เราขอบพระคุณพระเยซูสำหรับความรัก สำหรับพระคุณและพระคุณซ้อนพระคุณที่พระองค์ประทานแก่เรา พระเยซูเราขอบพระคุณพระองค์สำหรับการเปิดเผยความจริงในพระคำล้ำลึกของพระองค์ ให้เราได้เข้าใจถึงความจริงเกี่ยวกับเรื่องการสนิทที่แท้จริง ความหมายของคำว่าสนิท และสิ่งที่พระองค์ต้องการ คือน้ำพระทัยของพระองค์เกี่ยวกับเรื่องการสนิท
ขอบพระคุณที่พระองค์ ตามหาคนรัก
ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ ตามหาเหล่าบุตรของพระองค์
ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ ตามหาสาวกที่แท้จริง
คือสาวกที่เป็นที่รัก ไม่ใช่สาวกที่ขยันทำงาน ต้องรับใช้ ต้องทำ ทำๆๆๆ แต่พระองค์ต้องการให้เราติดสนิทในพระองค์ รักพระองค์ มีความผูกพันที่ดีกับพระองค์ อย่างสม่ำเสมอในแต่ละวัน ขอบพระคุณพระเยซู
ขอพระองค์เปิดตาเรามากขึ้นมากขึ้น เกี่ยวกับเรื่องการสนิทและการใช้ชีวิตที่พระองค์ทำแทนให้แก่พี่น้องทุกคน ที่มีความหวังอยากดำเนินชีวิตให้เป็นตามน้ำพระทัย และรักษาพระบัญญัติใหม่ของพระองค์ โดยมีพระคริสต์เป็นผู้ทำแทนทุกวันทุกเวลา
บทที่ 15 ข้อ 5 จนถึงข้อที่ 10 พระเยซูตรัสว่า เราเป็นเถาองุ่น เถาองุ่นหรือต้นองุ่น ซึ่งเป็นต้นองุ่นเป็นเถาองุ่นที่มีพระบิดาเป็นผู้ดูแล เลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่ และแน่นอนครับเถาองุ่นต้นองุ่นจะต้องมีกิ่ง และกิ่งพระองค์ก็ให้เราทุกคนที่เป็นผู้เชื่อ กลายเป็นกิ่งแห่งต้นองุ่นต้นนี้
เราพบว่าในส่วนเอเดนต้นไม้แห่งชีวิตแท้ที่จริง เราเชื่อกันว่าเป็นต้นองุ่นนี่เอง และพระเยซูก็เป็นต้นองุ่นนี่เอง ซึ่งพระองค์ให้ผล ผลเกิดมากมายในต้นองุ่นนั้น และรออาดัม เอวา และลูกหลานจะได้รับ ได้กินเข้าไปเพื่อรับชีวิตพระเจ้าให้ครบเต็มครบบริบูรณ์ แต่เมื่ออาดัมล้มเหลว อาดัมพลาด ต้นไม้นั้นก็ถูกซ่อนไว้ พระคริสต์ก็ถูกซ่อนไว้ รอจนกว่าจะถึงเวลา เมื่อถึงเวลาพระองค์ก็เสด็จมาและบังเกิดเป็นมนุษย์ เดินไปมาในโลกนี้ ซึ่งเป็นต้นองุ่นฝ่ายวิญญาณ
เพราะอะไรในยอห์นบทที่ 15 พระองค์เปิดเผยว่า เราเป็นเถาองุ่นหรือต้นองุ่น พระองค์ไม่ได้บอกนะครับว่าเราเป็นเหมือนใช่ไหม พระองค์บอกว่าเราเป็น และเราทั้งหลายผู้เชื่อ ก็คือกิ่ง ก้าน ซึ่งนี่คือความหมายฝ่ายวิญญาณ และต้นไม้ต้นองุ่นต้นนี้เป็นต้นไม้ฝ่ายวิญญาณ ตอนนี้ที่พระเยซูตรัสอยู่
และสิ่งที่พระองค์ต้องการ ก็คือให้เราติดต่อ ต่อติด เชื่อมต่อ กับต้นองุ่น แน่นอนครับ กิ่งก้านจะอยู่โดยไม่มีต้นไม่ได้ ซึ่งมันจะเหี่ยวแห้งไปในที่สุด และก็ถูกเจ้าของไร่ (เจ้าของสวน) เอาไปเผาไฟทิ้งเพราะว่าไม่มีประโยชน์อะไร
เพราะฉะนั้นเราขอบพระคุณพระเจ้า ที่เรารู้ความจริงว่าพระเยซูเป็นต้นองุ่น และเป็นต้นไม้แห่งชีวิต เกิดผลแห่งชีวิต และเราเองที่อยากจะเกิดผลแห่งชีวิตไม่เหี่ยวแห้ง เราก็ต้องเชื่อมต่อ ต่อติด เป็นกิ่งที่ต่อติดกับต้น เพื่อให้เกิดผลมาก พระเยซูสัญญานะครับว่า ใครที่ต่อติด เชื่อมต่อ ติดสนิทในเรา ก็จะเกิดผลชีวิตใหม่มาก เนื่องจากว่าเราได้รับการหล่อเลี้ยงมาจากต้นซึ่งมีพระเจ้าเป็นผู้ดูแลอยู่เบื้องหลัง
