เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพี่น้องหลายท่านที่พระเจ้าทรงเลือกและเรียกเข้ามาสู่พระคำล้ำลึก เมื่อเราเหนื่อย เราท้อ เราเบื่อ เราไม่ไหวแล้ว และพอถึงเวลากำหนดพระเจ้าก็นำเราเข้ามา ไม่ใช่บังเอิญเป็นการทรงเรียกของพระเจ้า ที่พระเจ้าตอบสนองพระเจ้าตอบคำถามคำอธิษฐานของเรา ที่เราร้องเรียกหาพระองค์เมื่อเราไม่ไหว เหมือนพี่น้องที่เป็นพยาน แล้วก็อีกหลายคนที่ได้เข้าสู่การเปิดตาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราสรรเสริญพระเยซู
สำหรับยอห์นบทที่ 8 ในที่นี้พระเยซูพูดคำเดียว คือเราเป็นความสว่างของโลก เราเป็นความสว่าง ภาษาอังกฤษก็คือ I Am the light
สำหรับคริสเตียนถึงแม้ว่าจะรู้จักพระเยซู ได้รับเชื่อ ได้ต้อนรับ ได้เข้าสู่ครอบครัวของพระเจ้า แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือพี่น้องเหล่านั้นก็ยังอยู่ในความมืด ยังตาบอด ยังมองไม่เห็น เหมือนที่พี่น้องหลายคนพูดมา คือพระเจ้าอยู่บนสวรรค์นู่น อ่านพระคัมภีร์ตั้งหลายรอบ อ่านตลอดชีวิตยังไม่เจอเลย ยังไม่เข้าใจว่าพระคริสต์อยู่ในเรา
แต่พอมาพบพระคำล้ำลึกอ่านที่ไหนก็เจอใช่ไหมครับ แล้วก็คือสันติสุขที่เราไม่กระหายอีกเลย คือเราก็ได้เห็น ก็ได้รู้ ได้เข้าใจ และได้สัมผัส ได้กินทุกวัน สรรเสริญพระเจ้า และพลังยิ่งใหญ่ การทำแทน การดำเนินชีวิตของพระคริสต์ที่อยู่ภายในเรามันก็ปรากฏขึ้นชัดเจนมากขึ้น และมีมากขึ้นทุกวันทุกวันเมื่อเราฝึกเดิน เมื่อเราอยู่ในความสว่างของพระเจ้า
สำหรับความสว่างเป็นหนึ่งในคุณสมบัติ 4 ประการของพระเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราเชื่อพระเยซู เราเป็นครอบครัวของพระเจ้า แต่ถ้าหากเราไม่ได้อยู่ในความสว่างนี้ ไม่ได้ถูกเปิดตาให้เข้าใจว่า ความสว่างแท้ที่จริง ก็คือการมีชีวิตอยู่ในพระคริสต์ การมีชีวิตอยู่ในอาดัมใช้ตัวเก่าเดิน ก็คือศาสนาคริสต์ ก็คือการที่เรายังไม่ได้เข้ามาอยู่ในความจริงของพระเจ้าจริงๆ เพราะฉะนั้นพี่น้องหลายคนที่เชื่อจึงแบกภาระหนัก ชีวิตหนัก เจอมรสุมอะไรก็ท้อแท้ เหนื่อย เบื่อ บ่น แล้วก็อยากจะหนีด้วย
แต่ในที่สุดเรามาพบความสว่างนี้ เป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าทรัพย์สิน มากกว่าเงินทอง มากกว่าสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น เราขอบคุณพระเยซูสำหรับวันนี้ที่เปิดตาเรา และขอบคุณพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังของคลิปทั้งหลายที่ผมลงผมอัด จริงๆ แล้วก็คือไม่ใช่ผม ก็ขอบคุณพระเจ้าทุกครั้งที่จะอัด ก็คือนั่งรอ ถ้าไม่นำ ถ้าไม่พูด ผมก็กลับบ้าน เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าอันนี้ผมก็ขอบพระคุณพระเจ้าเป็นอย่างมากที่พระองค์ทรงเมตตาที่ใช้ผม ซึ่งแต่ละคลิปก็มีคุณค่า แล้วแต่ละคลิปก็ทำให้พี่น้องได้ฟังแล้วก็หิวกระหาย พอฟังตอนไหน ก็อิ่มตอนนั้น อันนี้เราลิ้มรส เราได้สัมผัสกันเอง เราเป็นพยานกับตัวเราเอง
สำหรับพระเจ้า ความสว่างเป็นหนึ่งในคุณสมบัติ 4 ประการ พระเจ้ามีคุณสมบัติ 4 ประการใหญ่ๆ ด้วยกัน..
