1) มีจิตใจกว้างขวาง
- คือไม่มีจิตใจคับแคบ ไม่คิดอะไรทั้งนั้น (ที่เป็นด้านลบ) การมีจิตใจที่กว้าง เป็นคุณสมบัติของผู้นำ มันช่วยนำเขาไปสู่การได้รับสติปัญญาจากพระบิดาอยู่เสมอ
- ซาโลมอนได้รับสติปัญญาจากพระเจ้า ในการบริหารประเทศอิสราเอล ท่านมีความรอบรู้และชาญฉลาดมาก เนื่องจากท่านเป็นคนใจกว้าง ซาโลมอนประสบความสำเร็จตอนที่ท่านยังเป็นหนุ่ม ท่านมีจิตใจกว้างเหมือนดั่งทะเล
- ความหยิ่งผยองทำลายชีวิตของเรา และความหยิ่งนั้นๆ มาจากจิตใจที่คับแคบ
2) เป็นคนที่มีจิตใจกว้าง
- จิตใจนี้ได้มาจากพระคุณที่ครบบริบูรณ์ ผู้นำที่ขอก็จะได้รับ
- ผู้นำที่มีจิตใจกว้างจะใส่ใจที่พระเจ้า สนิท คิดบวก และความรัก เขาจะไม่ใส่ใจที่คนสร้างปัญหาหรือปัญหา เขาจะสนุก ยินดีไปกับการรับปัญหา และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา เพราะเขาทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ปัญหาต้องมี คนต้นเรือนที่มีจิตใจกว้าง ย่อมจะรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเสมอ เขาจะไม่หนีและไม่ท้อ
- เราต้องเรียนรู้ในการเป็นคนที่มีจิตใจกว้าง เพื่อใช้มันกับงานและปัญหาทุกชนิด ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กมาก หรือน้อยเพียงใดก็ตาม
- เราต้องมีจิตใจที่กว้างอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดปัญหาการบ่น เบื่อ นินทา ท้อ แตกแยก และหนี
- คริสเตียนที่มีจิตใจคับแคบมักจะถกเถียง และมองลบในทุกๆ เรื่อง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
- ทุกวันนี้ แทบจะทุกคริสตจักรมีผู้นำที่ไม่มีจิตใจกว้างพอ การแก้ปัญหา คือออกไปเยี่ยมเยียนคริสตจักรฝ่ายวิญญาณ และอธิษฐานเผื่อปัญหาดังกล่าว
- ขอพระบิดาอย่าให้เราถือตัว อวดตัว และพองตัวอยากเด่นดัง เพื่อเราจะมีจิตใจที่กว้าง
- มนุษย์อาดัม หรือมนุษย์เนื้อหนังจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้ คือเปลี่ยนไม่ได้ (มากพอ)
- การยกโทษอภัยต่อผู้อื่นได้ เราต้องมีจิตใจที่กว้าง (โยเซฟรักพี่ชายทุกคน)
- การรักศัตรู คนที่ทำร้ายเรา ข่มเหงเรา และทำสิ่งชั่วร้ายกับเราได้ เราต้องมีจิตใจที่กว้าง
- การไม่ชอบถกเถียง ขี้ใจน้อย หรือชอบน้อยใจ เราต้องมีจิตใจที่กว้าง
- ผู้เชื่อและผู้รับใช้แทบจะทุกคน ต่างก็รักพระเจ้าไม่มากก็น้อย แต่ปัญหาของพวกเขาก็คือไม่มีจิตใจที่กว้าง
3) เป็นคนสัตย์ซื่อต่อหน้าที่คนต้นเรือน ที่พระเจ้าทรงตั้งไว้ให้เรามีส่วนร่วมในการดูแลคริสตจักรของพระองค์
- ความสัตย์ซื่อที่แท้จริง คือเราไม่หวัง (1) ผลตอบแทนจากมนุษย์ (ค่าจ้างรางวัล/เงินเดือน) ถ้าหากสมควรรับเราก็รับ อยู่ที่เหตุผลและความต้องการของผู้ให้ (2) ชื่อเสียง คำชม คำยกย่อง (3) พระพร (4) ความรอด หรือเข้าอาณาจักร แต่เราทำเพราะเราสัตย์ซื่อ และรักพระเยซู
- กล้าพูดต่อหน้า (ไม่พูดอ้อมค้อมและลับหลังพี่น้อง) ด้วยความรักและอ่อนโยน
- ไม่กลัวเมื่อพี่น้องไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เราต้องการพูด เพื่อเตือนสติและหนุนใจ
- การเป็นคนซื่อตรง คือเราอยู่ในความจริง หรือความสว่างของพระเจ้า ไม่ได้อยู่ในความมืด
