ถาม.
ถ้าเขายังไม่มาเชื่อ ยังไม่มารู้จักพระเจ้า ถ้าเรารู้จักเขาเราก็ต้องอธิษฐานเผื่อเขาใช่ไหมคะ
ตอบ.
การประกาศข่าวประเสริฐการที่จะช่วยเหลือใครสักคนหนึ่ง เมื่อเราประกาศข่าวประเสริฐแล้วเขาปฏิเสธ ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นจะไม่รอด อย่าลืมนะครับว่ายังมีวันพรุ่งนี้ วันนี้เขาไม่รับ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ เดือนหน้าปีหน้า เขาอาจจะรับก็ได้
ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ หลังจากที่เราประกาศข่าวประเสริฐให้เขาได้ยินได้ฟังเรื่องพระเยซูคริสต์เรื่องความรอด วันนี้เขาปฏิเสธ แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่เคยละทิ้ง ไม่เคยยกเลิก ไม่เคยหยุดทำงาน พระวิญญาณบริสุทธิ์รับหน้าที่รับช่วงต่อจากเราแล้วก็ไปทำๆๆ หาโอกาส หาช่องว่างหาตอนไหนก็ได้ที่จะทำให้เขาได้มารู้จัก และได้มาเห็นความสำคัญของข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์และต้อนรับในที่สุด
ผมเองนะครับ เคยมีคนมาประกาศ ผมไม่รับและดูถูกคนที่เป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐที่เดินทางมาเป็นกลุ่ม ผมดูถูกเขาผมพูดเหยียบหยามเขา แต่ในที่สุดอีกไม่นานต่อมาผมก็รับเชื่อ ผมก็กลายเป็นคริสเตียน เห็นไหมครับ
เพราะฉะนั้นมีหลายคนมีประสบการณ์แบบนี้ ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อเราก็ไม่สนใจ แต่ต่อมาพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่เคยทิ้งไม่เคยหยุดไม่เคยยกเลิก พระองค์ก็ทำๆๆ สุดท้ายก็ได้ชนะใจเรา แล้วเราก็กลายเป็นบุตรพระเจ้า ก็ขอบคุณพระเยซู
ฉะนั้นเราอธิษฐานเผื่อครับ เราอธิษฐานเผื่อต่อไปไม่ทิ้งเขานะครับ ไม่ใช่ว่าสะบัดผงฝุ่นจากเท้าแล้วก็เดินหนี อันนั้นเป็นสิ่งที่พระเยซูอนุญาตให้สาวกทำกับชาวยิวเท่านั้น ซึ่งเป็นตอนที่พระเยซูยังมีชีวิตอยู่
แต่ตอนนี้ถ้าเราทำแบบนั้นมันไม่สุภาพใช่ไหม ถ้ามีใครเห็นมีคนเห็นมันสุภาพไหม ไม่นะครับ และในพระคัมภีร์ไม่เคยบอกให้คริสเตียนทำกับคนต่างชาติแบบนั้น
อธิษฐานเผื่อคนที่ไม่เชื่อต่อไปนะครับ ญาติเรา คนในครอบครัวเรา เราพูดทุกวันๆ เขาก็ไม่เชื่อยังไงเขาก็ไม่เชื่อ อย่าลืมนะครับพระวิญญาณบริสุทธิ์เจาะจิ้มพยายามไม่เคยลดละ จนเอาชนะเขาได้ในวันหนึ่ง แต่เราอธิษฐานเผื่อเขา
ใครจะรอดหรือไม่รอด ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่ออยู่ที่วันสุดท้ายของชีวิตของเขา ซึ่งจะเป็นเดือนเป็นปีอะไรเราไม่รู้
หน้าที่ของเราคือทำอะไรครับ ประกาศและอธิษฐานเผื่อ เอเมน