18:10 จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่นผู้เล็กน้อยเหล่านี้สักคนหนึ่ง ด้วยเรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า บนสวรรค์ทูตสวรรค์ประจำของเขาเฝ้าอยู่เสมอ ต่อพระพักตร์พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์
** อย่าดูหมิ่นผู้เชื่อทั้งหลาย คือแคร์เอาใจใส่ ไม่ตัดสินเขา ไม่พูดให้เขาเจ็บใจ ไม่พูดให้เขาเสียใจ อย่าทำร้ายน้ำใจกัน เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำเพราะว่ารู้ไหมในพระคัมภีร์ข้อนี้บอกว่า คริสเตียนทุกคนมีทูตสวรรค์ประจำตัว
พวกคุณเคยนึกไหมว่าคุณมีทูตสวรรค์ประจำตัว ใช่! ตอนนี้คุณจำได้ แต่คุณกลับไปบ้านคุณลืมแล้ว
คุณไม่เคยแคร์เลยว่าทูตสวรรค์กำลังเดินไปกับคุณอยู่ที่บ้านของคุณ อยู่ที่ห้องของคุณ จะเป็นห้องพัก ห้องแถว อพาร์ทเม้นท์ หรือบ้านที่คุณอยู่เป็นหลัง ทูตสวรรค์จะอยู่ที่นั่นกับคุณตลอดเวลา
ใครเคยนึกถึงบ้าง? ผ่านมาหลายปีเราลืมใช่ไหม? เราไม่เคยนึกถึงเราจำไม่ได้ เราไม่เคยคิดว่าทูตสวรรค์อยู่ที่ไหน คิดอยู่ตรงไหน อยู่ยังไงกับเรา
ทูตสวรรค์เดินไปมาดูแลเราอยู่ ทูตสวรรค์ถ้าไม่เดินอยู่ในห้องก็ออกมาเดินอยู่หน้าบ้าน ทูตสวรรค์น่ะครับถ้าไม่เดินอยู่หน้าบ้าน ก็ไปเดินอยู่บนหลังคาบ้าน จะมีทูตสวรรค์ดูแลเราอยู่ตลอดเวลาเป็นทูตสวรรค์ประจำตัวของเรา ทุกคนที่เชื่อมีทูตสวรรค์ประจำตัว พระเจ้าให้องค์หนึ่งมาอยู่กับเรา
ถาม.
ทูตสวรรค์กับพระวิญญาณองค์เดียวกันไหม
ตอบ.
ไม่ครับ ทูตสวรรค์กับองค์พระวิญญาณเป็นคนละคน
ในเรามีพระคริสต์ที่อยู่ในเราต่างหน้าของพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณ สรุปพูดง่ายๆ อยู่ในเรามี พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณ ที่อยู่ในวิญญาณของเรา และในจิตใจของเราส่วนไหนที่มันเปลี่ยนแล้ว ก็คือพระคริสต์ย้ายออกมาขยายบ้านออกมาอยู่ในจิตใจของเรา และนำพระบิดาพระบุตรพระวิญญาณออกมาด้วย
คือทุกวันนี้พระเจ้าครอบครองสถิตอยู่ในวิญญาณของเราทุกๆ คนที่เชื่อ และทุกวันนี้พระเจ้าต้องการขยายอำนาจขยายอาณาเขตออกมาสู่จิตใจ พระเจ้าต้องการครอบครองจิตใจเรา แล้วถ้าพระเจ้าครอบครองจิตใจเราได้เมื่อไหร่เราเลิกทำบาปได้เมื่อนั้น
แล้วอยากให้พระเจ้าครอบครองจิตใจเราทำยังไง?
เอเฟซัส 3:17 เพื่อพระคริสต์จะทรงสถิตในใจ (ในจิต) ของท่านโดยความเชื่อ เนื่องด้วยว่าท่านมีราก มีพื้นฐานที่ทรงวางไว้อย่างมั่นคงในความรักแล้ว
ทาง "ความเชื่อ" เพื่อพระคริสต์จะสถิตจะครอบครองจะสร้างบ้านอยู่ภายในจิตใจของเราโดยทาง "ความเชื่อ" ไม่ใช่การขอ ไม่ใช่การทำดีเพื่อให้พระคริสต์มาสถิตอยู่ในใจของเรา พระคริสต์มาสร้างบ้านมาครอบครองจิตใจของเรา ก็คือโดยทาง
"ความเชื่อ"
ทุกวันเราบอกว่า ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ครอบครองจิตใจแล้ว
ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เปลี่ยนใจข้าพระองค์แล้ว
ขอบคุณพระเยซู ที่ข้าพระองค์เลิกทำบาปได้แล้ว
ทั้งๆ ที่เรายังเลิกไม่ได้ แต่เราเชื่อไว้ก่อน เชื่อว่าทำได้แล้ว เพราะว่าทุกสิ่งอยู่ในพระคริสต์สำเร็จแล้ว เราเองยังไม่สำเร็จ แต่ในพระคริสต์สำเร็จแล้ว ในอาดัมยังไม่ถึง เรายังทำบาปอยู่ในอาดัม แต่ในพระคริสต์ชอบธรรมแล้ว ทำได้แล้ว
อยากอยู่ในพระคริสต์ อยากสำเร็จในพระคริสต์ ต้องทำอะไร? ต้องเชื่อเอา เอเมน
...
