การวัดพระวิหารของพระเจ้า
11:1 และได้มอบไม้อ้อท่อนหนึ่งเป็นเหมือนไม้เรียวแก่ข้าพเจ้า และทูตสวรรค์องค์นั้นยืนอยู่ โดยกล่าวว่า “จงลุกขึ้น และไปวัดพระวิหารของพระเจ้า และแท่นบูชา และคนทั้งหลายที่นมัสการในที่นั่น
11:2 แต่ลานซึ่งอยู่ข้างนอกพระวิหารนั้นให้อยู่ต่างหาก และไม่ต้องวัด เพราะว่าลานนั้นได้มอบไว้แก่คนต่างชาติแล้ว และเมืองบริสุทธิ์จะถูกพวกเขาเหยียบย่ำลงใต้เท้าเป็นเวลาสี่สิบสองเดือน
** 1. ท่านยอห์นวัดพระวิหารในสวรรค์
- ("พระวิหาร" ในที่นี้ภาษากรีกใช้คำว่า "ชั้นในสุด" หรือที่รู้กันว่าพระวิหารของแท้และดั้งเดิมในสวรรค์นั้นเอง)
** 2. ลานชั้นนอกพระวิหารนั้น
- หมายถึง พระวิหารในโลกนี้ที่กรุงเยรูซาเล็ม
** เพราะว่าที่นั่นได้มอบไว้แก่คนต่างชาติแล้ว และเขาจะเหยียบย่ำเมืองบริสุทธิ์ลงใต้เท้าตลอดสี่สิบสองเดือน
- หมายถึง พระคริสต์เทียมเท็จจะมาสร้างให้สำเร็จและอ้างตนเป็นพระเจ้าเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้มัน
11:3 และเราจะให้ฤทธิ์อำนาจแก่พยานทั้งสองของเรา และเขาจะพยากรณ์ตลอดพันสองร้อยหกสิบวัน นุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ
** พยานทั้งสอง ก็คือท่านโมเสสและท่านเอลิยาห์ ที่จะมาประกาศและเป็นพยานจนครบสามปีครึ่งสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นยุคนี้
** พันสองร้อยหกสิบวัน (บางฉบับกล่าวว่าสี่สิบสองเดือน) เท่ากับสามปีครึ่ง
11:4 พยานทั้งสองนั้นคือต้นมะกอกเทศสองต้น และคันประทีปสองคันที่ตั้งอยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า ผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งแผ่นดินโลก
** "ต้นมะกอก" คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ ชาวยิวใช้มะกอกเพื่อผลิตน้ำมัน
** "คันประทีป" คือวิญญาณทั้งหลายของผู้เชื่อ ที่รวมตัวกันเป็นคริสตจักร
- ท่านโมเสสและเอลิยาห์ประกาศเป็นพยานและนำคริสตจักรในช่วงสามปีครึ่งซื่งเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าฉายแสงส่องสว่างในช่วงเวลาแห่งความมืดมิดน่ากลัวนี้
11:5 ในระยะสามปีครึ่งสุดท้ายนี้ไม่มีใครอาจจะทำร้ายท่านทั้งสองได้ จนกว่าจะครบกำหนด
11:6 พยานทั้งสอง ได้รับมอบฤทธิ์อำนาจลงโทษแผ่นดินโลกส่วนไหนเวลาไหนก็ได้
11:7 พระคริสต์เทียมเท็จจะมาปรกฎและฆ่าท่านทั้งสองให้ตาย
11:8 ศพของท่านทั้งสองจะถูกทิ้งไว้ที่ถนนในกรุงเยรูซาเล็ม
11:9 กรุงเยรูซาเล็มจะเป็นจุดศูนย์กลางของโลกในเวลานั้น ชาวต่างชาติที่ยอมติดตามพระคริสต์เทียมเท็จจะมาดูศพของท่านทั้งสองที่นี่
11:10 ชาวโลกต่างก็ดีใจชื่นชมยินดี เพราะเหตุสองท่านนี้ตาย เนื้องจากถูกท่านทั้งสองลงโทษและปรักปรำเรื่องความบาปและไม่ยอมกลับใจเชื่อ
11:11 ท่านทั้งสองฟื้นขึ้นมาจากตาย ทุกคนก็เริ่มหวั่นไหวและกลัวมาก
11:12 ท่านทั้งสองถูกรับขึ้นสู่เมฆ
** ข้อ 12 การรับขึ้นในครั้งนี้ ท่านทั้งสองถูกรับพร้อมกับผู้เชื่ออีกมากมาย ขึ้นไปอยู่ในเมฆ ไม่ใช่สวรรค์หรือพระที่นั่งของพระเจ้า (1 ธส 4:17) เพราะว่าท่านทั้งสองทำงานช่วยผู้เชื่อครบกำหนด 1260 วัน (สามปีครึ่งสุดท้าย)
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
