1:1 เปาโล ผู้รับใช้ของพระเจ้า และอัครสาวกของพระเยซูคริสต์ เนื่องด้วยความเชื่อของผู้ที่พระเจ้าได้ทรงเลือกสรรไว้ และให้รู้จักความจริงตามทางของพระเจ้า
** ผู้รับใช้ คนใช้ หรือทาสรับใช้
** พระวิญญาณบริสุทธิ์ยืนยันกับเปาโลว่า มีผู้เชื่อบางคนเท่านั้นที่พระเจ้าทรงเลือกและนำเขามาสู่พระคำแห่งความจริงเพื่อเข้าใจการดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้า
1:2 ด้วยหวังว่าจะได้ชีวิตนิรันดร์ ซึ่งพระเจ้าผู้ไม่สามารถตรัสมุสา ได้ทรงสัญญาไว้ตั้งแต่ก่อนสร้างโลก
** ชีวิตนิรันดร์ ζωῆς โซเอะ αἰωνίου ตลอดไป/ไม่มีวันตาย คือชีวิตพระเจ้าที่ไม่ได้ถูกใครสร้างขึ้นมาแต่เป็นอยู่แล้วในพระเจ้าและเป็นพระเจ้า ผู้เชื่อทุกคนมีโอกาสได้รับชีวิตพระเจ้า แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่ประสบการณ์แห่งชีวิตดังกล่าวเนื่องจากความไม่รู้ความจริงแห่งพระคำ ผู้เชื่อมากมายจึงกลัวว่าจะสูญเสียความรอดเมื่อยังทำบาปอยู่ทั้งๆ ที่เขาได้รับชีวิตพระเจ้าแล้วก็ตาม
** ก่อนที่จะสร้างโลก พระเจ้าทรงทราบสิ่งที่จะเกิดขึ้นและทรงปรึกษาเรื่องการช่วยไถ่มนุษย์ไว้แล้ว
1:3 แต่ในเวลาที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ ก็ได้ทรงโปรดให้พระวจนะของพระองค์ปรากฏด้วยการเทศนา ซึ่งข้าพเจ้าได้รับมอบไว้ ตามพระบัญญัติของพระเจ้าผู้ทรงช่วยเราทั้งหลายให้รอด
** กำหนดเวลาแห่งการนำความจริงมาสู่ผู้เชื่อไม่ใช่โดยสาวกสิบสองคน ไม่ใช่เปโตร มัทธิว หรือยอห์น แต่คือเปาโลนี่เองที่ได้รับมอบหมายให้ประกาศหรือเผิดเผยแก่คนทั้งหลาย
** พระบัญญัติ ในที่นี้ คือพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูนั่นเอง
1:4 ถึง ทิตัส ผู้เป็นบุตรแท้ของข้าพเจ้าในความเชื่อเดียวกัน ขอพระคุณ พระเมตตา และสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดา และพระเยซูคริสต์เจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา จงดำรงอยู่กับท่านเถิด
** ทิตัส ต้อนรับข่าวประเสริฐผ่านเปาโล ท่านจึงเรียกว่าบุตรแท้ฝ่ายความเชื่อหรือฝ่ายวิญญาณ
** ความเชื่อเดียวกัน คือผู้เชื่อทุกคนมีความเชื่อเดียวกันในพระเยซูคริสต์
** จงดำรงอยู่กับท่านเถิด คือการปรากฏหรือเคลื่อนไหวเกิดผลมากขึ้นในท่าน เราผู้เชื่อควรได้รับพระคุณ พระเมตตา และสันติสุขอย่างเต็มล้นจากพระบิดาในแต่ละวัน
1:5 เพราะเหตุนี้เองข้าพเจ้าจึงละท่านไว้ที่เกาะครีต ก็เพื่อท่านจะได้แก้ไขสิ่งที่ยังบกพร่องให้เรียบร้อย และตั้งผู้ปกครองไว้ทุกเมืองตามที่ข้าพเจ้าได้กำชับท่านแล้ว
1:6 คือถ้ามีใครไม่มีข้อตำหนิ เป็นสามีของหญิงคนเดียว มีบุตรสัตย์ซื่อ และไม่มีใครกล่าวหาว่าบุตรนั้นเป็นนักเลงหรือเป็นคนดื้อกระด้าง
