เราเห็นว่าคริสตจักรหลายคริสตจักร มีบางคริสตจักรอธิษฐานกันแบบตัวใครตัวมัน เราจะลองทำดู อยากให้ทุกคนลองทำ (อธิษฐานพร้อมกันทุกคน)
อันนี้เรียกว่า..ไม่ใช่น้ำหนึ่งใจเดียวกัน
แล้วทีนี้ถามว่าพระเจ้าสามารถฟังทุกคนได้ไหม ได้. พระเจ้าสามารถฟังทุกคนได้ในเวลาเดียวกัน พระเจ้ารู้ว่าคนนี้พูดอะไรคนนั้นพูดอะไร
แต่ว่าสิ่งที่พระเยซูต้องการ ในพระคัมภีร์ยอห์น พระเยซูย้ำตลอดเวลาว่า “พวกท่านจงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” แล้วพระเยซูขอพระบิดา พระบิดาทำยังไงก็ได้ให้พวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (ยน 17:11, 21-23) และในพระคัมภีร์กิจการลูกาเขียนว่า “เขาทั้งหลายก็เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” (กจ 4:32)
สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้พวกเราทำในแต่ละวันในคริสตจักร คือ “เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน”
พี่น้องอธิษฐาน หยุมๆๆๆๆ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวไหม ไม่. คนนี้อธิษฐานคุณได้ฟังไหม ไม่ได้ฟังเพราะว่าคุณก็อธิษฐานอยู่ เราอธิษฐานอยู่พี่น้องได้ยินไหม ไม่ได้ยินเพราะว่าพี่น้องก็อธิษฐานอยู่ ใครก็พากันแต่อธิษฐาน เราก็เลยไม่ได้ยินกันใช่ไหมล่ะ แล้วเรียกว่าเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไหม ไม่.
ฉะนั้นเราใช้วิธีนี้ คนหนึ่งอธิษฐาน ทุกคนเอเมนด้วย แล้วทุกคนที่เอเมนนี้ก็มีส่วนในคำอธิษฐานนั้น คำว่าเอเมนนี้แปลว่าเห็นด้วย ทุกคนเห็นด้วย คือเราอธิษฐานทุกคนก็มีส่วนในการอธิษฐาน ความหมายก็คือว่าพี่น้องได้อธิษฐานด้วย คุณก็ได้อธิษฐานด้วยเพราะว่าได้เอเมนด้วย ใช่ไหมล่ะ คือได้รับผิดชอบคำอธิษฐานนั้นด้วยกัน
ตัวอย่าง: ผมอธิษฐาน.. พระเจ้าพระองค์ผู้ทรงยิ่งใหญ่ (ทุกคนเอเมน) ลูกๆ ทุกคนอยู่ในที่นี้รักพระองค์ (ทุกคนเอเมน) เห็นไหมผมพูดว่าทุกคนอยู่ในที่นี้รักพระองค์ พวกเราเอเมนด้วยแสดงว่าพวกเราก็ได้รักพระเยซูเหมือนกัน เอเมน
สิ่งไหนที่เราทำแล้วเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน “เราทำ” เพราะว่าพระเจ้าแสวงหาการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เอเมน
และคริสตจักรที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คริสตจักรที่สามัคคีกัน มันจะเกิดผลพระเจ้าจะนำพา พระเจ้าจะทำงานได้มากกว่าคริสตจักรอื่นๆ เอเมน
ฉะนั้นขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์เปิดเผยสิ่งนี้ให้คริสตจักรพวกเราได้ทำ
แล้วก็อยากให้พี่น้องได้เข้าใจว่าทำไมพวกเราคนหนึ่งพูดแล้วก็ทุกคนเอเมน แล้วคนหนึ่งหยุด คนอื่นก็ต่อ แล้วทุกคนก็เอเมน เราทุกคนมีสิทธิ์อธิษฐานเพราะว่าทุกคนเป็นปุโรหิตหลวง
อย่าลืมนะครับว่าทุกคนที่มาเชื่อพระเจ้า พระเจ้าตั้งตำแหน่งหนึ่งให้พวกเราเป็น ก็คือ "ปุโรหิต" คุณได้เป็นสาวกของพระเยซูอัตโนมัติ คุณจะปฏิเสธไม่ได้เด็ดขาด จะปฏิเสธว่าฉันไม่ขอเป็นสาวก ฉันขอเป็นสมาชิกโบสถ์ธรรมดา ไม่ได้. เพราะว่าในพระคัมภีร์บอกว่าทุกคนที่เชื่อในพระเยซูเป็นสาวกของพระเยซูแล้ว เราจะรับหรือไม่รับ พระเยซูก็ตั้งให้เราแล้ว
...
