ถาม.
การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณภายใน ก็เคยมีค่ะตัวอย่างเช่น เราสนิทกับพระเยซูบอกรักสนทนาไปเรื่อยๆ แล้วก็มีบางครั้งที่เรารู้สึกว่า เรามีความรักเกิดขึ้นมากเลย แบบมองไปที่ไหน เห็นใครก็รักไปหมด ก็คือเป็นความรักหมดแบบว่ามีความสุขมากๆ อันนี้คือการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณภายในใช่ไหมคะ
ตอบ.
ใช่ครับ คือการสำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซูไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วจะเริ่มมีมากขึ้น มากขึ้น
ส่วนการเติมล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายนอก ก็คือเราจะมีสันติสุข เราจะมีอาการร้อนรนกระตือรือร้น เราจะสัมผัสอะไรบางอย่างที่เป็นพลังเหมือนไฟช็อต หรือเหมือนอาการซาบซ่านไปทั้งตัว หรือขนลุกหรืออาการแตะของพระวิญญาณ ซึ่งตอนนั้นเราอาจจะอยู่นิ่งไม่ได้ เราอาจจะร้องไห้ เราอาจจะอยากประกาศข่าวประเสริฐ อยากบอกรัก อยากออกไปพูดไปบอกคน ตอนนั้นเป็นตอนที่กระตือรือร้นมาก
...
ถาม.
เมื่อเรายิ่งเต็มล้นภายในมากเท่าไหร่ ก็คือความคิดของพระเยซูก็จะมาคิดแทนเราได้มากขึ้นใช่ไหมครับ คือผมมีประสบการณ์ที่ผ่านมา คือผมหิวก็เลยเข้าไปในเซเว่น แล้วผมจะซื้อแค่น้ำกับแซนวิช แต่ปรากฏว่าถามพระองค์ว่าพระองค์จะให้ซื้ออะไรอีก พระองค์ก็ให้ไปหยิบน้ำเพิ่มอีกขวดนึงแล้วก็แซนวิชอีกชิ้นนึง ผมก็ไม่ได้เอะใจทำไมเราซื้อมา 2 ชุดทำไม ทั้งๆที่เรากินคนเดียว แล้วผมก็ไปนั่งที่รถเมล์ อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมา พระองค์ก็บอกว่าเอาน้ำที่เราซื้อให้เขาไปขวดนึง แล้วก็มีอีกคนนึงเดินมาพระองค์ก็บอกว่าให้เอาแซนวิชอีกชิ้นนึงให้เขา มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมก็แปลกใจมาก เราไม่ได้คิดเอง ทำไมทุกอย่างมันเกิดขึ้นแบบงงๆ ทำไมสิ่งที่พระองค์บอกพระองค์จัดเตรียมไว้ทั้งหมดเลย คือผมไม่ได้คิดว่าต้องมาให้ใครไงครับ
ตอบ.
ขอบคุณมากนะครับที่ถามคำถามนี้ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับการชี้ทาง นำทาง บอกทาง เตือนเรา อันนี้หน้าที่ของใครครับ พระวิญญาณบริสุทธิ์นะครับ ไม่ใช่พระคริสต์ทำแทนครับ
สำหรับพระคริสต์ทำแทนคืออะไร ตัดสินใจแทนคืออะไร
คือปุ๊บปั๊บเลย เป็นคนคิดแทนเลย ไม่บอกไม่จำเป็นต้องบอก คือการกระทำแทนของพระคริสต์ ก็คือเห็นใครก็ตามที่ยากจนก็ควักกระเป๋าออกมาแล้วให้เลย โดยที่เรารู้ภายหลังนะว่าเราทำไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่ไม่มีใครบอก ไม่มีใครทำอะไรเลย อยู่ดีๆ ก็สงสารมาก ร้องไห้เห็นใจเมตตาเขา แล้วก็ควักกระเป๋าออกมาแล้วช่วยเขาให้เขา คือเรามาคิดภายหลังว่าทำได้ยังไง คือไม่มีใครบอกเรา นั่นคือการทำแทนของพระคริสต์ คิดแทนของพระคริสต์ ตัดสินใจแทนของพระคริสต์ครับ
ส่วนถ้าจะมีเสียงบอกเรา มีเสียงบอกเรามีเสียงภายในนะครับไม่ใช่คำพูดนะครับ แต่มีเสียงอะไรสักอย่างที่บอกเราภายใน เราสัมผัสได้ถึงเสียงนั้น แล้วก็บอกเราว่าซื้อเพิ่มอีกแซนวิชแล้วก็น้ำดื่มซื้อเพิ่มอีก แล้วพอเห็นใครก็บอกว่าเอาให้คนนั้น ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ครับ
ขอให้เราไปศึกษานะครับในเว็บไซต์ของมานาฯ พวกเรา ก็คือจะมีนะครับ หน้าที่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์
แต่ถ้าหากเราเข้าใจในตอนนี้ที่ผมสรุปนะครับ คือพระวิญญาณบริสุทธิ์มีหน้าที่สั่งสอน แนะนำ ตักเตือน นำทาง ปลอบประโลมใจ ชี้ทาง เปิดตา เหล่านี้นะครับก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ อย่างที่กรณีของพี่น้องที่เจอนะครับ ก็คือการนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ส่วนการทำแทนของพระคริสต์ ก็คือการดำเนินชีวิตแทน คืออยู่ดีๆ ก็ไปรักเขา อยู่ดีๆ ก็ให้เขา อยู่ดีๆ ก็ช่วยเขา อยู่ดีๆ ก็เดินไปหาเขา คือทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเสียงอะไรบอกไม่มีใครบอกเรา แต่ไปเองทำเอง นี่คือการเติบโตสู่ชีวิตและนิสัยของพระคริสต์ ก็คือการเต็มล้นภายในมากขึ้นครับ
พระเจ้าของเราน่ารักมากและพระเจ้าของเรารับเกียรติทั้ง 3 พระภาค คือพระองค์แบ่งหน้าที่ไม่มีใครแย่งหน้าที่ของใคร และพระองค์ได้รับเกียรติเท่ากันครับ
...
ถาม.
แล้วสมมุติว่าเราช่วยเหลือใครโดยที่เราไม่ได้รู้สึกเมตตาเขาหรือรักเขา แต่เป็นโดยพระเจ้าดลใจอันนี้ก็คือโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ใช่ไหม ไม่ใช่พระคริสต์ใช่ไหมครับ
ตอบ.
อีกครั้งนะครับถ้าเราเดินไปโดยที่ไม่มีเสียงบอกเรา ก็คือพระคริสต์ทำแทนเราแล้ว
แต่ถ้าหากมีเสียงบอกเรา ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ครับ
ขอให้พี่น้องไปศึกษาใหม่ไปค้นความแตกต่างระหว่างการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และของพระคริสเยซูในเรานะครับ