a. นิโคเลาตัน คือการที่บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งตั้งตัวเป็นนาย หรือเป็นผู้บงการทุกอย่าง
...
b. พระกายจะสัมผัสถ้อยคำที่มาจากพระเจ้าผ่านผู้นำ หรือพี่น้องบางคน ซึ่งการสัมผัสดังกล่าวเกิดขึ้นได้ เพราะว่าพระกายร่วมใจประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน
อย่าลืมนะครับ ถ้าหากว่าเรามีคริสตจักร คริสตจักรเที่ยงแท้แล้วปรากฏว่ามีการประชุม มีการนมัสการ ถ้าหากว่าเราเป็นหนึ่งเดียวได้พระวิญญาณบริสุทธิ์จะสัมผัสจะทำงานได้มาก เเล้วก็จะช่วยให้พี่น้องที่แบ่งปัน ทุกคนที่ลุกขึ้น พระเจ้านำได้
แต่ถ้าเราไม่เป็นหนึ่งเดียวพระเจ้ามองดูเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์มองดูพวกเรา เราไม่เป็นหนึ่งเดียว ใครจะพูดเก่งยังไงก็ตาม ชีวิตมันไม่ออกมา พระวิญญาณไม่ออกมา
ขอให้จำนะครับคริสตจักรเราอยากให้พระวิญญาณเคลื่อน อยากให้ชีวิตของพระเจ้าออกมาสู่พี่น้องเลี้ยงดูพี่น้อง ให้เราได้กินชีวิตของพระเจ้า เราต้องเป็นหนึ่งเดียว คริสตจักรจะมีมากจะมีน้อยไม่สำคัญ ขอให้เป็นหนึ่งเดียวไว้ก่อน เพราะว่าการเป็นหนึ่งเดียวคือหัวใจของพระเจ้า
ไม่ว่าคุณจะอยู่บริษัทไหน ที่ทำงานที่ไหนก็ตาม แม้แต่สมาคม องค์กร อยู่ในโลกนี้ก็ยังใช้วิธีนี้ใช่ไหม ต้องเป็นหนึ่งเดียว แล้วสำหรับพระเจ้านี่คือหลักการของพระเจ้าด้วยต้องเป็นหนึ่งเดียว
...
c. ท่ามกลางพระกาย ไม่มีใครภูมิใจอะไร
เราคือส่วนหนึ่งของกันและกันของพระกายของพระคริสต์ บางคนอาจเป็นผู้นำ บางคนไม่ บางคนอาจเป็นผู้นำ บางคนไม่ แต่เรายอมรับว่า เรารับการสัมผัส การเลี้ยงดูดูแลจากพระคริสต์ผู้เป็นศีรษะของเรา เราเปิดใจต่อกัน และสามัคคีธรรมในพระวิญญาณ
สำหรับผมนะครับ ถามว่าผมภูมิใจไหม ที่พระเจ้าใช้แล้วก็มีโอกาสได้เปิดตาพี่น้องหลายพันคน ผมไม่เคยภูมิใจเลยนะบอกตรงๆ เลย ผมไม่เคยภูมิใจเพราะว่ามันไม่ใช่ผมที่ทำ และผมคิดหลายครั้งคิดว่าผมไม่เหมาะเลยที่จะรับหน้าที่มีของประทานและเปิดตาพี่น้อง ไม่เคย แต่ผมขอบคุณพระเจ้าที่เมตตาสงสารผม คนเล็กๆ คนนี้ที่ได้มาช่วยพี่น้องให้เห็นความจริงของพระเจ้า ให้เข้าสู่การหลงรักพระเยซูได้
แล้วเราเหมือนกันในอนาคตถ้าพระเจ้าใช้เรา เรามีโอกาสได้ช่วยคนเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสน อย่าภูมิใจในตัวเราเอง อย่าภูมิใจในสิ่งที่เราทำ แต่ให้เราขอบคุณพระเยซู
...
d. การเสนอความคิดเห็น การรับคำหนุนใจ และคำแนะนำจากทุกคนเป็นสิ่งที่เราทำ แต่ในที่สุดต้องสรุปด้วยพระคำพระเจ้า และแนวทางของพระองค์ผ่านพระคัมภีร์ หรือผ่านการเห็นพ้องต้องกันของผู้นำ
ไม่ว่าผมไม่ว่าใครไม่ว่าคุณ เราจะเด่นดังเราจะดีเราจะมีบทบาทแค่ไหนก็ตามเราควรยอมรับเวลาที่มีใครมาหนุนใจ มาแนะนำ มาบอกวิธีต่างๆให้แก่เรา นี่คือการที่เป็นผู้นำที่ถ่อมใจ
...
e. ผู้นำไม่ใช้อำนาจ ไม่บังคับบงการใคร ผู้นำดำเนินในพระวิญญาณ รับการทรงนำพาจากพระวิญญาณ
ที่อเมริกาผมเห็นพี่น้องชายคนนึงที่เขาเป็นผู้นำเป็นศิษยาภิบาล ตอนนั้นวันนั้นเขาไม่พูดอะไรเลยไม่แบ่งปันเขามาร่วมคริสตจักรแล้วก็การประชุม ก็มีพี่น้องที่บัพติสมา เขาก็มายืนดูมาคุยกับพี่น้องบางคน แล้วก็ยืนดูก็มีผู้นำอีกคนหนึ่งที่เป็นคนรับบัพติศมาให้พี่น้องที่ยังบัพติสมา 3-4 คน เราจะเห็นว่าผู้นำ ไม่ได้หมายความว่าต้องมีบทบาท ทุกๆ ครั้ง ทุกๆ ที่ ทุกๆ แห่ง เราแบ่งงานกันเราช่วยกัน ผู้นำทำตัวเหมือนคนที่ไม่สำคัญอะไร นี่คือผู้นำของพระเยซู
...
f. ผู้นำต้องเปิดใจสามัคคีธรรม มันช่วยแก้ไขปัญหาได้มากมาย
การสามัคคีธรรม แปลว่าการคุยกัน มีเรื่องอะไรเราคุยกัน หรือไม่มีเรื่องอะไรก็ตามเราก็คุยกัน สำหรับคริสตจักรที่กรุงเทพ เราจะเริ่มใช่ไหม เราจะเริ่มก็คือเราจะคุยกัน ถ้าคุยไม่สะดวกไปหา ไม่สะดวกก็เปิดกลุ่มไลน์เลย เฉพาะแต่ผู้นำเท่านั้น เฉพาะผู้ปกครองเราคุยกัน แล้วถ้าพวกเราที่อยู่ใกล้ๆ อยู่ในตัวเมืองเดียวกัน อยากคุยกันอยากสามัคคีธรรม นมัสการก็เปิดกลุ่มไลน์ได้ หรือไปหาถ้าสะดวกไปหาก็ไปได้ เราควรเริ่มทำ คริสตจักรของพระเจ้าเริ่มตรงนี้
รักพระเยซู ไหมครับ ?
อยากให้มีพระกายของพระเยซูอยู่ในที่ที่เราอยู่ไหม ?
พระเจ้าก็อยากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราเอเมนกับสิ่งนี้ เราจะเริ่มเริ่มก่อพระกายของพระเยซูในเมืองไทยให้มากเท่าที่จะมากได้ ตอนนี้ซาตานสำแดงชีวิตของมันเยอะเต็มไปหมดเลย เราจะแข่งกับมันร่วมกับพระเยซู และใคร คือผู้ชนะ พระเยซู เอเมน