1. สภาพใหม่ ( New condition )
2. ตำแหน่งใหม่ ( New position )
3. นายคนใหม่ ( New master )
คือเราเป็นคนใหม่แล้ว ซึ่งตัวเก่าหรือชีวิตเก่าของเราถูกตรึงกับพระเยซูคริสต์ บนไม้กางเขนแล้ว
ในโรมบทที่ 6 ข้อที่ 2 ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย พวกเราที่ตายต่อบาปแล้ว จะมีชีวิตในบาปต่อไปอย่างไรได้
และโรมบทที่ 6 ข้อที่ 3 กล่าวว่า ท่านไม่รู้หรือว่า เราทั้งหลายที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ ก็ได้รับบัพติศมานั้นเข้าในความตายของพระองค์
โรมบทที่ 6 ข้อที่ 6 กล่าวว่า เราทั้งหลายรู้แล้วว่า มนุษย์เก่าของเรานั้นได้ถูกตรึงไว้กับพระองค์แล้ว เพื่อตัวที่บาปนั้นจะถูกทำลายให้สิ้นไป เพื่อเราจะไม่เป็นทาสของบาปอีกต่อไป
2 โครินธ์ บทที่ 5 ข้อที่ 14 กล่าวว่า เพราะว่าความรักของพระคริสต์ได้ครอบครองเราอยู่ เพราะเราคิดเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง เหตุฉะนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว
กาลาเทีย บทที่ 2 ข้อที่ 20 กล่าวว่า ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว แต่ข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ข้าพเจ้าเองมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า
โคโลสี บทที่ 2 ข้อที่ 20 กล่าวว่า ถ้าท่านตายกับพระคริสต์พ้นจากหลักการต่างๆที่เป็นของโลกแล้ว เหตุไฉนท่านจึงมีชีวิตอยู่เหมือนกับว่าท่านยังอยู่ฝ่ายโลก ยอมอยู่ใต้กฎต่างๆ
โคโลสี บทที่ 3 ข้อที่ 3 กล่าวว่า เพราะว่าท่านได้ตายแล้วและชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า
โรม บทที่ 6 ข้อที่ 4 กล่าวว่า เหตุฉะนั้นเราจึงถูกฝังไว้กับพระองค์แล้วโดยการรับบัพติศมาเข้าส่วนในความตายนั้น เหมือนกับที่พระคริสต์ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย โดยเดชพระรัศมีของพระบิดาอย่างไร เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยอย่างนั้น
โคโลสี บทที่ 2 ข้อที่ 12 กล่าวว่า ได้ถูกฝังไว้กับพระองค์ในบัพติศมา ซึ่งท่านได้เป็นขึ้นมากับพระองค์ด้วย โดยความเชื่อในการกระทำของพระเจ้า ผู้ได้ทรงบันดาลให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย
ยอห์น บทที่ 3 ข้อที่ 3-5 กล่าวถึง การบังเกิดใหม่ของเรา ด้วยการเชื่อในพระเยซูคริสต์
โรม บทที่ 5 ข้อที่ 19 กล่าวว่า เพราะว่าคนเป็นอันมากเป็นคนบาปเพราะคนๆเดียวที่มิได้เชื่อฟังฉันใด คนเป็นอันมากก็เป็นคนชอบธรรมเพราะพระองค์ผู้เดียวที่ได้ทรงเชื่อฟังฉันนั้น
2 โครินธ์ บทที่ 5 ข้อที่ 17 กล่าวว่า เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆก็ล่วงไป ดูเถิด สิ่งสารพัดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น
2 โครินธ์ บทที่ 5 ข้อที่ 16 กล่าวว่า เหตุฉะนั้นตั้งแต่นี้ไปเราจะไม่พิจารณาผู้ใดตามเนื้อหนัง แม้ว่าเมื่อก่อนเราเคยพิจารณาพระคริสต์ตามเนื้อหนังก็จริง แต่เดี๋ยวนี้เราจะไม่พิจารณาพระองค์เช่นนั้นอีก
...