อย่าดูหมิ่นเด็กในฝ่ายวิญญาณ คือเราอย่าไปดูถูก อย่าไปดูหมิ่นประมาท อย่าไปถกเถียง อย่าไปต่อสู้คนไหนที่เป็นคริสเตียน อย่าไปต่อสู้กับเขา ถ้าเขายังถกเถียงเรา ยังต่อสู้กับเรา เขายังมาพูดดูหมิ่นเรา ก็คือเขาเป็นเด็กอยู่
ถ้าคนเป็นผู้ใหญ่ชอบเถียงไหม?
สมมุติมีพี่น้องที่ยังไม่ได้ถูกเปิดตา มาพูดกับเรา แล้วเราไปถกเถียงกับเขา ทั้งที่เขายังไม่ได้ถูกเปิดตา สิ่งที่เขาพูดกับเรา เราได้รับประโยชน์ไหม? ไม่มีประโยชน์
เขายังตาบอดอยู่เขายังไม่ได้ถูกเปิดตา เราจะพูดยังไงเราจะถกเถียง เราจะพยายามพูดๆ เขาก็ไม่เข้าใจ คืออันนี้เป็นการเสียเวลาและเป็นการทำให้เขาเสียใจ แล้วเราก็ดูหมิ่นเขาด้วย
นี่คือการดูหมิ่นในข้อที่ 10 -14 ถ้าเขาเป็นคริสเตียนเป็นอาจารย์เป็นผู้นำก็ตาม ถ้าเขามาห้ามดูหมิ่นเขา ทำยังไงก็ได้ ก็คือรัก เอาใจ เอาใจใส่ แคร์ พูดอะไรก็ได้ที่ทำให้เขาไม่เสียใจ
เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ยังทำงานในชีวิตเขาอยู่พระเจ้าไม่ได้ทิ้งเขา คนไหนก็ตาม ใครก็ตามที่มาพูดไม่ดีกับเรา เราอย่าไปต่อสู้ อย่าไปทำลายน้ำใจเขา เพราะว่าพระเจ้าก็รักเขาเหมือนกัน พระเจ้าให้ฝนตกถึงทุกคน
คือทำอะไรก็ได้อย่าทำลายน้ำใจของพี่น้องผู้เชื่อด้วยกัน
เขาถกเถียงเราเพราะว่าเขายังไม่ถูกเปิดตา เราขอบคุณพระเจ้า เราถูกเปิดตา เขายังไม่ได้ถูกเปิดตา เราขอบคุณพระเจ้า พระเจ้าเลือกเราไม่ได้เลือกเขา เราอธิษฐานเผื่อ ห้ามเถียง ห้ามพูดประชดประชัน
สมัยก่อนถ้าเราไปพูดกับใคร ถ้าเขาไม่รับเราก็สะบัดผงขี้ดินหรือว่าเราคิดในใจเราขอให้พระเจ้าลงโทษเขา
สิ่งนี้อย่าให้มีในคุณสมบัติของพวกเราในยุคนี้ เพราะว่าพระบิดาของเราตอนนี้นั่งอยู่ที่พระบัลลังก์แห่งพระคุณ เราก็ต้องมีจิตใจที่มีพระคุณที่มีเมตตาต่อผู้อื่น
นี่คือความรักที่พระเจ้าต้องการใส่ใจให้พวกเราทุกคนมีในมัทธิวบทที่ 18 ข้อ 10 -14 นี้น่ะครับ อย่าดูถูกผู้เชื่อด้วยกัน
18:11 เพราะว่าบุตรมนุษย์ได้เสด็จมาเพื่อช่วยผู้ซึ่งหลงหายไปนั้นให้รอด
18:12 ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร ถ้าผู้หนึ่งมีแกะอยู่ร้อยตัว และตัวหนึ่งหลงหายไปจากฝูง ผู้นั้นจะไม่ละแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้แล้วขึ้นไปบนภูเขาเที่ยวหาตัวที่หายนั้นหรือ
18:13 เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้นั้นพบแกะตัวที่หาย เขาจะชื่นชมยินดียิ่งกว่าที่มีแกะเก้าสิบเก้าตัวที่มิได้หลงหายนั้น
18:14 อย่างนั้นแหละ พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ไม่ทรงปรารถนาให้ผู้เล็กน้อยเหล่านี้สักคนหนึ่งพินาศไปเลย
