“ไฟ” ในมัทธิวบทที่ 3 และกิจการบทที่ 2
ถาม.
ไฟของพระเจ้ามีสองไฟใช่มั๊ยคะ การเจิมด้วยไฟ และไฟแห่งการพิพากษา
ตอบ.
1. การเจิมด้วยไฟ ไม่มีในพระคัมภีร์ต้นฉบับกรีก มีแต่พระวิญญาณเผาไหม้วิญญาณของเรา เพื่อให้ร้อนรนกระตือรือร้น (โรม 12:11)
- เมื่อผู้เชื่ออธิษฐาน และรู้สึกได้รับการสัมผัสและสันติสุข ก็คิดว่าเขากำลังรับไฟ (แต่แท้ที่จริงเขากำลังรับการสวมทับจากพระวิญญาณด้านนอก (πλησθεὶς Πνεύματος)) และกระทำหลายสิ่งที่ไม่มีในพระคัมภีร์ แต่คิดว่าเป็นการงานของพระวิญญาณ เขาล้ม กลิ้งไปมา ร้องไห้ หัวเราะเสียงดัง พูดรัวลิ้น แต่เมื่อออกจากที่นมัสการ เขาเลิกอาการเหล่านั้น และถอดหน้ากากผู้บริสุทธิ์เข้มแข็งออก กลับมาเป็นตัวเก่าที่บาป และรักโลกเหมือนเดิม ซึ่งแตกต่างจากตอนที่เขานมัสการ เขาอินมาก หลับตา ร้องไห้ สรรเสริญพระเจ้า ฯลฯ ผมก็เคยเป็น ผมตอบคำถามนี้เพื่อการค้นหาความเป็นจริง ไม่ได้ตัดสินใคร ผมคือ ex-Pentecost ครับ
- ในกิจการบทที่ 2 ไม่ใช่เจิมด้วยไฟ แต่เรียกว่า เครื่องหมายแห่งของประทานในการพูดภาษาต่างๆ เพราะว่ามีไฟเป็นรูปลิ้น ส่วนของประทานอื่นๆ พระเจ้าประทานให้ผู้เชื่อนั้น ก็ไม่มีไฟปรากฏเป็นเครื่องหมาย
2. ไฟแห่งการพิพากษา คือไฟในเกเฮนา (สถานที่ลงโทษคริสเตียนในยุคพันปี) และบึงไฟ (สถานที่ลงโทษคนที่ไม่เชื่อนิรันดร์)
เนื่องจากพี่น้องกลุ่มเพนเทคอสไม่รู้และไม่เข้าใจ จึงเชื่อผิดในเรื่องเจิมด้วยไฟ
...
ถาม.
ในมัทธิว ยอห์นได้พูดเกี่ยวกับการบัพติศมาด้วยไฟ คือการถูกโยนลงบึงไฟใช่มั๊ยคะ
ตอบ.
ใช่ครับ เรื่องนี้คนมากมายรับไม่ได้ เพราะไม่ค้นดูและขอพระเจ้าเปิดตา
- ฟาริสีและสะดูสี ออกมารับบัพติศมาเพราะกลัวพระเจ้า และเชื่อว่าท่านยอห์นเป็นผู้รับใช้ที่พระเจ้าส่งมา
พวกนี้จะออกมาฟังและสารภาพ ทุกๆ ครั้งที่พระเจ้าส่งคนมาเตือน พวกเขาไม่ได้กลับใจจริงๆ แต่เพราะกลัวการลงโทษ ท่านยอห์นรู้โดยพระวิญญาณ ท่านจึงตำหนิพวกเขา แต่ท่านก็ยังให้โอกาสพวกเขาว่า ไม่ใช่ออกมารับบัพติศมาเท่านั้น แต่ต้องกลับใจจากระบบศาสนาและยุคเดิม เพื่อรอรับยุคใหม่จากพระเยซู
ขอให้พี่น้องอ่านพระคำพระเจ้าสี่ข้อนี้ก่อน สองข้อมี “ด้วยพระวิญญาณ” และ “ด้วยไฟ” ส่วนอีกสองข้อมี “ด้วยพระวิญญาณ” แต่ไม่มี “และด้วยไฟ”
- มธ 3:11 (มีไฟ) — พระองค์จะทรงให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ
- มก 1:8 (ไม่มีไฟ) — พระองค์นั้นจะให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