สำหรับคริสเตียนเรา เราสวมชีวิตใหม่ คือสวมชีวิตของพระคริสต์แล้ว
โคโลสี บทที่ 3 ข้อที่ 10 กล่าวว่า และได้สวมมนุษย์ใหม่ที่กำลังทรงสร้างขึ้นใหม่ในความรู้ตามแบบพระฉายของพระองค์ผู้ได้ทรงสร้างขึ้นนั้น
กาลาเทีย บทที่ 3 ข้อที่ 27 กล่าวว่า เพราะเหตุว่า ทุกคนในพวกท่านที่รับบัพติศมาเข้าร่วมในพระคริสต์แล้ว ก็ได้สวมชีวิตพระคริสต์
กาลาเทีย บทที่ 6 ข้อที่ 15 กล่าวว่า เพราะว่าในพระเยซูคริสต์ การที่ถือพิธีเข้าสุหนัตหรือไม่ถือพิธีเข้าสุหนัต ไม่เป็นของสำคัญอะไร แต่การที่ถูกสร้างใหม่นั้นสำคัญ
เอเฟซัส บทที่ 4 ข้อที่ 24 กล่าวว่า และให้ท่านสวมมนุษย์ใหม่ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง
โรม บทที่ 6 ข้อที่ 4 กล่าวว่า เหตุฉะนั้นเราจึงถูกฝังไว้กับพระองค์แล้วโดยการรับบัพติศมาเข้าส่วนในความตายนั้น เหมือนกับที่พระคริสต์ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย โดยเดชพระรัศมีของพระบิดาอย่างไร เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยอย่างนั้น
โรม บทที่ 5 ข้อที่ 1 กล่าวว่า เหตุฉะนั้นเมื่อเราเป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขกับพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ฮีบรู บทที่ 10 ข้อที่ 29 ท่านทั้งหลายคิดดูซิว่าคนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า และดูหมิ่นพระโลหิตแห่งพันธสัญญาซึ่งชำระเขาให้บริสุทธิ์ว่าเป็นสิ่งชั่วช้า และประมาทต่อพระวิญญาณผู้ทรงพระคุณ ควรจะถูกลงโทษมากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด
...
เราได้รับการชำระโดยพระโลหิตแล้ว
เราจะเห็นว่า 2 โครินธ์บทที่ 5 ข้อ 17 กล่าวชัดเจนมาก คือเราได้กลายเป็นคนใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆก็ล่วงไปคือล่วงไปผ่านไปแล้วคือเป็นอดีตกาลคือทุกสิ่งทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้ว แล้วดูเถิดมีแต่สิ่งใหม่ทั้งนั้นอันนี้คือการมองของพระเจ้าและพระเจ้ามองเราอยู่ในพระคริสต์เราเป็นคนใหม่เราเป็นคนชอบธรรมเราสวมชีวิตใหม่สวมชีวิตของพระคริสต์แล้ว
แล้วเราจะเห็นว่า ลูกา บทที่ 15 ข้อ 22 ใช่ไหมที่กล่าวถึงเราได้สวมเสื้อที่ดีที่สุดก็คือพระคริสต์ที่เป็นพระวิญญาณเป็นเสื้อ มาให้เราสวมใส่ และโรมบทที่ 8 ข้อที่ 16 ยังกล่าวอีกว่า เราเป็นหนึ่งกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ และนี่คือสิ่งแรกที่เราได้รับจากพระเจ้าก็คือ สภาพใหม่ หรือ (New condition) เราเป็นคนใหม่แล้ว เป็นคนชอบธรรมแล้ว อย่าไปคิดอีกว่าเราเป็นคนบาป เหมือนเมื่อก่อนเมื่อเราทำบาปก็เรียกว่าคนชอบธรรมไปทำบาป
ตำแหน่งใหม่ (New position) หมายความว่ายังไง ตำแหน่งใหม่ก็คือ การที่เราย้ายออกจากอาดัม ไปอยู่ในพระคริสต์ ย้ายออกจากที่หนึ่งไปอยู่ที่หนึ่งอันนี้เรียกว่าตำแหน่งใหม่ซึ่งเมื่อก่อนชีวิตของเราอยู่ในอาดัม อาดัมเป็นคนบาปเราก็กลายเป็นคนบาปอาดัมถูกพิพากษาเราก็อยู่ใต้การพิพากษานั้นไม่ว่าอาดัมจะได้รับอะไรเราก็ต้องได้รับสิ่งนั้นกับอาดัม