** ในหนังสือมัทธิวบทที่ 8 เราจำกันได้ไหม พระเยซูไปไหน
พระเยซูข้ามทะเลไปเกาะกาดารา เพื่อช่วยผู้ชายคนเดียว มีผู้ชายคนเดียวที่ถูกผีสิงผีเข้า ผู้ชายคนเดียว พระเยซูกับสาวกลงทุนมากขนาดไหนเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปที่เกาะเพื่อไปช่วยคนคนเดียวเท่านั้น
เห็นไหมพระเจ้ารักมนุษย์ทุกๆ คน ไม่ว่าคุณจะยากจน คุณจะเป็นคนต่ำแค่ไหน คุณจะเป็นชาวนาชาวไร่ คุณจะเป็นทาสก็ตาม มนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้ คุณจะพิการก็ตาม คุณจะไม่สมประกอบก็ตาม แต่พระเจ้ารักคุณมาก พระเจ้าไม่เคยทิ้งใครแม้แต่คนเดียวพระเจ้ารักทุกๆ คน
เพราะฉะนั้นแกะตัวเดียวที่หลงหายไปพระเจ้าก็ยังไปตามก็เหมือนกับชายที่ถูกผีสิงอยู่ที่เกาะกาดารา
เพราะฉะนั้นถ้าเราจะไปประกาศข่าวประเสริฐ จะไปไหนจะทำอะไร
สมมุติ
"ทุกคนวันนี้เราจะไปคริสตจักรไปประกาศที่ริมโขงมีคน คนเดียว"
ไม่มีใครอยากไป
แต่เราชวนกันใหม่
"วันนี้มี 10 คนที่จะกลับใจอยู่ที่ริมโขงเราไปกันไหม"
ทุกคนอยากไปตื่นเต้น
พูดถึงเรื่องมาคริสตจักร วันนี้ฝนตกคนจะมาคริสตจักรน่าจะ 4-5 คน เราได้ยินว่า 4-5 คน เราไม่อยากไป
แต่ถ้า โอ้ วันนี้มี 50 คน มาที่คริสตจักรอยากไปตื่นเต้น
เราดูที่จำนวน เราดูที่คนมากคนน้อยเท่าไร เราดูที่ผลงานดีไม่ดีแค่ไหน ใช่ไหม?
แต่สำหรับพระเจ้า พระเจ้าไม่ต้องการให้เรามองแบบนั้น
ถ้าคริสตจักรนี้ไม่มีใครมา มีแค่คนหนึ่งหรือสองคนอยากนมัสการ เราทำยังไง? คำตอบคือมา..! พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่กับเรา ได้รับพระพรเท่ากัน ดีไม่ดีนะ ถ้าคุณทำเพื่อสิ่งเล็กน้อยคุณได้บำเหน็จมาก มากด้วยซ้ำไป
ถ้าจะไปคริสตจักรไหนมีคนเยอะคุณไป คุณก็ได้รับพร ได้รับบำเหน็จ
แต่ถ้าคุณไปคริสตจักรไหน แล้วอยู่ไกลแค่ไหนโดยที่การเดินทางก็ไม่ได้สะดวก แล้วคนมาก็ไม่เยอะ แต่พระเจ้าให้พรให้บำเหน็จมากกว่า เข้าใจน่ะครับมากกว่า
เพราะว่าเราทำอะไรที่ลำบากกว่า เราก็ได้รับบำเหน็จมากกว่า เราไปหาคนจำนวนน้อยๆ เราไปด้วยความยากลำบาก ไม่ได้ไปสบายแบบเขา เราไปแบบทุกข์ยาก แล้วเราไปคนก็น้อยๆ อันนี้เป็นสิ่งที่ได้รับบำเหน็จเยอะกว่า
แต่ถ้าเราไปคริสตจักรไหนที่เจริญรุ่งเรืองเดินทางสบาย ไปสบาย ทุกอย่างสบาย มันง่าย คนก็เต็ม บำเหน็จมี แต่ไม่เยอะเท่ากับเราไปแบบลำบาก
ถ้าอยากตากแอร์ สังคมอาจารย์ผู้นำต่างๆ อย่าลืมนะอันนั้นมันเป็นทางกว้าง
เรามาเนี่ย ทางคับทางแคบ มายาก
คำว่า ดูหมิ่น ในพระคัมภีร์มัทธิวบทที่ 18 เรื่องการดูหมิ่น การไม่เอาใจใส่เด็ก