** ผู้ปกครอง หรือ elder คือผู้ดูแลคริสตจักรที่ค่อนข้างจะเป็นคนที่มีอายุ ควรเป็นผู้ที่เติบโตสู่ระดับหนุ่มหรือพ่อฝ่ายวิญญาณ คำว่า ผู้ปกครอง elder จึงถูกใช้เพื่อเรียกผู้นำคริสตจักรที่เติบโตมากพอในฝ่ายวิญญาณ
** ในสมัยสาวกยังมีผู้ชายชาวยิวมากมายที่มีภรรยาหลายคน รวมถึงคริสเตียนด้วยเช่นกัน แต่สำหรับพระเจ้า ผู้ปกครองต้องไม่มีภรรยาหลายคน ไม่มีข้อตำหนิที่เป็นอยู่เป็นประจำ (นานๆ อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง) บุตรที่สัตย์ซื่อแสดงถึงการรู้จักเลี้ยงดูสั่งสอนลูกให้เป็นคนดีได้ เพื่อจะไม่มีใครสะดุดเมื่อเขาเผยพระวจนะ
1:7 เพราะว่าเจ้าอธิการนั้น ในฐานะที่เป็นผู้รับมอบฉันทะจากพระเจ้า ต้องเป็นคนที่ไม่มีข้อตำหนิ ไม่เป็นคนเย่อหยิ่ง ไม่เป็นคนเลือดร้อน ไม่เป็นนักเลงสุรา ไม่เป็นนักเลงหัวไม้ และไม่เป็นคนโลภมักได้
** เจ้าอธิการ ภาษาอังกฤษคือ overseer, bishop หรือผู้ดูแลคริสตจักร
** ไม่เย่อหยิ่ง ก็คือไม่หยิ่งผยองพองตัว อวดรู้ อวดดี อวดเก่ง อวดฉลาด ไม่เอาแต่ใจ ไม่เป็นคนหัวดื้อไม่ยอมใคร
** ไม่เป็นคนเลือดร้อน คือไม่ใช้อารมณ์เป็นหลัก ไม่โกรธง่าย แต่รู้จักบังคับตนเองให้สงบนิ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
** ไม่เป็นนักเลงสุรา คือไม่ชอบดื่มสุรา
** ไม่เป็นนักเลงหัวไม้ คือไม่ใช้กำลังและความคิดของอาดัมที่มีจิตใจที่น่ากลัวชอบทำร้ายทำลายผู้อื่น
** ไม่เป็นคนโลภมักได้ คือไม่รู้จักพอ หรือคำว่า พอพียง ได้หนึ่งจะเอาสอง ใครมีเราก็ต้องมีต้องได้มากกว่าเขา
1:8 แต่เป็นคนมีอัชฌาสัยรับแขกดี เป็นผู้รักคนดี เป็นคนมีสติสัมปชัญญะ เป็นคนชอบธรรม เป็นคนบริสุทธิ์ รู้จักบังคับใจตนเอง
** เป็นคนมีอัชฌาสัยรับแขกดี เป็นคนที่ต้อนรับทุกคนไม่แบ่งแยกแบ่งชั้นหรือปฏิเสธใคร
** เป็นคนรักคนดี คือเอาความรักเป็นหลัก เป็นที่หนึ่ง นำหน้าเขาไม่ว่าจะเป็นการพูดและการกระทำ
** เป็นคนมีสติสัมปชัญญะ คือรู้จักคิดว่องไวในการพูดและการกระทำด้วยสติปัญญาของพระคริสต์
** เป็นคนชอบธรรม คือทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยุติธรรมและเหมาะสมกับทุกคน
** เป็นคนบริสุทธิ์ คือเดินในฝ่ายวิญญาณ ในพระวิญญาณ อยู่ในพระคริสต์อย่างสม่ำเสมออยู่ทุกเวลาไม่เดินในฝ่ายเนื้อหนัง
** รู้จักบังคับใจตนเอง คือรู้จักควบคุมและกำหนดการกระทำคำพูดของเขาให้อยู่ในน้ำพระทัยของพระเจ้าเสมอ
1:9 และเป็นคนยึดมั่นในหลักคำสอนอันสัตย์ซื่อตามที่ได้เรียนมาแล้ว เพื่อเขาจะสามารถเตือนสติด้วยคำสอนอันถูกต้อง และชี้แจงแก่ผู้ที่คัดค้านคำสอนนั้น
** หลักคำสอนอันสัตย์ซื่อ และ คำสอนอันถูกต้อง คือพระคำแห่งความจริงที่พระเยซูเปิดเผยทั้งหมดแก่เปาโล ที่เรียกว่าพระคำล้ำลึกหรือมานาที่ซ่อนไว้นั่นเอง
** ชี้แจงแก่ผู้ที่คัดค้านคำสอนนั้น คือการแบ่งปันในลักษณะที่ให้โอกาสแก่เขา จนกว่าเขาจะคัดค้านหรือโต้เถียงอย่างรุนแรงเราจึงหยุดและอธิษฐานเผื่อเขา
** คุณสมบัติของผู้ปกครอง ผู้ดูแล ที่มีครบคือมีอยู่ในคริสตจักรฝ่ายวิญญาณหรือคริสตจักรเที่ยงแท้เท่านั้น เนื่องจากว่าผู้นำ (ผู้ดูแลและผู้ปกครอง) ต้องมีพระคริสต์ทำแทนได้มากพอสมควร คริสตจักรศาสนาจึงใช้คำว่า ไม่มีอยู่จริง เพื่อพวกเขาจะได้มีโอกาสรับใช้ และถ้ามีคนอ้างว่ามีคุณสมบัติครบ ก็คือเขาโกหกพี่น้อง และตัวเขาเอง
บทความเพิ่มเติม: คุณสมบัติของผู้ปกครอง ผู้ดูแล ที่มีครบคือมีอยู่ในคริสตจักรฝ่ายวิญญาณ
