การพูดคุย เราพูดคุย เราสะสมมานา เราฝึกเดินมากขึ้น มากขึ้นๆๆ ในที่สุดการพูดคุยของเราจะเปลี่ยนเอง

ถาม.

อย่างที่เราพูดไม่เป็นหรือพูดไม่เก่ง แต่เราพูดแบบว่าพูดไม่สุภาพ แต่ว่าพระเจ้าก็ฟัง เพราะว่าสังเกตคือจะพูดกับพระเจ้า อย่างที่เราก่อนจะทำอะไรหรือว่าอย่างเวลาที่เราเหนื่อยก็เลยแบบว่า 'พระเจ้าจ๋า' อันนี้เราพูดผิดหรือเปล่า หรือว่า 'พระเจ้าจ๋าเหนื่อยเหลือเกิน ร้อนเหลือเกินพระเจ้าจ๋า พระเจ้าทำแทน เป็นลมพัดแทนลูกได้ไหม พระเจ้าช่วยลูกได้ไหม ลูกเชื่อนะว่าพระองค์รักลูกจริงๆลูกก็รักพระองค์จริงๆเช่นเดียวกัน ก็ขอบคุณพระเจ้าทุกๆกรณีเลยที่พระองค์นั้นจะเป็นความรักให้แก่ลูกพระเจ้าจ๋าลูกรักพระเยซูนะ' พูดแบบนี้มันใช้ได้ไหมคะ

ตอบ.

ใช้ได้ทุกคำพูดครับ สำหรับเราพระเจ้ารู้ดี พระเจ้าเข้าใจดี พระเจ้ามองเราเหมือนเด็กๆ อย่าลืมน่ะครับเราจะเป็นผู้ใหญ่แค่ไหนก็ตามสำหรับสายตาของมนุษย์ แต่พี่น้องเชื่อไหมครับว่า สำหรับพระเจ้า พระเจ้ามองเราทุกคนว่าเป็นเด็ก เราทุกคนเป็นบุตรพระเจ้า เป็นน้องๆของพระเยซู เพราะฉะนั้นพูดอะไรก็ได้ครับไม่ต้องสรรหาคำที่มันดูดีหรือว่าเป็นถ้อยคำที่แบบสุภาพอะไร คือเราคิดในใจอะไรเราก็พูดอย่างนั้น (ขอเพียงแต่อย่าใช้คำที่หยาบคายก็พอ.. อันนี้เราห้ามได้ใช่ไหมล่ะ)

สำหรับผม ผมชอบพูดคุยกับพระเยซูเป็นภาษาอังกฤษเพราะว่าคุ้นเคย อยู่อเมริกาก็ใช้ภาษาอังกฤษบ่อย เพราะฉะนั้นก็พูดไป คือฝรั่งจะมีนิสัยอย่างหนึ่งก็คือ พูดตรงไปตรงมา ไม่ต้องสรรหา ไม่ต้องพูดสุภาพอ่อนน้อมเสียงหวานอะไร คือธรรมดาเป็นตัวของเราเอง ก็คุยกับพระเจ้าไป

อย่าลืมนะการพูดคุย เราพูดคุย เราสะสมมานา เราฝึกเดินมากขึ้น มากขึ้นๆๆ ในที่สุดการพูดคุยของเราจะเปลี่ยนเอง การเข้ามาอยู่ในสังคมคริสเตียนของมานาที่ซ่อนไว้ ก็คือพระเจ้าจะเป็นคนเปลี่ยนเราเองทีละจุด ทีละจุดๆๆๆ แม้แต่การพูด การฟัง การมอง การยืน การเดิน คุณสมบัติ ท่าที บุคลิก พระเจ้าจะเปลี่ยนเอง

ซึ่งเมื่อก่อนเราเป็นคนโหดห้าว เป็นคนแข็งกระด้าง เป็นคนพูดหยาบคายหรือเป็นคนพูดเสียงดัง อะไรก็แล้วแต่ ในที่สุดทุกคน "ถ้าฝึกเดินในพระวิญญาณ สนิทในพระเยซูมากๆ" นิสัยของคุณแต่ละคนจะกลายเป็นนิสัยของพระเยซูโดยอัตโนมัติ