- เราจะสร้างกลุ่มคนของเราที่เราเรียกออกมา (I will build my church)
คริสตจักร คือกลุ่มผู้เชื่อของพระเยซู คำว่า "เอเกลเซีย" ใช้ได้กับทุกกลุ่มคนทุกศาสนา
คริสตจักร คืออาณาจักรของพระเจ้า ที่มีรัฐบาลของพระเจ้าคือผู้ปกครองผู้รับใช้ทุกคนช่วยกันบริหาร ดูแลคริสตจักร
- รัฐบาลชุดเดียวของพระเจ้า (The government of God)
- คริสตจักร มีผู้ปกครองเป็นศูนย์กลางหรือหัวใจสำคัญที่พระเจ้าให้เลี้ยงดูดูแลผู้เชื่อฝ่ายวิญญาณ
- ผู้ปกครองทุกคนต้องรู้แผนการของพระเจ้า คือให้พระบุตรสำแดงชีวิตของพระองค์ผ่านคริสตจักร หรือพระกาย ต่อจักรวาล
- การเลี้ยงดู ด้วยการสอนเผยพระวจนะจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อพี่น้องในพระกาย
- ถ้าหากพระกายไหนมาถึงความเที่ยงแท้ ก็จะร่วมครอบครองกับพระเยซูไปจนชั่วนิรันดร์
- การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว (the race has begun) เมื่อเราได้รู้และเข้าใจน้ำพระทัยของพระบิดา เราควรเอาใจใส่อย่างจริงจังเรื่องการอยู่เพื่อทำนาของพระองค์ และเพื่อร่วมกันเสิรมสร้างคริสตจักร และร่วมกันสนิทในพระองค์
- การเป็นหนึ่งในพระกาย พระเยซูอธิษฐานเผื่อเราให้เป็นหนึ่งในพระกาย
- ยน 15:1-5 พระคริสต์ คือ ศูนย์กลางของทุกสิ่งที่พวกเรา (พระกาย) ต้องการ การสามัคคีธรรมจึงต้องมี พระคริสต์เป็นศูนย์กลางในเวลาประชุม พระองค์เป็นผู้หล่อเลี้ยงเราเป็นทุกสิ่งที่เราต้องการ
- ในหนังสือโรม 11 บทแรก เปาโลพูดถึงการนำผู้เชื่อเข้ามาถึงพระเจ้าและการดำเนินชีวิตใหม่ฝ่ายวิญญาณ แต่ในบทที่ 12 ท่านขอร้องให้ผู้เชื่อทั้งหลายถวายตัว (ตัวใหม่หลายๆ ตัว) ในฐานะของพระกาย ให้เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตแด่พระเจ้า
- เปาโลเน้นว่า พระกายต้องเคลื่อนไหว ช่วยกัน และขาดกันไม่ได้ ทั้งยังทำหน้าที่ของตน ด้วยรักและแคร์ต่อผู้อื่น
- ปัญหาเรื่องคิดต่าง (the different opinion) ภายใน คริสตจักร อาจจะมีความคิดเห็น แนวความคิด และมุมมองที่แตกต่าง เรื่องใครถูกใครผิด (เรื่องย่อยๆ) ใครสะอาดไม่สะอาด แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือเราต้องร่วมอยู่ในพระกาย (ของผู้ชนะ)
- เราทำทุกสิ่งในพระวิญญาณ (we do all things in the Spirit) เราไม่เพียงแต่ดำเนินชีวิตอยู่ในพระวิญญาณ แต่เรายังประกาศ เลี้ยงดูป้อนและร่วมกันรับใช้ในพระวิญญาณด้วย
- ละทิ้งตัวเก่า (deny your old self) ปุโรหิตที่พร้อมจะรับใช้ คือปุโรหิตที่พร้อมจะตายต่อตัวเก่าอย่างสิ้นซาก (ลก 9:23)
- เราต้องเรียนรู้ที่จะมองไปที่พระคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ไม่ใช่มองที่อื่นเหมือนที่เราเคยทำ
- เราต้องตระหนักถึงความสำคัญของการอธิษฐาน และเดินในฐานะของปุโรหิตให้ชัดเจนมากขึ้น
- การอยู่ในพระวิญญาณเดินในพระวิญญาณประกาศเลี้ยงดูพี่น้องและรับใช้ในพระวิญญาณ คือการได้ถวายเครื่องบูชาที่หอมหวลแด่พระบิดาอย่างแท้จริง เราจึงไม่ควรขาดการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณทั้งด้านในและนอก
- พระเจ้าต้องการทางแห่งชีวิต มากกว่ารูปแนวศาสนา (The Lord wants "Life" not religious way) การรับใช้ ทุกสิ่ง ต้องทำด้วย ชีวิต ไม่ใช่รูปแนวศาสนาที่เน้นกฏเกณฑ์ประเพณี ที่ต้องทำให้พี่น้องหนักใจเพราะต้องแบกภาระหนักมาก