อันนี้เป็น เรื่องของความเชื่อ เรื่องฝ่ายวิญญาณ เรื่องการแปลพระคัมภีร์ เรื่องการช่วยเหลือเขาให้เติบโต ไม่ใช่เรื่องที่เราไปต่อว่าเขาว่า ไอดำ ไอเตี้ย อันนี้ไม่เกี่ยว อันนี้เป็นการเสียใจเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เรื่องการสะดุดเสียใจในที่นี้ ก็คือเสียใจสะดุดเรื่องความเชื่อ เป็นเรื่องวิญญาณ ไม่ใช่เป็นเรื่องฝ่ายเนื้อหนัง
แต่ " ไอดำ ไอเตี้ย ไอผอม ไอมืด" อันนี้เป็นการดูหมิ่นฝ่ายร่างกาย แต่พระเจ้าก็ไม่อนุญาตให้เราทำเหมือนกัน เราต้องถ่อมตน คำพูดเราต้องให้มันเป็นเกลือที่มีรสเค็มอยู่เสมอ
อย่าลืมนะคริสเตียน สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการดำเนินชีวิตของเรา ก็คือ "ปาก" ปากน่ะครับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ขอให้เราเปลี่ยนปากให้เป็นปากพระเยซู
และแกะหลงหายหลงทาง ก็คือหลงในความเชื่อ หลงหายในความเชื่อ
เราอย่าลืมนะพระเยซูกำลังพูดถึงเรื่องอะไรมัทธิวบทที่ 18 พระเยซูพูดถึง เรื่องเด็กฝ่ายวิญญาณ แล้วแกะที่หลงหาย พระเยซูพูดถึงเรื่องเด็กฝ่ายวิญญาณที่กำลังหลงหายในความเชื่อ ไม่ใช่คนที่ไม่เชื่ออันนี้ไม่เกี่ยว
อันนี้คือเด็กฝ่ายวิญญาณที่หลงหาย ทุกวันนี้ในคริสตจักรมีเด็กฝ่ายวิญญาณที่หลงหายในความเชื่อเยอะมาก
คืออะไร? คือเขาเชื่อไม่ถูก เขาเชื่อผิด พี่น้องท่านนี้เคยเป็นแกะที่หลงหายนานหลายปีเพราะว่าเขาเชื่อไม่ถูก พอเขากลับมาเชื่อถูก เรียกว่าแกะที่ไม่หลงหายแล้ว
คำอุปมาเรื่องแกะหลงหายในมัทธิวบทที่ 18 นี้ พูดถึงคริสเตียนที่กำลังไม่ถูกเปิดตาเดินหลงทาง
ทุกวันนี้คริสเตียนมากมายหลงทาง เชื่อไม่ถูก อธิษฐานไม่ถูก อ่านพระคัมภีร์ไม่เป็น นมัสการพระเจ้าไม่ถูก พระเจ้าไม่เคยได้รับเกียรติ ไม่เคยทำทุกสิ่งเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า พระเจ้ารับไม่ได้เพราะว่ามันเป็นไม้ ฟาง หญ้าแห้ง
และบุตรที่หลงหายในลูกาบทที่ 15 เป็นเรื่องของคนที่จะมาเป็นคริสเตียน และชาวยิว
ก็คือสองคน ยิวกับคนบาป ที่นั่งกินข้าวร่วมกับพระเยซู กับมัทธิว แล้วฟาริสีที่ยืนก็เป็น บุตรคนโต ก็คือฟาริสีและธรรมาจารย์
บุตรที่หายไป ก็คือคนเก็บภาษีและคนบาป อันนั้นเป็นเรื่องบุตรที่หลงหายไม่เกี่ยวกับมัทธิวบทที่ 18
แกะที่หลงหายในมัทธิวบทที่ 18 พูดถึงคริสเตียนที่หลงทางอยู่ ผมเป็นคริสเตียนมา 18 ปี ผมหลงทางผมเชื่อไม่ถูก ผมแปลพระคัมภีร์ไม่เป็นอธิบายไม่ถูกไม่เคยพบมานาที่ซ่อนไว้ หลังจากที่พบมานาที่ซ่อนไว้ ก็คือแกะที่ไม่หลงอีกแล้ว
ขอให้เราแยกพระคำภีร์ให้ออก แปลพระคัมภีร์ให้ถูก อย่าเอาอันนี้มาใส่อันนี้ คือไม่ใช่เรื่องเดียวกันน่ะครับ
อ่านเพิ่มเติม: เด็กในวันนี้ คือผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์