ขอบคุณพระเยซูสำหรับพระคำที่เป็นตัวตนของพระองค์ ที่พระองค์เสด็จมาในสภาพของอาหารที่มาจากสวรรค์ ที่พวกเราได้ดื่มกินและได้อิ่มและจะไม่กระหายอีกเลย
ขอบคุณพระเยซูเราจะไม่ไปแสวงหาอาหารจากที่อื่นแล้ว เราพบอาหารแท้ที่มาจากสวรรค์แล้วก็คือพระองค์เอง
เราสรรเสริญพระเยซูที่เราจะไม่กระหายอีกแล้ว คำนี้เป็นคำที่เราชื่นชมยินดีมาก เนื่องจากว่าเมื่อก่อนเราเคยแสวงหาหนังสือคำเทศนาบทเรียนมากมายในโลกนี้ที่เขาทำกัน แต่ปรากฏว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้เรายังกระหายอยู่
แต่ตอนนี้เราพบตัวตนของพระองค์ เราไม่ต้องการหนังสือเราไม่ต้องการอะไร แต่เราต้องการมานาที่ซ่อนไว้ที่เป็นชีวิตเป็นตัวตนที่มาจากสวรรค์ของพระองค์เองเท่านั้น
ในยอห์น 6:25-26 เราพบว่าข้อนี้คือความจริงที่พระเยซูทำนายไว้ก่อน คือผู้คนที่ติดตามพระเยซูมากมาย เราพบว่าทุกวันนี้เขามาหาพระเจ้า เขาไปโบสถ์ เขาเชื่อพระเยซู ส่วนมากก็คือมาเพื่อที่จะได้รับพระพร ได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้าเพื่อให้ได้กินอยู่ดี ครอบครัวอบอุ่น พระเจ้าอวยพรทั้งการงานธุรกิจทั้งหลาย สุขภาพ และอีกอันหนึ่งที่เขาแสวงหากันอยู่ ที่เขาไปโบสถ์ก็คือต้องการเห็นการอัศจรรย์ ปาฏิหาริย์ สิ่งแปลกๆใหม่ๆ พระเจ้าสัมผัส หรือบนท้องฟ้ามีเมฆอะไรที่เป็นรูปไม้กางเขนหรือรูปเหมือนพระเยซู เขาจะร้องดีใจมาก แล้วก็ถ่ายรูปมาลงเฟส แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคืออาการของคนที่ยังเป็นเด็กฝ่ายวิญญาณ
ส่วนเรา เราขอบคุณพระเจ้า เราไม่ต้องการ การสัมผัส เราไม่ต้องการเห็นอะไรทั้งนั้น พระเจ้าก็สัมผัสอยู่แล้ว พระเจ้าก็ให้เราเห็นอยู่แล้วเมื่อถึงเวลาจะได้เห็น
แต่สิ่งที่สำคัญเรารู้ความจริงอันนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคริสเตียน รู้ ถูกเปิดตา ได้รู้ ได้เห็นว่าพระคริสต์อยู่ในเรา ไม่ต้องสัมผัสก็ได้ ไม่ต้องมีอาการอะไรก็ได้ เพียงแต่เราได้รู้ความจริงนี้ว่าพระเจ้าสัมผัส พระเจ้าอยู่ในเราแล้ว พระเยซูอยู่ในเรา พระคริสต์อยู่ในเรา
พระคริสต์เป็นอาหารทันทีที่เราอ่าน เมื่อเราอ่านขอให้เราเชื่อ ให้เราเข้าใจ และตระหนักว่าเรากำลังรับพระวิญญาณ รับชีวิตของพระองค์เข้ามา และทุกครั้งที่เราอธิษฐาน อธิษฐานหรือหายใจอยู่ หายใจเข้าออก ทุกๆวันทุกๆเวลา ให้เราเชื่อ ให้เราเชื่อว่าเรากำลังรับพระวิญญาณอยู่ ลมหายใจก็จะกลายเป็นพระวิญญาณที่เข้ามาให้เราเติมเต็ม ได้พลังยิ่งใหญ่ ได้สันติสุข ขอบคุณพระเยซู