- ทางแห่งชีวิต ต้องทำทุกสิ่งด้วยความรัก (the "life" way must do all things with love) เมื่อเราพูดคุย เราเสริมสร้าง ให้คำปรึกษา เราทำในพระวิญญาณและด้วยรักเป็นที่หนึ่ง
- ความรู้มีสองรู้ (there are two knowing)
การได้พบมานาฯ ครั้งแรกเรียกว่าได้รู้ แต่การได้รู้ครั้งที่สองคือได้มีประสบการณ์ในชีวิตพระคริสต์ อันนี้ยากกว่าแต่ในพระคริสต์เราทำได้ทุกสิ่ง
ยกตัวอย่างเรื่องการเรียนขับรถ ตอนที่เราเรียนวิธีขับก็ย่อมจะง่ายกว่าการได้มาลองขับเอง
- อย่าขาดการสามัคคีธรรม เพื่อรักษาผลของชีวิตและเสริมสร้างให้เกิดผลมากยิ่งขึ้น
- วันและเวลา : เราไม่ตั้งกฏเกณฑ์แน่นอนว่าต้องวันไหน เราเปลี่ยนได้ ตามที่พี่น้องส่วนมากจะสะดวก
- เรื่องสถานที่ : พี่น้องที่สะดวกจะไปร่วมกันที่บ้านของคนที่เปิดต้อนรับ
- บ้านผมอยู่ไกล : เราแบ่งเป็นหลายกลุ่มได้ ใครอยู้ใกล้กลุ่มไหนก็ไปที่นั่น แต่เราเป็นหนึ่งในพระกาย
- เราจะนำอาหารติดมือมาด้วย หรือเจ้าของบ้านขอรับแขกเอง ใครไม่มีอะไรติดมือมาก็ไม่เป็นไร ตามสะดวก น้ำดื่ม อาหาร ผลไม้ ขนมปัง
เรื่องอาหาร เราต้องตระหนักถึงความเดือดร้อนหรือลำบากของกันและกัน เพื่อจะไม่มีใครเสียใจน้อยใจภายหลังเพราะรับภาระหนักและจ่ายเยอะคนเดียว
- เราควรนัดหมายพี่น้องหลายวันก่อนวันสามัคคีธรรมเพื่อดูเวลาและความสะดวกของพี่น้อง
- คริสตจักร ที่อเมริกา : จะมีสองวันที่พี่น้องมาร่วมเป็นปกติ คือ วันอังคารและวันศุกร์
- วันอังคาร เรามาอธิษฐานเผื่อทุกเรื่องตั้งแต่ 19-21น.
- เราไม่มาเรียน เราอ่านพระคำพระเจ้าบางข้อ เล็กน้อย แต่ร้องเพลงและอธิษฐานเป็นส่วนใหญ่
- ใครมาช้ามาเร็ว อยู่ได้นานแค่ไหนก็ตามสะดวกของแต่ละคน
- วันศุกร์ เราร้องเพลง และเลี้ยงอาหารพี่น้องที่เราชวนมาจากข้างบ้าน ที่ทำงาน และทุกแห่งหน เพื่อประกาศข่าวประเสริฐ
- การแจ้งการล่วงหน้า เมื่อพี่น้องเปิดบ้านต้อนรับ เราจะเขียนติดใส่กระดาน เพราะเราแนะนำให้พี่น้องอ่านเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของคริสตจักร
- พี่น้องส่วนมากจะตระหนักถึงการทำงานเพื่อพระเจ้าในฐานะของปุโรหิตหลวง และมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางจริงๆ พากเราจึงทำร่วมกันได้
- เรื่องเล็กน้อย และเนื้อหนัง เรากำจัดออกไป การกำจัด เราต้องเข้าใจกัน เมื่อมีคนเตือนเรา
- เราจะสอนเรื่องเหล่านี้กับพี่น้อง หรือทำหนังสือเพื่อแจกให้ทุกคนไปอ่านที่บ้าน
- เมื่อมีบางคนเล่าหรือพูดลบของพี่น้องในแง่ที่ไม่ใช่เพื่อการศึกษา ปล่อยให้เขาพูดจนเขาหยุดก่อน และพี่น้องที่ฟังจะบอกคนที่พูดลบ หรือเนื้อหนัง หรือเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฝ่ายวิญญาณ เพื่อป้องกันการแตกแยกแบ่งแยกที่จะเกิดขึ้น
- คนที่พูดลบหรือเนื้อหนัง ควรจะพิจารณาด้วยใจถ่อม และยอมหยุดแล้วกลับมาอยู่ในวิญญาณเพื่อร่วมกับพี่น้อง
- จดจ่อที่พระคริสต์ เราจึงเป็นหนึ่งเดียวกันได้ (Focus on Christ then we all can be oneness)
- การร่วมกันของ คริสเตียนฝ่ายวิญญาณไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในระยะที่เราเริ่มทำ