คุณได้เป็นปุโรหิตหลวงของพระเยซูแล้วนะ คุณจะปฏิเสธว่าฉันไม่เอา ฉันไม่ยอมเป็น ขอเป็นสมาชิกโบสถ์
ไปโบสถ์อาทิตย์นึงครั้งหนึ่งก็ตามพระเจ้าได้ตั้งแล้ว หน้าที่ได้วางไว้แล้ว ทำไม่ทำ ไม่รับผิดชอบเอง เวลาพระเยซูกลับมา พระเยซูกลับมาพระเยซูเปิดชื่อออกหมดทุกคน คนนี้คนนั้นทำอะไรบ้างในหน้าที่ปุโรหิต ในหน้าที่คนต้นเรือน ในหน้าที่ของสาวกลูกศิษย์พระเยซู ได้เดินตามพระเยซูจริงไหม หรือทำอะไรอยู่ พระองค์จะเปิดแล้วดูทุกๆ คน
เราเลือกไม่ได้พระเจ้าเลือกแล้ว ไปดูในพระคัมภีร์สิ การมาเชื่อในพระเยซูนี้คือการเซ็นสัญญากับพระเจ้า ได้รับตำแหน่ง.. 1. ปุโรหิต (1 ปต 2:9)/ 2. ได้รับตำแหน่งสาวก/ 3. ได้รับตำแหน่งคนต้นเรือน ดูแลคริสตจักรของพระเจ้า (ลก 12:42-48)
เอาสิใครจะกล้าปฏิเสธ พระเยซูกลับมาหลายคนจะบอกว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า ช่วยข้าพเจ้าด้วย” ไม่ได้แล้ว พระเยซูบอกว่า “เราไม่รู้จักเจ้า” (มธ 7:21-23)
แล้วมีผลอะไรเกิดขึ้น พระเยซูจะลงโทษคริสเตียนที่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองเป็นเวลาพันปี หลายคนจะอยู่ข้างนอกขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน (มธ 22:13, 24:51, 25:30) ร้องไห้เสียใจเป็นเวลาพันปี ขณะที่หลายคน ยุคพันปี หลายคนจะเฉลิมฉลองร่วมกับพระเยซู (วว 20:4,6)
ไม่มีลดโทษเลย พันปีก็คือพันปี ไม่มีเลื่อนไม่มีลด พระเยซูบอกว่ายังไง เขาจะรับโทษจนกว่าจะครบกำหนด (มธ 5:26)
ฉะนั้นขอให้เราตื่นตัว เราทุกคนมีหน้าที่เป็นปุโรหิต เรามีหน้าที่เป็นสาวกและเราเป็นคนต้นเรือนของพระเยซู
ขอบคุณพระเจ้าหลายคนไปรับคนมาเราได้ทำหน้าที่ของคนต้นเรือน ทำหน้าที่เป็นสาวก หลายคนมีโอกาสได้เปิดยูทูป สอน ทำนี่ทำนั่นเกี่ยวกับการงานของพระเจ้า เราได้ทำหน้าที่ของเราแล้ว
ฉะนั้นขอบคุณพระเจ้าให้เราแสวงหาของประทานเพิ่มอีกว่าเราทำอะไรได้ เราทำไป เพื่อพระเยซูกลับมาแล้วเราจะรับบำเหน็จรางวัลกับพระองค์ เอเมน