4) เป็นคนซื่อตรง ตรงไปตรงมา
- อย่าใช้ผลประโยชน์ คำชม หรือสิ่งของเพื่อให้พี่น้องทำอะไรบางอย่างให้เรา
- อย่าใช้พี่น้องไปพูดแทนเรา เมื่อเกิดปัญหาระหว่างเรากับอีกคน (เมื่อเรามีปัญหากับพี่น้องคนหนึ่งผู้เป็นสามี อย่าบอกภรรยาช่วยพูดแทนเรา หรือเมื่อมีปัญหากับพี่ชาย อย่าขอให้น้องชายของเขาพูดแทนเรา)
5) เป็นคนละเอียดถ้วนถี่ ใส่ใจต่อทุกคนและทุกสิ่ง
- เมื่อเรารับมานา เราควรสะสมอย่างระมัดระวัง เพื่อการนำมาใช้เพื่อฝึกเดินและแบ่งปัน จะไม่ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน
- ทุกวันนี้เราพบว่า พี่น้องที่รับมานายังมีจุดอ่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงรับมานาได้บ้างไม่ได้บ้าง ผิดบ้างถูกบ้าง และกล่าวว่าดีบ้างไม่ดีบ้าง ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง
6) เป็นคนขยัน
- ผู้นำต้องเป็นคนขยัน เพื่องานของพระเจ้าจะเดินไปตามกำหนดเวลา
- คนเกียจคร้านจะไม่เห็นคุณค่าของเวลา และการงานของพระเจ้า มิหนำซ้ำยังทำลายชีวิตของเขาเอง เนื่องจากว่า พระเจ้าไม่ต้องการให้บุตรของพระองค์เป็นคนเกียจคร้าน โดยเฉพาะคนต้นเรือนภายในคริสตจักร
- คนเกียจคร้านจะทำให้ชีวิตของเขาไม่ราบรื่น และไม่ไปถึงไหน
- ถ้าหากคริสตจักรของท่านเกียจคร้าน เราอธิษฐานเผื่อ และแก้ไขแบบค่อยเป็นค่อยไป เราเริ่มการงานโดยชักชวนพี่น้องที่ขยัน เพื่อเป็นตัวอย่าง
- ผู้นำคริสตจักรของท่านขยันหรือเกียจคร้าน เราดูจากกิจกรรมของพวกเขาว่ามีหรือไม่มี มีมากหรือน้อยแค่ไหน อย่างเช่น การสามัคคีธรรม การร่วมอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ เฝ้าเดี่ยว อธิษฐานเผื่อกลางสัปดาห์ตอนกลางคืน และการออกไปประกาศ
7) เป็นคนที่หนักแน่นมั่นคง คือไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ
- ถ้าหากจะตัดสินใจก็ต้องใช้เวลา หรือยากที่จะตัดสินใจ และเมื่อตัดสินใจก็ยากที่จะเปลี่ยนใจ หรือถ้าหากเปลี่ยนใจก็ต้องดูที่เหตุผล ความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน
- ถ้าหากเราไม่รีบ และใช้เวลานานในการตรึกตรอง ทุกสิ่งจะชัดเจนมากขึ้น
- อย่าด่วนเชื่อคำพูดของใครง่ายๆ อย่าด่วนยกย่องหรือตำหนิใครง่ายๆ
- มนุษย์ หรือแม้แต่คริสเตียน ต่างก็มีจุดดีและจุดบกพร่อง ผู้เชื่อทุกคนล้วนเป็นบุตรของพระเจ้า เราต้องยอมรับว่า ผู้กระทำกิจเพื่อไถ่พวกเราก็คือพระเจ้า พระคริสต์คือผู้ชนะในเรา เป็นชีวิตพระเจ้าที่เรายืมมาเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่ตัวเราเอง เพราะฉะนั้น เราจึงมองบวกและมองทุกคนดีหมดใหม่หมด ตามพระดำรัสของพระบิดา
- คริสตจักรไม่ต้องการที่จะเห็นการเปลี่ยนไปมาบ่อยนัก มันเป็นเครื่องบ่งบอกว่า ผู้นำ ไม่หนักแน่นมั่นคง เราต้องช้าในการตัดสินใจ และมั่นคงกับการทำตามแผนการงาน ที่ได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- เมื่อมีปัญหาเข้ามา อย่ารีบเปลี่ยนแผนงาน หรือด่วนไปคิดถึงเรื่องการเลือกตั้งใหม่
- เมื่อเผชิญกับปัญหา ผู้นำที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง จะแก้ไขปัญหาด้วยหัวใจที่สงบนิ่ง