เราขอบพระคุณพระเยซู ที่อาดัมและลูกหลานไม่มีโอกาส แต่เรามีโอกาสแล้ว ยอห์นบทที่ 10:10 พระเยซูตรัสว่าเราเป็นชีวิตและเรานำชีวิตที่ครบบริบูรณ์มาสู่ท่านทั้งหลาย ก็คือเราผู้เชื่อทั้งหลาย ขอบคุณพระเยซูที่วันนี้เรามีชีวิตที่ครบบริบูรณ์ เราได้รับการหล่อเลี้ยงจากต้นไม้แห่งชีวิต ก็คือพระคริสต์นี่เอง
พระเยซูตรัสว่า เราผู้เชื่อทุกคนเป็นกิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เกิดผลของชีวิตใหม่ สร้างขึ้นมาใหม่ก็ต้องมีผลของชีวิตใหม่ และผลนี้ก็ได้มาจากต้นไม้แห่งชีวิต ก็คือพระคริสต์นั่นเอง และแน่นอนที่สุด กิ่งทั้งหลายต้องต่อติด
ขอย้ำว่า..ต้องต่อติดกับต้นเพื่อรับชีวิตของพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่เข้าสนิทคือคนที่ได้รับพระคำล้ำลึก เราตระหนักถึงความสำคัญของการสนิท เพราะเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า มากกว่าการทำ ทำๆๆๆ เพื่อพระองค์
แล้วเรารู้จักแล้ววิธีสนิทอย่างถูกต้องคืออะไร เพื่อให้ต้นองุ่นส่งชีวิตมาหล่อเลี้ยงพวกเราให้เติบโตและเกิดผลมาก เราขอบพระคุณพระเจ้า การสนิทไม่ใช่การอธิษฐานวันละ 3 ครั้ง หรือการรับใช้ทั้งวัน แต่คือการพูดคุย สนทนา บอกรัก สร้างความผูกพันที่ดีกับพระองค์อย่างสม่ำเสมอ 1 เธสะโลนิกา 5:17 จงพูดคุยกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ
เพราะฉะนั้นเราขอบพระคุณพระเจ้า เราสงสารพี่น้องมากมายนะครับ ซึ่งทุกวันนี้เราพบว่าพวกเขาไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยไหนก็ตาม ซึ่งชีวิตของเขาก็คือขึ้นลงสุขทุกข์ดีบาปไปจนตาย เป็นชีวิตที่เรียกว่าเหี่ยวแห้ง และผลสุดท้ายที่เขาได้รับ ก็คือการถูกทิ้งไว้ข้างนอก เนื่องจากว่าเขาผ่านไฟแห่งการทดลองไม่ได้
ซึ่งไฟแห่งการทดลองนี้ จะพิสูจน์ว่าชีวิตของเรามีพระคริสต์ทำแทน คิดแทน ตัดสินใจแทน ทุกสิ่ง นมัสการพระเจ้าแทน รับใช้แทนหรือไม่ ถ้าหากเราไม่มีสิ่งนี้ไม่มีพระคริสต์ทำแทนในชีวิตในแต่ละวัน แน่นอนครับผลงาน ก็คือไม้ ฟาง หญ้าแห้ง และในที่สุดก็ถูกเผาทิ้ง และตัวเขาเองก็จะถูกตีสอนเป็นเวลาพันปี ในเกเฮนา ในยุคพันปี
เมื่อเรามีพระคำที่เป็นความจริง เรานำมาฝึกในชีวิตประจำวันในฐานะคนชอบธรรม และคนที่สนิทในพระเยซูอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนเราจะขอสิ่งใดพระเจ้าก็จะตอบ เพราะอะไรครับ? เพราะว่าสิ่งที่เราขอไม่ได้ขอตามใจเราแล้ว เราขอให้เป็นตามน้ำพระทัย คริสเตียนที่เติบโต คริสเตียนที่สนิทในพระเยซู คริสเตียนที่รักพระเยซู คริสเตียนที่ใกล้ชิดพระเยซู พระองค์จะสำแดงสิ่งหนึ่งเข้ามาอยู่ในใจเรา ก็คือให้เราอยากทำทุกสิ่งตามน้ำพระทัย ไม่ใช่ตามใจเราอีกต่อไปแล้ว
เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งนี้ คือตอนนี้เราอาจจะอยากได้อะไรที่ตามใจเรา อยากได้แฟชั่น ไอโฟน หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งเป็นของโลกนี้เป็นพระแห่งยุคนี้ แต่เมื่อเราโต สิ่งเหล่านี้มันก็ค่อยๆ หลุดไปๆๆๆ สุดท้ายอะไรก็ได้ภายในหัวใจเรา เมื่อเรามีพระคริสต์ทำแทน เราสนิทในพระเยซู คำนี้มันจะเด่นชัดมาก คือคำว่าอะไรก็ได้ อะไรก็เอเมน ดีมาก็เอเมน ร้ายมาก็เอเมน ทุกสิ่งที่เกิดกับเราไม่ว่าจะเป็นอะไรในแต่ละวัน เราก็เอเมนกับมัน
เราสรรเสริญพระเยซู เรามีพระคริสต์อยู่ในเรา เราสนิทในพระเยซูแล้ว มันพอเพียงแล้วสำหรับเรา เรามีพระเยซูอยู่ใกล้เรามาก แล้วเราอยู่ใกล้พระเยซูมากๆ เรารักพระองค์มาก พระองค์รักเรามาก มีสันติสุขเต็มล้น อะไรก็ได้ อะไรก็เอเมน
ขอให้พี่น้องจำเริญขึ้นในพระคุณให้มาถึงจุดนี้ ให้เรามาถึงจุดที่เรียกว่าอะไรก็ได้ อะไรก็เอเมน เรารักพระเยซู พระเยซูก็รักเราอยู่ดี พระองค์ไม่ทิ้งเราไปไหนและโลกนี้ชั่วคราวเท่านั้น เอเมนพระเยซูพวกเรารักพระองค์
...
สำหรับเรื่องการสนิท และพระเยซูจะตอบคำอธิษฐานของเรา และสำหรับเรื่องความรักของพระเจ้าที่มีต่อผู้เชื่อหลายคน ผ่านเราที่สนิทในพระองค์ ในฐานะของคนชอบธรรม และคำอธิษฐานของเราเกิดผล
ผมรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง พี่น้องหญิงคนหนึ่งที่รักพระเยซู แล้วก็สนิทในพระเยซู เขาไปร่วมนมัสการกับคริสตจักรแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคริสตจักรศาสนา และผู้นำป่วยมากไม่สบาย คือป่วยเฉพาะเรื่องหูของเขา มันทรมานมาก มันเจ็บ มันปวด และมันก็ตึงแล้วหนักจนถึงอาการที่ไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย และเขาก็เป็นทุกข์
พี่น้องหลายคนทราบ แล้วพี่น้องหญิงคนนี้ก็รู้จักเขา ก็ชวนพี่น้องชายอีกคนหนึ่ง แล้วก็ไปคุยกับเขาบอกว่าอยากอธิษฐานเผื่อ ขออธิษฐานเผื่ออาจารย์ได้ไหม เขาก็ไม่ปฏิเสธ เขาก็รับ แล้วก็ขอให้อธิษฐานเผื่อ ปรากฏว่าอธิษฐาน 2-3 สัปดาห์ หูเขาเริ่มได้ยิน มันอัศจรรย์มาก หูเริ่มได้ยิน แล้วเขาก็ขอบพระคุณพระเจ้าเป็นพยานบอกทุกคนนะครับ หูได้ยินแล้วดีขึ้นแล้ว
แต่ไม่นานต่อมามันก็กลับมาอีก กลับมาเป็นเหมือนเดิม คือหูตึง คือไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เหมือนคนหูหนวก แล้วเขาก็เป็นทุกข์มาก เขาบอกว่าไม่หาย แล้วพี่น้องหญิงกับพี่น้องชายสองคนที่อธิษฐานเผื่อเขา ก็คุยกับเขาว่าให้สนิทให้มาก ให้สนิทให้มากๆ แนะนำอาจารย์นะครับให้สนิทมากๆ แล้วก็พูดคุยกับพระเยซู บอกรักพระเยซูให้มากๆ แล้วพวกเราก็จะอธิษฐานเผื่ออีกเป็นรอบที่สอง