แต่ขอบพระคุณพระเจ้า เมื่อเราเชื่อและเป็นบุตรพระเจ้า พระเจ้าย้ายเราแล้วออกจากอาดัมมาอยู่ในพระคริสต์ แล้ว 1 โครินธ์ บทที่ 1 ข้อที่ 30 กล่าวว่า โดยพระองค์ท่านจึงอยู่ในพระเยซูคริสต์ เพราะพระเจ้าทรงตั้งพระองค์ให้เป็นปัญญา ความชอบธรรม การแยกตั้งไว้ และการไถ่โทษ สำหรับเราทั้งหลาย ( เพราะว่าพระเจ้าหรือว่าพระองค์ท่านจึงอยู่ในพระคริสต์ )
เพราะว่าพระเจ้าเป็นคนทำ พระเจ้าย้ายเราออกจากอาดัม เข้าไปอยู่ในพระคริสต์แล้วและคำว่าอยู่ในพระคริสต์ในที่นี้ ก็คือการอยู่ในพระวิญญาณอยู่ในวิญญาณอยู่ในฝ่ายวิญญาณ อยู่ในโลกฝ่ายวิญญาณอยู่ในอาณาจักรที่ตามองไม่เห็น
และในโคโลสี บทที่ 1 ข้อที่ 13 กล่าวว่า พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้พ้นจากอำนาจของความมืด และได้ทรงย้ายเรามาตั้งไว้ในอาณาจักรแห่งพระบุตรที่รักของพระองค์ ( เราถูกย้ายจากอาณาจักรของซาตาน เข้ามาอยู่ในอาณาจักรของพระคริสต์แล้ว)
กาลาเทียบทที่ 6 ข้อ 14 กล่าวว่า แต่พระเจ้าไม่ทรงโปรดให้ข้าพเจ้าอวดตัวนอกจากเรื่องกางเขนของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ซึ่งโดยกางเขนนั้นโลกตรึงไว้แล้วจากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ตรึงไว้แล้วจากโลก
เราตายจากโลกนี้แล้ว และโลกนี้ก็ตายจากเรา ซึ่งอาจารย์เปาโลกล่าวว่าเราถูกตรึงแล้วจากโลกนี้ และโลกนี้ก็ถูกตรึงจากเรา
และโรม บทที่ 8 ข้อ 6-7 พระเจ้าสร้างเราขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เราปักใจอยู่ในฝ่ายวิญญาณ อยู่ในโลกวิญญาณอยู่ในวิญญาณซึ่งตามองไม่เห็นและถ้าหากเราปักใจอยู่ในฝ่ายวิญญาณ ในพระวิญญาณ เราก็อยู่ในชีวิตและสันติสุข แต่ถ้าหากเราไม่ปักอยู่ในฝ่ายวิญญาณ ในพระวิญญาณเราก็โกหกตัวเองเราก็กลับไปอยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง ซึ่งเป็นชีวิตที่พระเจ้าไม่มีพระประสงค์ ที่จะให้เราดำเนินชีวิตอยู่ในฝ่ายนั้นอีกต่อไป
ซึ่งเรียกว่าอยู่ในความมืด ถ้าหากเราเดินในความสว่าง ก็คือเดินในฝ่ายวิญญาณ เดินในพระวิญญาณ เดินในโลกแห่งวิญญาณ ที่ตามองไม่เห็น คือเดินด้วยความเชื่อ เราเชื่อว่าตอนนี้เราอยู่ในพระคริสต์แล้ว ตอนนี้เราอยู่ในโลกแห่งพระวิญญาณแล้ว ตอนนี้เราอยู่ในวิญญาณแล้ว เราสนิทกับพระคริสต์ เราปักใจในราอาณาจักร ของพระเจ้าเพื่อรับน้ำแห่งชีวิต เพื่อรับน้ำมันแห่งพระวิญญาณเพื่อรับพระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการ เพื่อให้เราสามารถที่จะดำเนินชีวิต ในแต่ละวันเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าและเพื่อรับใช้พระองค์ได้และนี่คือ ที่มาของสิ่งใหม่สิ่งที่ 2 ก็คือ ( New position ) หรือตำแหน่งใหม่ หรือย้ายจากอาดัมไปอยู่ในพระคริสต์
ซึ่งเมื่อก่อนตัวบาปเป็นนายของเราและเราไม่พอใจเราไม่เต็มใจที่จะเป็นทาสของมันแต่มันบังคับเรามันซื้อเรา เราถูกขายให้บาปเราเป็นทาสของตัวบาป แต่ขอบพระคุณพระเจ้า เมื่อเราเป็นบุตรของพระเจ้าเราเป็นคริสเตียนแล้วเรามีนายคนใหม่และนายคนใหม่ก็คือพระเยซูคริสต์นี่เอง
