ยังไม่ทันไร ผมก็โดนลบอีกแล้ว (กลุ่มฟื้นฟู)
ผมเคยได้ยินพี่น้องเจบอกพี่น้องทั้งหลายว่า พระคัมภีร์ฉบับภาษาไทยและลาว ยังมีข้อบกพร่อง ต้องอ่านฉบับที่ถูกต้อง อย่างฉบับฟื้นฟูในภาษาอังกฤษ
แต่สำหรับ โรม 16:17-18 ผมเข้าใจว่าพี่น้องเจเอง คงยังไม่ได้ตั้งใจอ่านฉบับที่ถูกต้อง พี่น้องถึงไม่เข้าใจประเด็นที่ผมเจตนาจะสื่อสารกับคุณ
ถ้าคุณมีอคติกับ Recovery Version ก็ลองอ่าน NIV ดูก็ได้นะครับ
"I urge you, brothers and sisters, to watch out for those who cause divisions and put obstacles in your way that are contrary to the teaching you have learned. Keep away from them. For such people...."
ในข้อนั้นกล่าวถึงคนที่
1. ก่อการแตกแยก (cause divisions)
2. ก่อเหตุให้ผู้อื่นสะดุด (put obstacles in your way)
ซึ่งเป็นการผิดจากคำสอนที่เราได้เรียนมา
สำหรับคนประเภทนี้ต่างหาก เปาโลบอกให้เราคอยเฝ้าสังเกต คอยจับตา และให้หลีกห่างจากเขา คล้ายๆ กับท่าทีที่โยฮันมีต่อผู้ที่สอนมิจฉาลัทธิ
คำสอนของเปาโลในหนังสือโรมนั้น ไม่ได้สิ้นสุดที่โรมบทที่ 8 ซึ่งให้เราถอดแบบตามพระฉายาแห่งพระบุตรหัวปีของพระเจ้าเท่านั้น
แต่เมื่อมาถึง 12:1-2 เปาโลยังบอกให้เราพิสูจน์ให้รู้ถึงน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งถ้าดูตามบริบทของบทที่ 12 น้ำพระทัยของพระเจ้าก็คือ "พระกายของพระคริสต์"
ซึ่งเราจะต้องมีความเที่ยงแท้กันตั้งแต่วันนี้ โดยเริ่มจากการไม่คิดประเมินตัวเองให้สูงเกินควร
จากนั้นในบทที่ 14 เปาโลก็บอกว่า ถึงผู้เชื่อบางคนจะแตกต่างจากเรา ในเรื่องภาคปฏิบัติอย่างอาหารการกินหรือการถือวัน (ลากเสียงหรือไม่ลากเสียง, ใช้สำเนียงไทยหรือจีน ฯลฯ) เราก็อย่าไปตัดสินเขา แต่ให้ยอมรับเขาไว้ในพระกาย เหมือนกับที่พระเจ้าทรงยอมรับเขา (ข้อ 2-6)
จะเห็นว่า ท่าทีที่เปิดกว้างของเปาโลในบทที่ 14 แตกต่างกับท่าทีที่เข้มงวดใน 16:17-18 มาก เพราะอะไร?
เพราะ "น้ำพระทัยของพระเจ้า" ซึ่งก็คือพระกายของพระคริสต์ที่อยู่ในความเป็นหนึ่งไงครับ.
ที่เขาเปิดกว้างยอมรับผู้เชื่อที่แตกต่างกับเขา เพราะต้องการรักษาความเป็นหนึ่งแห่งพระกายไว้ในทางปฏิบัติ
ที่เขาเข้มงวดและบอกให้พี่น้องทั้งปวงหลีกห่างจากคนที่ก่อการแตกแยก ก็เพราะต้องการรักษาความเป็นหนึ่งแห่งพระกายเหมือนกัน
คุณเจแก้ตัวให้ "ตัวเอง" ตั้งเยอะตั้งแยะในประเด็นที่ไม่ได้อยู่ในโรม 16:17-18 ตามภาษาเดิม ทำไมพี่น้องไม่ช่วยปกป้องความเป็นหนึ่งแห่งพระกาย ไม่ช่วยปกป้องน้ำพระทัยของพระเจ้าบ้าง?