ปรากฏว่าไม่นานนะครับ ไม่นานน่าจะไม่ถึงเดือน หายดีเป็นปกติ ทุกวันนี้ไม่มีแล้วหูตึงหูหนวกหูไม่ได้ยินอะไร ไม่เจ็บปวดไม่ทรมานอีกแล้ว เขาขอบพระคุณพระเจ้าใหญ่เลยนะครับ เขาบอกพี่น้องที่คริสตจักร เขาเป็นพยาน เขาพูดกับทุกคนว่า คือมันอัศจรรย์มาก มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้าที่รักษาเขาผ่านผู้เชื่อที่สนิทในพระเยซู
เพราะฉะนั้นการอัศจรรย์ ความรัก พระคุณ พระเมตตา การช่วยเหลือ การรักษาโรค การไล่ผี ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นเป็นปกติได้
แต่ถ้าจะให้เกิดปาฏิหาริย์ เกิดการอัศจรรย์ที่ ที่ยิ่งใหญ่ การสนิทในพระเยซูนะครับ เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นกุญแจช่วยพี่น้องเหล่านั้นได้ครับ
ชีวิตที่สนิทในพระเยซูเป็นชีวิตที่มีคุณค่ามาก ไม่เพียงแต่พระเจ้าตอบคำอธิษฐานในโลกนี้ เรายังสะสมบำเหน็จรางวัลทุกๆ วัน ทุกสิ่งที่เราทำมีคุณค่าสำหรับพระเจ้ามาก ทุกๆ สิ่งที่เราทำทูตสวรรค์จดไว้
ทุกๆ สิ่งที่เราทำทูตสวรรค์มองดู พระเจ้าเห็นพระเนตรของพระเจ้ามองทั่วจักรวาล พระเจ้าเห็นการกระทำของเรา และเตรียม เตรียมบำเหน็จมากมายไว้รอเราอยู่ ขอบคุณพระเยซู
...
ขอบพระคุณพระเยซูที่นำเราเข้าสู่บทเรียนและความเข้าใจ เรื่องการสนิทในพระองค์ และเป็นสิ่งที่พระองค์ต้องการเป็นที่หนึ่ง การสนิท การบอกรัก การเป็นเจ้าสาวที่น่ารักของพระองค์ คือสิ่งที่พระองค์ประสงค์และต้องการ
เราขอบพระคุณพระองค์ สำหรับพี่น้องที่ฝึกมานานพอสมควร และสำเร็จ และเราอธิษฐานเผื่อพี่น้องหลายคนที่เริ่มฝึกใหม่และยังฝึกอยู่ ขอให้น้ำพระทัยพระองค์สำเร็จ และขอให้พี่น้องเหล่านั้นประสบความสำเร็จในการฝึกตามกำหนดเวลาของพระองค์ที่ทรงจัดเตรียมไว้
ขอบพระคุณสำหรับชีวิตที่เบา กางเขนเบา ภาระเบา แอกเบา
ขอบพระคุณสำหรับสันติสุขทุกวันทุกเวลา
ขอบพระคุณสำหรับ กฎแห่งชีวิตและกฎแห่งพระวิญญาณ
ขอบพระคุณสำหรับการปกป้อง ปกปักรักษา ดูแล คุ้มครอง ช่วยเหลือชีวิตเราตอนนี้
และขอบพระคุณ อาจจะมีบางครั้งที่เจอมรสุม แต่พระเยซูไม่เคยทิ้งพวกเราไปไหน พระองค์รักเรามาก สรรเสริญพระเยซู ขอบพระคุณพระเยซู พวกเรารักพระองค์
ขอเป็นคำพยาน การบอกรัก ติดสนิท นี่ก็คือเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ ค่ะ เพราะว่าเมื่อก่อนอยู่คริสตจักรเดิม เราก็ไปรับใช้ รับใช้มากมาย แล้วก็หวังว่าเราจะได้รับการเปลี่ยนแปลงสักวันหนึ่ง แต่เราก็ไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงสักทีเลย ก็มีตั้งแต่รอไปเรื่อยๆ คิดว่ามาเป็นคริสเตียนแล้ว ก็มีความหวังว่าชีวิตของเราจะเปลี่ยน จะเปลี่ยนไป สิ่งที่เราคิดใช่ไหม อยากมีความสุข อยากมีสันติสุขอะไรประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้รับสิ่งนั้น ก็ผิดหวังค่ะ คิดว่าในชีวิตนี้คงจะไม่เจออีกแล้ว แบบว่า..ให้เราได้เปลี่ยนชีวิตของเราจริงๆ
แล้วก็ชีวิต ก็เป็นคริสเตียนแบบว่าเป็นทุกข์ แล้วก็แบกภาระหนัก ยังไม่แน่ใจในความรอดของเราอีกแหละ คือเป็นทุกข์มาก ทุกอย่างคือมันหนักมากเลยค่ะ
ขอบคุณพระเยซูขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเมตตา เปิดตาให้เห็นผ่านมานาที่ซ่อนไว้ ให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในพระคัมภีร์ ก็คือพระคำบทนี้ยอห์นบทที่ 15 นี่แหละ คือเป็นพระคำที่เกิดผลมากมายกับพวกเรา ก็คือการติดสนิท บอกรัก แล้วก็สนทนา แล้วก็ใกล้ชิดกับพระเยซู แล้วก็เป็นสิ่งที่เบามากเลย เพราะว่าเรายิ่งบอกรัก ใกล้ชิด ติดสนิทมากขึ้น เราก็มีสันติสุขมากขึ้น
เราได้รู้ทุกอย่างเพราะว่าเราเหมือนกับต้นไม้ที่เราไปดูดเอาน้ำ ดูดเอาแร่ธาตุอยู่ริมแม่น้ำ ก็เกิดผล เกิดผลเพราะว่าเราไปดูดเอาน้ำ ไม่ใช่ว่าต้นไม้มันเกิดผลเอง ก็คือเราไปดูด ก็คือเราไปบอกรัก แล้วก็ไปติดสนิทกับพระเยซู ไปสร้างความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับพระเยซู ก็คือเกิดผลมาก อันนี้ก็เห็นผลจริงๆค่ะ
ขอบคุณพระเยซู มาถึงวันนี้ ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปได้ สิ่งที่เราไม่คาดฝันว่าเราจะมีโอกาสเหรอในชีวิตนี้ คงไม่มีแล้ว แต่ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ให้โอกาส เวลาเราอยากจะได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากมาย แต่พระองค์ก็เป็นคำตอบให้
ขอบคุณพระเยซูที่พระคำบทนี้เป็นชีวิตจริงๆ เป็นชีวิตที่ครบบริบูรณ์จริงๆ ในนี้ ก็คือเกิดผลมากมาย ขอบคุณพระเยซู ขอบคุณมานาที่ซ่อนไว้ ที่เปิดตาตรงนี้ ก็คือเป็นคำพยานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของตัวเอง เพื่อถวายเกียรติพระบิดา ขอบคุณพระเยซูค่ะเอเมน
...
คำหนุนใจจากอาจารย์ผู้สอน
เอเมน เราขอบคุณพระเจ้า ทุกสิ่งที่มนุษย์และคริสเตียนศาสนาแสวงหา น่าเสียดายที่เขาไม่เข้าใจเรื่องน้ำพระทัยของพระเจ้า เรื่องการดำเนินชีวิตคริสเตียน การดำเนินชีวิตคริสเตียนแท้ที่จริง คือพระคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตในเรา พระเจ้าต้องการให้เราเป็นอวัยวะ
จริงๆ แล้วนะครับ ถ้าหากเรานำถ้อยคำของพระเจ้าในพระคัมภีร์ใหม่มาปะติดปะต่อ เราจะพบว่าพระเยซูพูดกับเราผ่านเปาโลในโรมบทที่ 6 จงถวายร่างกายของเราให้เป็นอวัยวะ เป็นเครื่องใช้ของความชอบธรรม คริสเตียนมากมายก็อ่าน ผู้นำมากมายก็อ่านแต่ไม่เข้าใจ ถวายร่างกายเป็นเครื่องบูชาอันมีชีวิตคืออะไร? หลายคนก็งง ก็สับสน
แต่ในที่สุดเมื่อเราถูกเปิดตาและถูกเปิดมากขึ้น มากขึ้น เราก็พบว่า การถวายร่างกายในสภาพของคนที่เป็นขึ้นมาใหม่ ให้เป็นอวัยวะของพระเยซู ก็คือเพื่อให้พระองค์จะได้ใช้มือของเรา ตาของเรา ปากของเรา ทุกสิ่งที่เป็นอวัยวะนี้ เป็นร่างกายนี้ ให้พระองค์ใช้ ในสภาพของคนที่เป็นขึ้นมาใหม่ ก็คือในฐานะคนใหม่
ขอบคุณพระเจ้า และเมื่อเราถวายตัวแบบนี้ได้ เราเข้าใจความจริงแล้ว และให้พระคริสต์เป็นคนทำ มันเกิดขึ้นครับ มันเกิดขึ้นตามที่พระเจ้าสัญญาในพระคัมภีร์ เอเมนสรรเสริญพระเยซู