- ลก 3:16 (มีไฟ) — พระองค์นั้นจะทรงให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ
- ยน 1:33 (ไม่มีไฟ) — `เมื่อเจ้าเห็นพระวิญญาณเสด็จลงมาและสถิตอยู่บนผู้ใด ผู้นั้นแหละเป็นผู้ให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’
เรื่องราวที่สำคัญในมัทธิวบทที่ 3
1. มัทธิว 3:7 ท่านยอห์นพูดกับฟาริสีและสะดุสี
2. มัทธิว 3:7 ท่านยอห์นตำหนิพวกเขาอย่างแรง
3. มัทธิว 3:8 ท่านยอห์นเตือน และให้โอกาสกลับใจ
4. มัทธิว 3:10 ท่านเตือนว่า ผลร้ายจะเกิดกับพวกเขาถ้าไม่กลับใจ (มธ 3:10 บัดนี้ขวานวางไว้ที่โคนต้นไม้แล้ว ดังนั้นทุกต้นที่ไม่เกิดผลดี จะต้องตัดแล้วโยนทิ้งในกองไฟ) — ข้อที่ 10 มี “ไฟ” ซึ่งเป็นบึงไฟ
5. พระเยซูจะมาเพื่อจุ่ม (บัพติศมา) เขาในพระวิญญาณถ้ากลับใจ (มธ 3:11)
6. พระเยซูจะมาเพื่อจุ่ม (บัพติศมา) เขาในไฟ (บึงไฟ) ถ้าไม่กลับใจ
7. มธ 3:12 สรุปคือ…
ก. พระองค์จะทรงเก็บข้าวของพระองค์ไว้ในยุ้งฉาง (บัพติศมาในพระวิญญาณ)
ข. แต่พระองค์จะทรงเผาแกลบด้วยไฟที่ไม่รู้ดับ (บัพติศมาในไฟ)
ในมัทธิวและลูกาเท่านั้นที่พูดถึง “บัพติศมาในไฟ” แต่ในมาระโกและยอห์นไม่มี “ในไฟ” เพราะมัทธิวและลูกาเป็นข่าวประเสริฐเรื่องราชอาณาจักร ส่วนมาระโกและยอห์นเป็นข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ และชีวิตนิรันดร์
เพราะฉะนั้น การรับบัพติศมา คือพระเยซูจะเป็นคนรับให้ “บัพติศมาในพระวิญญาณ” คือรอด และ “บัพติศมาในไฟ” คือส่งไปยังบึงไฟ
บัพติศมาไม่ใช่พิธี แต่กรีกแปลว่า “จุ่มลงไป” ถ้าฟาริสีและสะดูสีกลับใจ จะได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณเพื่อรับความรอด แต่ถ้าฟาริสีและสะดูสีไม่กลับใจ พระเยซูจะจุ่มพวกเขาลงไปในบึงไฟเพื่อไม่รอด
ไม่ใช่ทุกคนที่รับความจริงนี้ได้ แต่ถ้าเปิดใจ และอ่านพระคำพระเจ้าสี่ข้อช้าๆ เราจะพบว่า ในมาระโกและยอห์นไม่มีจุ่มลงไปในไฟ
มัทธิวและลูกา เป็นข่าวประเสริฐที่ให้ทั้งความหวังและการพิพากษา ส่วนมาระโกและยอห์น เป็นข่าวประเสริฐที่ให้แต่ความหวัง
ผู้นำมากมายไม่เคยคิดครับว่ามีอะไรซ่อนอยู่ คนที่บัพติศมาเราในพระวิญญาณ คือพระเยซูเองครับ เราจะมองไม่เห็น (ยน 3:5–6)
“พระองค์จะทรงให้เขาทั้งหลายรับ…” มัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น ทุกข้อกล่าวว่า พระเยซูเป็นคนรับให้ ไม่ใช่ผู้นำวางมือเท่านั้นจึงจะรับได้ แต่บัพติศมาในไฟ เราผู้เชื่อจะไม่ได้รับ