- การประชุมและการสามัคคีธรรม ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผู้นำควรช้าในการตัดสินใจ เพื่อจะไม่ต้องเสียใจทีหลัง และได้รับผลเสียหายมากกว่าผลที่ได้รับ
- ปัญหามักจะเกิดขึ้นเป็นประจำ เนื่องมาจากการไม่มีจิตใจที่หนักแน่นมั่นคงของผู้นำ ซึ่งเรื่องเล็กน้อยอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
- เมื่อมีพี่น้องทำผิด ผู้นำที่ดีจะสงบนิ่ง ใจเย็น ไม่พูดอะไร และรอจนกว่าจะได้โอกาสที่เหมาะเสียก่อน
- ซาตานจะดีใจมาก ถ้าหากเราไม่สงบนิ่งไม่ใจเย็น และโวยวาย รีบด่วนตัดสินกล่าวโทษคนที่ผิด รีบขว้างก้อนหินใส่พี่น้องที่ผิดทันที
- อย่าให้ซาตานชนะ หรือหัวเราะเยาะเราในฐานะผู้นำที่ไม่ดี ทางที่ดีก็คืออย่าด่วนรีบขว้างก้อนหิน เมื่อได้ข่าวเรื่องการกระทำผิดของพี่น้อง
- การทำงานของพระเจ้าจะเกิดขึ้น เมื่อเราหนักแน่นมั่นคง ช้าในการตัดสินใจและเปลี่ยนใจ
8) มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่น้อง
- คนที่ไม่มีความเป็นห่วงเป็นใย สนใจ ใส่ใจต่อพี่น้อง ไม่ควรที่จะเป็นผู้นำ ผู้เชื่อหลายคนไม่ชอบให้พี่น้อง หรือผู้อื่นมารบกวนเวลาของเขา แต่กลับชอบอยู่แบบสบายๆ ก็ไม่ควรที่จะเป็น ผู้นำ
- ผู้นำจะตอบสนองทันทีที่ได้รับคำเสนอว่า พี่น้องพบปัญหาเรื่อง การงาน ขัดสนการเงิน ป่วยไข้ไม่สบาย ปัญหาครอบครัว ไม่รู้พระคัมภีร์ และต้องการความช่วยเหลือเรื่องการฝึกเดิน ฯลฯ
- ถ้าหากมีพี่น้องมาหาคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะด้านฝ่ายร่างกายหรือฝ่ายวิญญาณ คุณคือผู้นำที่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากว่าไม่มีใครมาหาคุณ ติดต่อคุณ ขอความช่วยเหลือจากคุณ คุณล้มเหลวที่จะเป็นผู้นำที่ดีของคริสตจักร
- ผู้นำบางคนทำตัวเหมือนพ่อแม่ต่อลูก เขาจะสอน แนะนำ สั่งให้คุณทำนู่นนี่นั่นตั้งแต่เริ่มต้นจนสุดท้าย นี่คือผู้นำที่ดี
- ผู้นำที่เป็นห่วงเป็นใยต่อพี่น้อง และต่อคริสตจักร ไม่ควรรอให้เขามาบอกเรา เราจะค้นหาการทำทุกสิ่ง เพื่อให้คริสตจักรอยู่ในการเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นการประชุมในวันของพระผู้เป็นเจ้า (การนมัสการ) การร่วมอธิษฐาน อ่าน และประกาศ
- ผู้นำของคริสตจักรนั้นๆ คือผู้ช่วยพี่น้องให้ได้รับคำแนะนำ หนุนใจ ชี้ทางเพื่อการดำเนินชีวิต และตัดสินใจที่ถูกต้องเพื่ออยู่ในการดูแลของพระเจ้า
- ปัญหาของคริสตจักรทุกวันนี้ ก็คือไม่มีผู้นำที่จะสามารถช่วยเหลือพี่น้องเกี่ยวกับความรู้สติปัญญา ทั้งด้านร่างกายและฝ่ายวิญญาณ
- ผู้นำควรติดตามเรียนรู้พี่น้องในคริสตจักรว่า ใครเป็นอย่างไร มีปัญหาอะไร ชอบไม่ชอบอะไร เพื่ออธิษฐาน และช่วยเขาเท่าที่ช่วยได้อย่างเหมาะสม
9) เป็นคนที่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับทุกคน ทุกสถานที่ ทุกสถานการณ์
- กาวชนิดน้ำสามารถเข้าไปได้ทุกซอกทุกมุมของวัตถุ และเมื่อมันแข็งตัว มันก็กลายเป็นรูปร่างที่เป็นช่องว่างอยู่
- การปรับตัวให้เข้ากับทุกคนเป็นสิ่งที่ผู้นำควรทำ ไม่ใช่ว่าเราต้องเคร่งจนเกินไปในท่ามกลางพี่น้องที่ยังเด็ก และกินน้ำนมอยู่
อ่านเพิ่มเติม: “ผู้เลี้ยงแกะของพระเจ้า”