- พี่น้องมากมายไม่เห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกัน เพราะไม่เข้าใจและเห็นว่าสำคัญ
บางคนมีเหตุผลเรื่องทำบาปประจำจึงไม่กล้ามาร่วม บางคนติดธุระเพราะบริหารเวลาไม่เป็น
- มันเป็นเรื่องของการแย่งชิงเข้าอาณาจักร และการที่เราทำให้เป็นหนึ่งได้ รัก ร่วมกันได้แบบผู้ชนะ บำเหน็จ ตำแหน่ง เราก็มากกว่า ดีกว่า เราอาจไม่ต้องการแต่เป็นข้อเสนอของพระเยซูให้เรา
- การสามัคคีธรรมตามบ้าน เราสามารถปรับเปลี่ยน ยืดหยุ่น (flexible) ได้
- ผู้เชื่อมาแล้วก็ไป บางครั้งมีมากบางครั้งมีน้อย แต่เราจดจ่อที่พระคริสต์และรับชีวิตเข้ามา
- ต้องสละทิ้ง กำจัด ชีวิตเก่า คือ นิสัยเก่าของเรา / เราต้องละทิ้งมันไม่ว่าจะเวลาไหน ด้วยเชื่อ / นับอยู่เสมอ ด้วยหวังใจว่าจะเห็นมันถูกทำลายไป
- การไม่ละทิ้งตัวเก่า เราจะใช้จิตที่เป็นศาสนาเป็นใหญ่ และเข้ากับพี่น้องไม่ได้ มองบวกไม่ได้
- การละทิ้งตัวเก่าสำคัญมาก ถ้าเราไม่ทิ้ง การนมัสการของเราจะกลายเป็นศาสนา การนั่ง การมอง การคิด การสรรเสริญพระเจ้า การแบ่งปัน กลายเป็นศาสนา
- ผู้เชื่อมากมายรักพระเจ้า แต่ไม่ละทิ้งตัวเก่านิสัยเก่า จึงมาถึง *ในวิญญาณ / ในพระวิญญาณ* ไม่ได้
- เพราะตัวเก่านี่เองทำให้ คต. ไม่เป็น คต. ครอบครัวไม่เป็นครอบครัว และ คจ. ไม่เป็น คจ.
- ผู้เชื่อทุกคนสามารถเผยพระวจนะได้ และเผยทีละคน (1 คร 14:24, 31)
- เผยพระวจนะ พูดคำพูดของพระเจ้า หรือ พูดแทนพระเจ้า พระเจ้าพูดอย่างไร คิดอย่างไร คือเมื่อเผยพระวจนะ อย่าทำเพราะอยากเด่นกว่าพี่น้อง แต่จงเน้นที่การเผยเพื่อเสริมสร้าง
- คจ. ไม่ต้องการคนชอบเด่น แต่ต้องการคนที่ชอบเสริมสร้างพี่น้องเพื่อให้เขารับการเปิดตามากขึ้น
- เรามาร่วมกับพี่น้องเพื่อเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ และนมัสการพระบิดา
- เราสำแดงพระคริสต์ต่อกัน และเสริมสร้างกันและกัน
- ที่อเมริกา ปกติ วันอาทิตย์เราจะไม่เน้นการเรียนมากเกินไป แต่ช่วยกันนำทุกคนมาถึงการมีใจเดียวและใจบริสุทธิ์ถวายแด่พระเจ้า
- เราสารภาพตอนตื่นนอน ถ้าหากลืมเราทำที่ไหนก็ได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ไม่ควรสารภาพหมู่
- การถวาย
• อาหาร ผลไม้ ขนม น้ำดื่ม
• การทำความสอาด
• ทุกคนช่วยกัน
- เรากำจัดทุกสิ่งที่เป็นรูปแนวศาสนาไม่ให้เข้ามา เพราะว่าเราใช้วิญญาณในการนมัสการ
1. วิญญาณแห่งการขอบพระคุณ ยกย่องสรรเสริญ รักพระเยซู และรักพี่น้อง
2. วิญญาณแห่งการชื่นชมยินดี
3. วิญญาณแห่งการถ่อมใจเพื่อร่วมสามัคคีธรรมกับพี่น้องทุกคนได้
4. วิญญาณแห่งการเสริมสร้างพี่น้อง ด้วยการพูดแบ่งปันพระคำพระเจ้า อย่านิ่งเฉย
1. บทเรียนจากมานาที่ซ่อนไว้ ทุกคนเขียนได้แต่ขอให้ระมัดระวังเชื้อและคำพูดที่ไม่เหมาะ
2. บทเรียนจากผู้ที่มีของประทานแห่งความรู้ Andrew, Nee, Lee (รับบางส่วน แต่ต้องระมัดระวัง) Titus chu
3. การเรียนรู้เราไม่เน้นที่คริสตจักร แต่เน้นที่การอ่านส่วนตัวที่บ้าน หรือพี่น้องสองสามคนเปิดกลุ่มไลน์เพื่ออ่านและเผยพระวจนะด้วยกัน แต่เป็นหนึ่งในพระกาย
- เนื่องจากเราไม่มีเงินเดือน เราทำเท่าที่เรามีโอกาสและโดยการนำพาของพระวิญญาณ
อ่านต่อ: คริสตจักร (Church)