ผมขอแบ่งปันด้วยรัก ขอพระเจ้าช่วยเปิดเผยแก่ทุกท่านนะครับ
ในแต่ละยุคสมัย พระเจ้าทรงมีการงานที่พระองค์ประสงค์จะกระทำ เพื่อสำเร็จโครงการตามน้ำพระทัยของพระองค์เอง
ถ้าเราอยากปรนนิบัติให้เป็นที่ชอบพระทัย เราก็ต้องรู้ถึงสิ่งที่พระเจ้ากำลังกระทำอยู่ในยุคสมัยนี้ ซึ่งก็คือพระกายของพระคริสต์ เพื่อจะนำพระองค์เสด็จกลับมา
ถ้าเรายังคงอยู่ในกลุ่มที่เราชอบตามความชอบใจของเราเอง แล้วพระกายก็ยังก่อสร้างขึ้นมาได้เอง อย่างนี้เปาโลก็คงไม่ต้องตักเตือนชาวโกรินโธ ไม่ให้ยกคำว่า "อยู่ฝ่ายเปาโล" "อยู่ฝ่ายอปอลโล" หรือ "อยู่ฝ่ายพระคริสต์" มาเป็นข้ออ้างที่ทำให้ตัวเองแตกแยกกับคนอื่น
ขณะเดียวกัน การก่อสร้างพระกายก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนที่เป็นคริสเตียนจะอยู่ในการก่อสร้างนี้ในทางปฏิบัติแล้วพระกายจึงจะก่อสร้าง
ลองดูประวัติศาสตร์ของชาวอิสราเอลเป็นตัวอย่าง
มีเพียงกลุ่มเดียวที่กลับมายังกรุงเยรูซาเล็มเท่านั้นที่ถือได้ว่าเป็นผู้ก่อสร้างพระวิหารเพื่อเปิดทางให้พระเยซูเสด็จมาได้ในครั้งแรกที่ทรงมากลายเป็นมนุษย์
พวกที่ยังอยู่ตามธรรมศาลาต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายวิญญาณสักแค่ไหน พวกเขาก็ไม่ได้ก่อสร้างพระวิหาร และไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เปิดทางให้พระองค์เสด็จมาได้
พระองค์เสด็จมา ทั้งๆ ที่ธรรมศาลาเหล่านี้ยังคงอยู่ก็จริง แต่ผู้คนที่ยังคงอยู่ตามธรรมศาลาเหล่านั้น ไม่ได้มีส่วนในการก่อสร้างพระวิหาร ก็ย่อมไม่ได้รับบำเหน็จในฐานะผู้ที่เปิดทางให้พระองค์เสด็จมา
ในยุคนี้ เราไม่เพียงต้องถูกช่วยให้พ้นจากความบาป, พ้นจากการไม่อยู่ฝ่ายวิญญาณ, การไม่รักพระคริสต์, การทำแทนพระคริสต์เท่านั้น
แค่นั้นยังไม่พอครับ
เรื่องอย่างนั้น พี่น้องนีพูดไว้ตังแต่ปี 1940 แล้ว
แต่เรายังต้องถูกช่วยให้พ้นจากตัวเอง, จากความรักชอบและการเลือกสรรของตัวเอง, จากลัทธิปัจเจกนิยมที่ทำให้เราก่อสร้างกับคนอื่นไม่ได้ด้วย
เพื่อเราจะกลับมาสู่การก่อสร้างพระกายได้ในทางปฏิบัติจริงได้
นั่นคือสิ่งที่พี่น้องนีกล่าวไว้ในหนังสือ "ข้อลับลึกของพระคริสต์" และพี่น้องลีได้สานต่อมาจนถึงบั้นปลายชีวิตของท่าน และพระเจ้าก็ยังทรงเปิดเผยแก่เรามากขึ้น และเราก็กำลังกระทำอยู่ในวันนี้ ปี 2016
นั่นคือการร่วมงานกับพระองค์ในยุคนี้
1. ลัทธิ มนุษย์พระเจ้า (คริสตจักรฟื้นฟู the Lord recovery church) เป็นลัทธิหนึ่งที่เชื่อว่ามีแต่พวกเขาเท่านั้นที่ถูกต้อง และพระเจ้ากำลังทำงานอยู่ ถ้าไม่ร่วมกับพวกเขาก็จะไม่ใช่เจ้าสาวของพระคริสต์
2. วิทเนส ลี คืออัครสาวกในยุคนี้ที่ทุกคนต้องเชื่อฟังคำสอนของเขา และคำสอนทั้งวิธีการฝึกเดินฝึกชีวิตของเขาไม่มีผิดพลาด ชาวจีนจึงหลับหูหลับตาเดินตามลีเพราะเชื่ออย่างตายใจว่าลีคือคนเดียวและของแท้
3. ใครจะฝึกยังไงก็ได้ ไม่เป็นไร เอาที่สบายใจเถิด คือคำพูดของผู้นำลัทธินี้เพื่อเอาใจคนที่เข้ามาใหม่ แต่อีกไม่นานเขาจะสอนและเตือนให้ทุกคนทำตามแบบลีวางเอาไว้ ผู้นำและผู้ตามชอบเขียนยาวเพื่อต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่าเขารู้มากดีมาก แต่พอมีปัญหากับใครเขาจะมีอาการเนื้อหนังตอบโต้ทันที คนที่เปิดใจจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า วิธีการฝึกชีวิตจะเหมือนโบสถ์จีน ภาษาไทยก็ต้องแปลไทยอีกที ผู้นำจะอ้างว่าคือภาษาพระวิญญาณไม่ใช่ภาษาไทยโบราณพวกคุณต้องขอพระเจ้าเปิดตาจึงไม่ต้องมีไทยแปลไทย
4. พระกายจีนหรือลี ก็ไมแตกต่างไปจากองค์กรคณะนิกายทั่วไปที่ชอบอ้างว่าตนถูกคนอื่นผิดหมด
5. เรารู้แล้วว่าในอดีต ลัทธิเทียมเท็จทั้งหลายจะไม่รู้ตัวว่าเขาผิดและไม่รู้ตัวว่าเขาถูกล้างสมอง จนกว่าวันหนึ่งพระเจ้าทรงเปิดตาฝ่ายวิยญาณจริงๆ จึงลืมหูลืมตาได้
ผมเคยเข้าร่วมกลุ่มลัทธิเทียมเท็จหลายกลุ่ม ผมเข้าใจและรู้ที่มาที่ไป ขอหนุนใจพี่น้องที่รักทุกท่านให้แสวงหา ชีวิต และการเดินการฝึกการก่อคริสตจักรแบบ มีชีวิต ตามหาชีวิต อย่าอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของลีหรือของมนุษย์คนใด
อย่าให้ประเพณีหรือรูปแนวศาสนามาบังคับชีวิตเรา ด้วยรัก