ซึ่งเราสมัครใจเราเต็มใจ เราพอใจที่จะเป็นทาสของนายคนใหม่คนนี้ ซึ้งนายใหม่คนใหม่คนนี้ไม่เหมือนคนเดิมพระองค์รักเรา พระองค์ประทานทุกสิ่งให้แก่เรา มรดก พระพร สันติสุขอะไรก็ตามที่พระเยซูคริสต์เป็นเจ้าของเราก็จะได้รับทุกสิ่งร่วมกับพระองค์
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระบัญญัติ ก็คือสามีกับภรรยา ซึ่งเมื่อก่อนพระบัญญัติเป็นสามีเก่าและเราภรรยาของพระบัญญัติและเมื่อเราเชื่อพระเยซูคริสต์ พระเยซูคริสต์ก็เป็นสามีคนใหม่และเราก็เป็นภรรยาของสามีคนใหม่คนนี้ และสำหรับเรากับตัวบาป ความสัมพันธ์ของเรากลับตัวบาปก็คือนายและทาส เราเป็นทาสของตัวบาป ตัวบาปเป็นนายของเรา แต่เมื่อเรามีพระเยซูคริสต์เมื่อเราเป็นบุตรพระเจ้าแล้วพระเยซูคริสต์เป็นนายคนใหม่ของเราและเราเป็นทาสเรายอมเราขอ เราสมัครใจที่จะเป็นทาสของนายคนใหม่คนนี้
เพราะว่านายคนใหม่คนนี้น่ารักนายคนใหม่คนนี้แสนดี นายคนใหม่คนนี้รักเรามากตายเพื่อไถ่บาปเราและนายคนใหม่คนนี้ เป็นพระวิญญาณที่จะเข้ามาอยู่กับเราเป็นหนึ่งเดียวกับเราอยู่ในเราเพื่อเลี้ยงดูเราดูแลเราเพื่อช่วยเรา ให้ดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระบิดาได้และเพื่อเราจะมีส่วนในราชอาณาจักรของพระองค์และพระองค์จะใช้ชีวิตของเรา
โรม บทที่ 6 ข้อที่ 17-18 กล่าวว่า แต่จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านเป็นทาสของบาป แต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งทรงมอบไว้แก่ท่าน เมื่อท่านพ้นจากบาปแล้ว ท่านก็ได้กลายเป็นทาสของความชอบธรรม
ทาสของความชอบธรรมในที่นี้ก็คือ ทาสของพระคริสต์นี่เอง พระคริสต์เป็นความชอบธรรมที่อยู่ในเราอยู่กับเราและเมื่อเรายอมสมัครใจที่จะเป็นทาสของความชอบธรรม คือเป็นทาสของพระคริสต์ พระคริสต์ก็จะใช้ชีวิตของเราเพื่อดำเนินชีวิต ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดา ซึ่งเมื่อก่อนเราเป็นทาสของตัวบาป ตัวบาปก็ใช้เราให้ดำเนินชีวิตที่สำแดงชีวิตที่ผิดบาปของมันออกมาในแต่ละวัน
เราขอบพระคุณพระเจ้า เมื่อเราเป็นคริสเตียน เมื่อเราเป็นบุตรพระเจ้าแล้ว เราได้รับ 3 สิ่งใหม่
สิ่งแรกก็คือ 1. สภาพใหม่ ( New condition )
สิ่งที่สองก็คือ 2. ตำแหน่งใหม่ ( New position ) ( ย้ายจากอดัมไปอยู่ในพระคริสต์ )
สิ่งที่สามสิ่งใหม่ก็คือ 3. นายคนใหม่ ( New master )
ซึ่งนายคนเก่าของเราคือตัวบาป และทุกวันนี้เรามีนายคนใหม่ คือพระเยซูคริสต์ ในสภาพของความชอบธรรม เพื่อดำเนินชีวิตแทนเรา เพื่อใช้ชีวิตของเราปรากฏความเค็มหรือรสเค็มออกมาผ่านเรา จะปรากฏความสว่างของพระองค์คือ ความดีความชอบธรรม การทำดีเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เรา เราไม่ต้องทำอะไรเพื่อที่จะได้รับสามสิ่งใหม่นี้ เราขอบพระคุณพระเจ้า และให้ชีวิตของเราตั้งอยู่ในสามสิ่งนี้อยู่ทุกวันทุกเวลาทุกนาที ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราก็จะไม่สูญเสีย 3 สิ่งใหม่นี้