11:13 และในชั่วโมงนั้นเองก็มีแผ่นดินไหวใหญ่ และหนึ่งในสิบส่วนของเมืองนั้นก็ถล่มลงเสีย และในแผ่นดินไหวนั้นมีคนถูกฆ่าเจ็ดพันคน และคนที่เหลืออยู่นั้นมีความหวาดกลัวยิ่ง และได้ถวายสง่าราศีแด่พระเจ้าแห่งสวรรค์
11:14 วิบัติอย่างที่สองก็ผ่านไปแล้ว ดูเถิด วิบัติอย่างที่สามก็จะมาถึงในไม่ช้านี้
** วันที่พยานทั้งสองถูกรับขึ้นเป็นวันสุดท้ายของยุคพระคุณ และจะเริ่มยุคใหม่ ฑูตสวรรค์ใกล้จะเป่าแตรที่เจ็ด การยากลำบากสุดท้ายจะกระหน่ำลงมาที่แผ่นดินโลก เพื่อฟื้นฟูแผ่นดินโลกนี้
** หนังสือวิวรณ์(บทที่ 11:15-19) // จบครึ่งแรกของหนังสือวิวรณ์ //
แตรที่เจ็ด: การประกาศถึงชัยชนะแห่งอาณาจักรของพระคริสต์
11:15 และทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดเป่าแตรขึ้น และมีเสียงดังหลาย ๆ เสียงในสวรรค์ โดยกล่าวว่า “ราชอาณาจักรทั้งหลายของโลกนี้ได้กลายเป็นราชอาณาจักรทั้งหลายขององค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเราแล้ว และเป็นของพระคริสต์ของพระองค์ และพระองค์จะทรงครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์และเป็นนิตย์”
11:16 และผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนซึ่งนั่งต่อพระพักตร์พระเจ้าในบรรดาที่นั่งของตน ก็ซบหน้าลงและนมัสการพระเจ้า
11:17 โดยทูลว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์ โอ ข้าแต่พระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ซึ่งทรงดำรงอยู่บัดนี้ และทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน และจะเสด็จมาในอนาคต เพราะว่าพระองค์ได้ทรงรับฤทธานุภาพอันใหญ่ยิ่งของพระองค์ไว้สำหรับพระองค์แล้ว และได้ทรงครอบครอง
11:18 และเหล่าประชาชาติมีความโกรธแค้น และพระพิโรธของพระองค์ก็มาถึงแล้ว และเวลาแห่งคนทั้งหลายที่ตายแล้ว เพื่อพวกเขาจะถูกพิพากษา และเพื่อพระองค์จะประทานบำเหน็จแก่พวกผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกศาสดาพยากรณ์ และแก่วิสุทธิชนทั้งปวง และแก่คนทั้งหลายที่ยำเกรงพระนามของพระองค์ทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ และจะทรงทำลายคนเหล่านั้นซึ่งทำลายแผ่นดินโลก”
11:19 และพระวิหารของพระเจ้าได้ถูกเปิดออกในสวรรค์ และได้เห็นในพระวิหารของพระองค์นั้นมีหีบแห่งพันธสัญญาของพระองค์ และมีบรรดาฟ้าแลบ และเสียงต่าง ๆ และฟ้าร้องทั้งหลาย และแผ่นดินไหว และลูกเห็บห่าใหญ่
** หนังสือวิวรณ์(บทที่ 11:15-19) // จบครึ่งแรกของหนังสือวิวรณ์ //
1. พระนามของพระเจ้าเป็นที่เคารพสักการะทั่วพิภพ
2. ราชอาณาจักรของพระองค์ลงมาตั้งอยู่
3. น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ (ตั้งแต่ยุคพันปีจนถึงฟ้าสวรรค์ใหม่ชั่วนิรันดร์)
.....
1.พระเยซูเสด็จมารับผู้ชนะเท่านั้น (เก็บเกี่ยวข้าวที่สุกงอม) และทิ้งผู้เชื่อที่ยังไม่ชนะบาปและโลกไว้ (ข้าวที่ยังไม่สุกงอม)
.....
2. เจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมาน
- แบ่งเป็นสองช่วง (สามปีครึ่งแรก และสามปีครึ่งสุดท้าย)
- (สี่สิบสี่เดือน หรือหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน วว 7:8; 11:2)
.....
3. สามปีครึ่งสุดท้ายท่่านโมเสสและเอลิยาห์ถูกฆ่าตาย ทั้งสองฟื้นขึ้นและถูกรับขึ้นพร้อมกับผู้เชื่ออีกมากมาย ในวันสุดท้ายของเจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมาน (มธ 25:1-15 / วว 11:12 / 1 ธส 4:17)
.....
4. พระเยซูนำกองทัพลงมายังโลกเพื่อทำสงครามกับพระคริสต์เทียมเท็จ (สงครามโลกครั้งสุดท้าย ที่เรียกว่า อามาเกดอน) (วว 9:14-16; 19:20-21)
- ซาตานจะพ่ายแพ้และถูกกักขังจนครบพันปี (วว 20:4)
.....
5. การพิพากษาผู้เชื่อทั้งหมด เพื่อให้บำเหน็จรางวัลแก่ผู้ชนะและตีสอนผู้เชื่อที่ไม่ชนะ (สามวันดีสี่วันบาป ขึ้นๆลงๆ สุขน้อยทุกข์มากก่วา ไม่ไปถึงไหนจนวันตายเพราะว่าจิตใจใหม่ยังไม่มี)
- ผู้ชนะจะได้รับตำแหน่งและครอบครองแผ่นดินโลกร่วมกับพระเยซูในยุคสุดท้ายและชั่วนิรัดร์
- ผู้เชื่อที่ไม่ชนะบาปและโลกนี้จะถูกทอดทิ้งให้อยู่ข้างนอกอาณาจักรจนครบพันปีเพื่อบังคับให้สุกงอมและพร้อมสำหรับฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่. เพราะเหตุไม่แสวงหาราชอาณาจักรและความชอบธรรม
และทั้งชีวิตเขามุ่งแต่แสวงหาตำแหน่งชื่อเสียงเกียรติยศค่าจ้างรางวัลจากมนุษย์ เดินด้วยโกรธโลภหลงหยิ่งผยองพองตัวและใส่หน้ากาก
(วว 3:17; 11:18 / มธ 7:21-27 / 2 คร 5:10 / โรม 14:10)
ผู้เชื่อที่ไม่ชนะคือ
- เกลือที่ไม่มีรสเค็มที่ถูกโยนทิ้งออกไปข้างนอกอาณาจักร (ในยุคสุดท้าย หรือยุคหน้า)
- ตะเกียงที่เอาถังครอบไว้ (มัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำมาหากินและรักโลก)
- เดินบนทางก้วาง (เชื่อแต่ไม่ดำเนินชีวิตในพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูใน มธ บทที่ 5 ถึง 7)
- ดินที่แน่นแก่นจนไม่อาจรับข่าวประเสริฐเรื่องราชอาณาจักรได้ เพราะว่าถูกสอนเรื่องตายแล้วไปอยู่กับพระเจ้าบนสวรรค์ จบ ขณะที่ผู้ชนะได้พบราชอาณาจักรและรับชีวิตใหม่พร้อมสำหรับการกลับมาของพระเยซูคริสต์
- ทาสที่เอาของพระราชทานไปฝังไว้
- หญิงพรมจารีย์ห้าคนที่ไม่ฉลาด (ไม่ได้เอาน้ำมันใส่ภาชนะมาเผื่อ)
- ชายที่ไม่สวมเสื้อที่เหมาะกับงานสมรส
- ไม่ถ่อมแท้เหมือนเด็กเล็กๆ
- ชายที่ไม่ยอมยกโทษและให้เวลาเพื่อนที่เป็นหนี้
- ๆลๆ
.....
6. ยุคพันปีผ้านพ้นไป
- ซาตานถูกปล่อย (วว 20:7-10)
- ซาตานล่อลวงประชาชาติให้ต่อสู้กับพระคริสต์และผู้เชื่อ
- พระเจ้าทำลายซาตานและผู้ที่ติดตามมัน
.....
7. การพิพากษาบนพระบัลลังก์ใหญ่สีขาว (วว 20:11-15)
- พระเจ้าจะพิพากษาคนที่ไม่เชื่อเท่านั้นเพื่อส่งทุกคนไปยังบึงไฟที่ไม่รู้ดับ
.....
8. ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ (วว 21:1)
- ผู้เชื่อที่ชนะจะร่วมครองครองโลกและจักรวาลกับพระเยซูต่อไปชั่วนิจนิรันดร์
- ผู้เชื่อทั้งหมดที่ไม่ชนะเมื่อถูกบังคับให้สุกงอมในยุคสุดท้ายจะได้เป็นประชากรรอดเข้าสู่ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ชั่วนิจนิรันดร์ แต่ไม่มีบำเหน็จรางวัลให้
- เนื่องจากการตีความหมาย การแปลที่ผิดเพี้ยนของผู้แปลพระคัมภีร์ ภาษากรีก คำว่า “ยุค /ยุคนี้ / ยุคหน้า” ถูกแทนที่ด้วยคำว่า“โลก / โลกนี้ / โลกหน้า” ผู้เชื่อส่วนมากจืงเชื่อกันว่ายุคนี้เป็นยุคสุดท้ายแล้ว แต่แท้ที่จริง ยุคนี้เป็นยุคที่สาม และไม่ใช่ยุคสุดท้าย
สำหรับพระเจ้าโลกนี้มีสี่ยุคด้วยกัน อย่างเช่น :
1. ยุคบาป (ตั้งแต่อาดามจนถึงโมเสส)
2. ยุคพระบัญญัติ (ตั้งแต่โมเสสจนถึงพระเยซูสิ้นพระชนม์)
3. ยุคพระคุณ (ตั้งแต่พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ จนถึงยุคสุดท้าย)
4. ยุคสุดท้าย, ยุคพันปี หรือยุคราชอาณาจักร
- ถ้าหากชนชาติยิวรับพระเยซูที่เป็นกษัตริย์แห่งราอาณาจักรที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะมาครอบครองประเทศอิสราเอลและทั่วโลก ก็คงไม่ต้องมียุคหน้าหรือยุคสุดท้าย แต่เนื่องจากชาติยิวไม่รับกษัตริย์ของพวกเขา แผนการบริหารงานของพระเจ้า และทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่ “ฝ่ายวิญญาณ” จนหมดสิ้น
- ทุกวันนี้เราจึงอยู่ในยุคที่สาม และเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา ยุคสุดท้ายก็จะเริ่มขึ้น
- ข้อพระคัมภีร์ภาษากรีก ที่พูดถึง “ยุคนี้ ยุคอาณาจักร และยุคหน้า” แต่พระคัมภีร์ส่วนมากกลับแปลว่า “โลกนี้ / โลกหน้า” มีดังต่อไปนี้...
- มธ 12:32; 13:22, 39; 40, 49; 24:3; 28:20
- มก 4:19; 10:30;
- ลก 13:28-29; 16:8; 18:30; 20:34-35; 22:18
- โรม 12:2
- 1 คร 1:20; 2:6, 8; 3:18
- 2 คร 4:4
- กท 1:4
- อฟ 1:21; 2:2;
- 1 ทธ 6:17; 2 ทธ 4:10
- ทต 2:12
- ฮบ 6:5; 11:11
- เมื่อยุคนี้ผ่านพ้นไป พระเยซูจะกลับมาพร้อมกับบรรดาผู้เชื่อที่ตายแล้ว เพื่อรับการตัดสิน (พิพากษาคริสเตียนเท่านั้น โรม 14:10 / 2 คร 5:10) เพื่อให้รางวัลผู้ชนะที่สุกงอมที่มีจิตใจใหม่แล้ว และตีสอนผู้เชื่อที่ไม่สุกงอม คือการปล่อยให้ร้องให้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ข้างนอกราชอาณาจักรจนครบพันปี และได้รอดจากบึงไฟในวันสุดท้ายแต่ไม่มีรางวัลให้ (เหมือนรอดผ่านไฟ) (มธ 7:21-27; 1 คร3:12-15; 5:5; วว บทที่ 2 และ 3)
- ในยุคหน้า พระเยซูในฐานะบุตรมนุษย์จะครอบครองโลกนี้เป็นเวลาพันปี และผู้ที่ได้ครอบครองร่วมกับพระองค์ก็คือเราผู้เชื่อที่ได้รับจิตใจใหม่ที่มีชีวิตอยู่เพื่อสำแดงพระเจ้าให้โลกเห็น แทนที่จะรักโลกและอยู่เพื่อความสุขสำราญใจของตัวเอง เขาเป็นหญิงพรมจารีย์ห้าคนที่มีน้ำมัน (พระวิญญาณ) ติดตัวมาด้วย (พระเยซูครอบครองจิตใจได้แล้ว (มธ 25)