1:10 เพราะว่ามีคนเป็นอันมากที่ดื้อกระด้าง และพูดไม่เป็นสาระ และบรรดาคนหลอกลวง โดยเฉพาะพวกที่ถือการเข้าสุหนัต
** ดื้อกระด้าง คือการไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือไม่ได้อยู่ในน้ำพระทัยพระเจ้า
** พูดไม่เป็นสาระ คือคำพูด คำสอน และสิ่งที่เขาแบ่งปันนั้นไร้ประโยชน์สำหรับชีวิตฝ่ายวิญญาณ
** หลอกลวง คือหลอกให้หลงทางอยู่ในความเชื่อที่ผิด
** ผู้นำผู้ประกาศมากมายที่ทำในสามสิ่งนี้โดยไม่รู้ตัวโดยเฉพาะพวกคริสเตียนยิว
1:11 ผู้ซึ่งปากของพวกเขาต้องถูกปิดเสีย ผู้ซึ่งพลิกคว่ำบรรดาครัวเรือนให้เสียไป โดยสอนสิ่งต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาไม่ควรจะสอนเลย เพราะเห็นแก่ทรัพย์สิ่งของอันเป็นมลทิน
** ปากของพวกเขาต้องถูกปิดเสีย คือเลิกสอนแล้วเรียนรู้พระคำแห่งความจริงจากเปาโลและผู้ที่ถูกเปิดตาแล้ว
** สอนสิ่งต่างๆ ซึ่งพวกเขาไม่ควรจะสอนเลย ก็คือ คำสอนที่แปลผิดที่มีเชื้อยีสต์มากมาย
** เพราะเห็นแก่ทรัพย์สิ่งของอันเป็นมลทิน คือเห็นแก่ผลประโยชน์ ที่เป็นเงินทองหรือสิ่งของสำหรับฝ่ายร่างกาย
1:12 คนหนึ่งในพวกเขา คือเป็นผู้พยากรณ์ของพวกเขาเอง ได้กล่าวว่า “ชาวครีตเป็นคนพูดปดเสมอ เป็นสัตว์ร้ายทั้งหลาย เป็นคนเกียจคร้านกินเติบ”
1:13 คำพยานนี้เป็นความจริง เหตุฉะนั้นท่านจงว่ากล่าวพวกเขาให้แรง ๆ เพื่อพวกเขาจะปกติในความเชื่อนั้น
1:14 โดยไม่ได้ใส่ใจในนิทานต่าง ๆ ของพวกยิว และในบรรดาบทบัญญัติของมนุษย์ ที่หันไปเสียจากความจริง
** นิทานต่างๆ ของพวกยิว คือสิ่งที่สืบทอดมาสู่ลูกหลานของพวกยิว
** บรรดาบทบัญญัติของมนุษย์ ที่หันไปเสียจากความจริง คือพระบัญญัติที่มีทั้งเก่าและใหม่ที่คริสเตียนยิวและต่างชาตินำมาสอนจึงทำให้ผู้เชื่อหลงทาง ตกขอบ และตาบอด
1:15 สำหรับคนบริสุทธิ์นั้น สิ่งสารพัดก็บริสุทธิ์ แต่สำหรับคนทั้งหลายที่เป็นมลทินและที่ไม่เชื่อนั้น ก็ไม่มีสิ่งใดบริสุทธิ์เลย แต่แม้กระทั่งความคิดและจิตสำนึกของพวกเขาก็เป็นมลทิน
** ทุกสิ่งที่อยู่ในความจริงก็เรียกว่าบริสุทธิ์ คือชีวิตใหม่ในพระคริสต์ ส่วนทุกสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในความจริงแห่งพระคำนั้นก็เป็นมลทิน คือชีวิตเก่าในอาดัม ความคิดและ จิตสำนึกของอาดัมทำให้ทุกสิ่งเรียกว่าเก่าและเป็นผลที่ได้รับ คือไม้ ฟาง และหญ้าแห้ง
1:16 พวกเขาออกปากว่าพวกเขารู้จักพระเจ้า แต่ในการงานต่าง ๆ พวกเขาก็ปฏิเสธพระองค์ โดยการประพฤติตัวน่ารังเกียจ และไม่เชื่อฟัง และสำหรับการงานที่ดีทุกอย่างก็ใช้ไม่ได้เลย
** คริสเตียนมากมายรู้จักพระเจ้า แต่ในด้านชีวิตและการงาน พวกเขาดำเนินชีวิตด้วยตัวเก่าเนื้อหนัง อันนี้เรียกว่า การประพฤติตัวน่ารังเกียจ และไม่เชื่อฟัง และสำหรับการงานที่ดีทุกอย่างก็ใช้ไม่ได้เลย คือความดีที่ตายแล้วนั่นเอง