คริสเตียนเด็กแสวงหาพระพร คริสเตียนเด็กแสวงหาการอัศจรรย์
แต่คริสเตียนผู้ใหญ่เราพบมานาแล้ว เราแสวงหาการใกล้ชิด การสนิท การมีความผูกพันสัมพันธ์ที่ดีกับพระเยซู
การอัศจรรย์ก็จะมาเอง การช่วยเหลือพระพรก็จะมาเอง ทุกสิ่งที่เราต้องการก็จะมาเอง พระเจ้านำเราเข้าสู่แผนการของพระองค์ พระองค์ขีดเส้นชีวิตให้เราแต่ละคนแล้วเมื่อเราเชื่อ
เพราะฉะนั้นเราขอบคุณ ขอบคุณๆๆๆ พระเยซูทุกสถานการณ์ ทุกๆเวลา ทุกๆโอกาส ตั้งแต่เช้าจนค่ำ เราใช้ชีวิตอยู่เพื่อขอบคุณ ขอบพระคุณ
เมื่อเราขอบพระคุณมากเท่าไหร่ พระเจ้าก็จะทำงานมากเท่านั้น
ชีวิตที่เราเจอมรสุมมาก เจอปัญหามาก เจออะไรต่อมิอะไรมาก เราบ่นมาก ทำไม? เพราะว่าเรายังขอบพระคุณไม่พอ อันนี้ผมขอบอกตามตรงน่ะครับ ถ้าขอบพระคุณไม่พอ ถามใจเราเองนะว่าผ่านมาเราขอบพระคุณพระเจ้าพอไหม หรือลืม ส่วนมากเราจะลืมใช่ไหม?
เพราะฉะนั้นชีวิตคริสเตียนเปาโลบอกว่าเราอยู่เพื่อขอบพระคุณ อย่าลืมน่ะครับ เป็นหนึ่งในหลายๆ สิ่งที่เราอยู่ เราอยู่เพื่อขอบพระคุณ อยู่เพื่อนมัสการพระเจ้า อยู่เพื่อปรนนิบัติ แต่การขอบพระคุณก็คือทางออกของทุกทางที่เป็นทางตัน
เพราะฉะนั้นขอให้เราตระหนักวันนี้พระเยซูตรัสกับพวกเราทุกๆ คนว่า พระองค์นี้แหละที่เป็นอาหาร อย่าแสวงหาการทำมาหากิน อย่าแสวงหาการเจริญมั่งคั่งรุ่งเรือง อยากแสวงหาอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งของฝ่ายเนื้อหนังฝ่ายโลกนี้
แต่จงแสวงหาฝ่ายวิญญาณ แสวงหาการสนิทในพระคริสต์ แสวงหาอาหารซึ่งเป็นพระเยซูเอง เปิดพระคัมภีร์เมื่อไหร่ก็นึกถึงว่าเรากำลังกินพระเยซูอยู่ เมื่อเราเติบโตในชีวิตฝ่ายวิญญาณ เมื่อเรากินมากเท่าไหร่ เราอิ่ม เราจะไม่กระหายอีก ไม่ต้องการที่จะไปหาหนังสือคำสอนคำเทศนาจากแหล่งอื่น
แล้วสุดท้ายเราก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ สุดท้ายพระพร การอัศจรรย์ก็จะมาเอง
สำหรับในบทนี้ ยอห์น 6:39 พระเยซูตรัสถึงพระเจ้ามอบสิทธิอำนาจให้พระเยซูเป็นทางการ ก็คือพระเยซูได้รับสิทธิอำนาจทุกประการจากพระบิดา อันนี้เราเข้าใจกันว่าเมื่อเราพูดถึงพระเยซู พระเยซูๆๆ เมื่อไหร่ ขอให้เราตระหนักว่าเรากำลังพูดถึงพระบิดาและพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วย