คนที่ไม่รอด พระเยซูจะจุ่มเขาลงไปในบึงไฟในวันสุดท้าย คือบัพติศมาในไฟครับ
ไม่มีใครสังเกตได้ครับ นอกจากพระสติปัญญาเปิดเผย
เราส่วนมากพออ่านพบว่า “พระองค์จะรับบัพติศมาท่านในพระวิญญาณและในไฟ” ก็เลยคิดว่า เราผู้เชื่อจะได้รับทั้งสอง… ไม่ใช่ครับ
ความหมายก็คือ พระองค์จะจุ่มท่านลงไปในพระวิญญาณ (พระกาย — เพื่อรอด) และจุ่มท่านลงไปในไฟ (เพื่อลงโทษนิรันดร์ — เพื่อไม่รอด)
สรุป พระเยซูเป็นคนถือสิทธิอำนาจในการให้คนหนึ่งรอด และอีกคนไม่รอด
ไม้อ้อ กะ ใส้ตะเกียง: มีนาบอกเค้าว่า ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในเรา แล้วทำไมถึงยังขอการเจิมด้วยไฟอีก เค้าบอกว่า เพราะเป็นฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า
เรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ไม่เกี่ยวอะไรกับการเจิมด้วยไฟครับ
- พระเจ้าเจิมผู้เชื่อ และผู้รับใช้ทุกคนในหน้าที่การงานต่างๆ แต่ไม่ได้เอาไฟมาเจิม ทุกคนมีของประทาน แต่คนละหน้าที่
...
ถาม.
ก็เลยหยุดฟังอย่างเดียวเลย เพราะเขาเป็น ศบ.
ตอบ.
เราค้นดูได้ ในพระคัมภีร์ คำว่าเจิม คือแต่งตั้ง แต่ไม่ได้เอาไฟเจิมเรา
เราพบเฉพาะกิจการบทที่ 2 เท่านั้น และไม่ใช่เจิม แต่เป็นเครื่องหมาย นอกจากที่นั่น เราไม่เห็นในที่อื่นอีกเลย
...
ถาม.
ขอบคุณพระเจ้า ที่ได้รับความกระจ่างมากยิ่งขึ้น
ตอบ.
ไม่ใช่ ศบ. ทุกคนจะรับการเปิดเผยมาสู่ระดับลึกครับ
ขอให้กระหาย และรับการเปิดเผยจากพระวิญญาณต่อไป เรื่องนี้ไม่ใช่คนที่มีตำแหน่ง ศบ. เท่านั้นที่จะได้รับ พระเจ้าเลือกคนที่กระหาย
...
ถาม.
เพราะคำว่า “เปลวไฟสันฐานเหมือนลิ้น”
ตอบ.
เป็นเครื่องหมายครับ แต่ไม่ได้เอาไฟมาเจิมเขา คำว่า “เจิมด้วยไฟ” ไม่มีตลอดพระคัมภีร์ทั้งเล่ม
...
ถาม.
เอเมนคะ มีนาก็ไม่เคยเห็นคะ
ตอบ.
มหาลัยทุกแห่งที่ไม่ใช่เพนเทคอส และผู้รับใช้ที่รับการเปิดเผย ทั้งเรียนรู้เรื่องคำต่างๆ ในกรีก จะรู้ดีว่าไม่มีคำนี้ครับ
...
ถาม.
อ้าว มีเพนเทคอสแค่นั้นเหรอคะ ขอบคุณนะคะ
ตอบ.
กลุ่มนี้อ่อนเรื่องการเรียนรู้มากครับ เพราะเขาเชื่อเรื่องการนำของพระวิญญาณมากกว่าเรียนรู้ แต่เขากลับล้มเหลวเพราะเชื่อผิด และเข้าใจผิดพระคัมภีร์มากมาย
ทั้งเชื่อว่าถ้าทำบาปไม่เลิก ไม่รักษาชีวิตบริสุทธิ์ทุกวัน คริสเตียนคนนั้นจะไม่รอด
เขาตัดสินว่า กลุ่มอื่นไม่มีพระวิญญาณ
บทความเพิ่มเติม: การเจิมและการวางมือตามน้ำพระทัย