไม่เชื่อทุกคนไปที่บึงไฟ แล้วบึงไฟนะครับ เป็นภาษาอังกฤษ ก็คือเรียกว่าเป็นบึงไฟที่กว้างใหญ่ แต่สำหรับภาษาอังกฤษและภาษาไทยทั่วไปใช้คำว่า นรก นรกเนี่ยก็คือคำที่ยืมมาจากศาสนาอื่น ศาสนาพุทธบ้างศาสนาอื่นบ้าง (นรก Hell) ไม่มีในพระคัมภีร์นะครับ
สรุปง่ายๆ ก็คือ คนที่ไม่เชื่อที่ตายตอนนี้ หรือในอดีต ก็คือไปอยู่ที่เมืองผีหรือแดนมรณา
ส่วนคนที่เชื่อพระเจ้า ก็จะไปอยู่ที่เมืองบรมสุขเกษม หรือที่เรียกว่า อกอับราฮัม ภาษาอังกฤษเรียกว่า (พาราไดซ์ Paradise)
แล้ว เกเฮนา มาตอนไหน
เกเฮนา ก็คือมาตอนจะเปิดใช้บริการในยุคพันปี คนที่เชื่อแต่ไม่สุกงอมยังทำบาปอยู่เป็นประจำ ยังไม่สุกงอมยังเลิกทำบาปไม่ได้ ก็คือคนที่ดำเนินชีวิตในเนื้อหนัง และก่อชีวิตขึ้นด้วยไม้ฟางหญ้าแห้ง สุดท้ายก็จะไปจบอยู่ที่เกเฮนา หลังจากอยู่ในเกเฮนาเป็นเวลาพันปี ขณะที่ผู้เชื่อผู้ชนะร่วมสุขกับพระเยซูอยู่ข้างในอาณาจักรเป็นเวลาพันปี
พอเหตุการณ์พันปีผ่านไป คนที่เชื่อที่ถูกบ่มถูกตีสอนในเกเฮนาเป็นเวลาพันปี ก็จะสุกงอมและจะทำบาปไม่ได้ ถูกล้างสมองทุกสิ่งถูกลบล้างไปหมด สิ่งที่เป็นด้านลบด้านเนื้อหนัง เข้าสู่มนุษย์วิญญาณอย่างเต็มตัว แต่ปัญหาก็คือ เขาจะได้รอดแต่รอดโดยผ่านพ้นไฟ ก็คือไม่มีบำเหน็จไม่มีตำแหน่ง เป็นประชากรของแผ่นดินโลกใหม่เท่านั้น
สำหรับผู้เชื่อที่ชนะแล้วนะครับ เลิกทำบาปได้แล้ว ร่วมครอบครองกับพระเยซูในช่วงยุคพันปีผ่านพ้นไป และต่อมาเข้าสู่แผ่นดินโลกใหม่ ก็จะมีส่วนครอบครองกับพระเยซูสืบๆ ไปเป็นนิตย์ เอเมน
สรุปก็คือวันนี้เราเรียนรู้กันถึง 3 เรื่องด้วยกัน ก็คือ..
ข้อที่หนึ่ง การฝึกเดินในพระวิญญาณของมนุษย์วิญญาณ เพื่อที่จะรับรู้เรียนรู้การสัมผัสการพูดการตรัสการนำพาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เคล็ดลับก็คือการสนิทในพระเยซู ยิ่งสนิทมากเท่าไรเราจะได้ยินเสียง ได้รับรู้ ได้ฟัง ได้เห็นโลกแห่งวิญญาณจากพระคริสต์มากเท่านั้น
ข้อที่สอง ก็คือเราไปที่ไหนเราควรจะเกิดผล 2 อย่าง ก็คือประกาศข่าวประเสริฐกับคนที่ไม่เชื่อ และแนะนำตักเตือนสั่งสอนว่ากล่าวหนุนใจล้างเท้าเสริมสร้างชีวิตฝ่ายวิญญาณของพี่น้องที่เชื่อแล้ว เพราะฉะนั้นเลิกพูดนะครับ สิ่งที่ไร้สาระ เปาโลไม่เคยพูดในสิ่งที่ไร้สาระ สิ่งที่ไม่มีประโยชน์สำหรับฝ่ายวิญญาณ เราจะไม่พูดเหมือนเปาโล เอเมน
เราเปิดกลุ่มนะครับ เราเข้ามาร่วมกันปุ๊บเนี่ย มีแค่ 2 คนก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องถามไถ่อะไรมากนะครับ ก็คือเอเมนพระเยซูเรามาวันนี้ เพื่อนมัสการพระองค์ เอเมนพระเยซูตอนนี้เราอยู่กัน 3 คน มนุษย์ 2 คนนะครับพระเจ้าคนหนึ่ง ก็คือ 3 คน เริ่มนมัสการพระเจ้าเริ่มอธิษฐานนะครับ อย่าเสียเวลา
พี่น้องบางคนอาจจะไม่อยากได้ยินเราพูด อาจจะไม่อยากฟังเรานะครับ เขาต้องการจะรับการเสริมสร้างรับการก่อขึ้นในฝ่ายวิญญาณ แต่เราเนี่ยพูดๆๆๆ ไปไม่รู้อะไรต่ออะไร
แล้วสำหรับพี่น้องพวกเราเหมือนกันโดยเฉพาะอันนี้ผมขอย้ำ แล้วก็ผมพูดด้วยรักนะครับ ด้วยรักในพระเยซู ไม่ตำหนินะครับ พี่น้องหญิงนะครับ ถ้าเจอกันอย่าพูดในสิ่งที่เป็นด้านลบ อย่าตำหนิใครลับหลัง อย่านินทาว่ากล่าว แต่ให้คำพูดของเราทุกคำทุกถ้อยคำออกมาเป็นการหนุนใจ เป็นดอกไม้ เป็นน้ำที่รดต้นไม้ที่เหี่ยวแห้งอยู่ เราทุกคนต้องการการชุ่มฉ่ำของชีวิตฝ่ายวิญญาณ เอเมน
ข้อที่สาม ข้อสุดท้ายเราจะเรียนรู้ด้วยกัน ถ้าหากเราไม่เข้าใจก็พี่น้องโพสต์ลงไปเรื่องเกี่ยวกับแดนคนตาย เรื่องเมืองบรมสุขเกษม เกเฮนา บึงไฟ สวรรค์ อาณาจักรพันปีเป็นแบบไหน มีลักษณะยังไง ไปอยู่ไหนก่อน อะไรเปิดใช้บริการก่อน เราไปเรียนรู้ให้เข้าใจเพื่อจะไม่เข้าใจผิดหรือเชื่อผิดนะครับ เอเมนขอบคุณพระเยซู