คุณสมบัติประการที่ 1. ก็คือ ความรัก ความรักคืออะไร ความรักคือคุณสมบัติหลายอย่างใน 1 โครินธ์บทที่ 13 ก็คือการเสียสละ การอภัยโทษ การมีเมตตา การให้ และอีกหลายอย่าง
คุณสมบัติประการที่ 2. ของพระเจ้าก็คือความบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์ ก็คือชีวิต จิต และวิญญาณของพระเจ้า ไม่มีสิ่งไหนที่เรียกว่าบาปเข้ามาเจือปน ไม่มี. พระเจ้าไม่ทำบาป พระเจ้าทำบาปไม่ได้ เป็นธาตุแท้ของพระเจ้าก็คือบริสุทธิ์
คุณสมบัติประการที่ 3. ก็คือความชอบธรรม พระเจ้าเป็นองค์ผู้ชอบธรรม พระเจ้าทำบาปไม่ได้ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทำต้องเรียกว่าดี และเพื่อสิ่งดีเกิดขึ้น และเพื่อให้เกิดประโยชน์ในด้านดี และเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า
และคุณสมบัติสุดท้าย ก็คือความสว่างนี่เอง ซึ่งเรามาถึงบทเรียนในวันนี้ ความสว่างแท้ที่จริงไม่ใช่ดวงไฟ ไม่ใช่แสงสว่างเพื่อให้ฝ่ายร่างกายมองเห็น เดินได้ แต่ในที่นี้หนังสือยอห์นเน้นความสว่าง ก็คือความเป็นจริงของพระเจ้า God's reality / reality ก็คือความเป็นจริง ก็คือสำหรับพระเจ้า พระเจ้าไม่มีพระประสงค์ที่จะให้โลกนี้เสื่อม มนุษย์เสื่อมทราม ตกต่ำและเข้ามาอยู่ในการบาปทั้งหลาย แต่เมื่อมนุษย์ถูกหลอกซาตานล่อลวง มนุษย์ทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า ความมืดก็เข้ามา ความไม่จริงก็เข้ามา การตกต่ำก็เข้ามา ความเสื่อมโทรมก็เข้ามา สิ่งเหล่านี้เรียกว่าความมืด หลุดออกไปจากการใช้ชีวิตดำเนินชีวิตอยู่ในความสว่างของพระเจ้า
ความสว่าง ถ้ามีชีวิตอยู่ในนั้นจะมีพลัง มีชีวิตพระเจ้าที่เต็ม พลัง สันติสุข ทุกสิ่งที่เป็นมาโดยพระเจ้า พระเจ้าจะเชื่อมต่อและสื่อสารและส่งพลังเหล่านั้นเข้ามาสู่ชีวิตของเรา เราจะสัมผัส ได้กิน ได้อิ่ม ได้ดื่ม คือมันมีความสุขมาก มันเบาสบายมาก มันเป็นชีวิตที่เป็นเหมือนมีพระเจ้าที่อยู่ในเราที่เราเห็นได้ชัดเจนมาก ซึ่งไม่เหมือนตอนที่เป็นคริสเตียนศาสนา ตอนที่เป็นคริสเตียนศาสนาเราก็คือไม่ได้พบความหวังจริงๆ ไม่มีความสุขจริงๆ เราตื่นเต้นเมื่อนมัสการพระเจ้า เมื่อไปโบสถ์ พี่น้องคริสเตียนมาเจอกัน แต่พระเจ้าอยู่ไหนเราไม่เห็นใช่ไหม ท่ามกลางพี่น้องเหล่านั้น
วันนี้เราขอบคุณพระเจ้า เรามาเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า God's reality ก็คือความเป็นจริง ความจริงของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าจะไม่ให้เกิดอาการเสื่อมทราม เสื่อมโทรม ตกต่ำเกิดขึ้น เมื่อมีความเป็นจริงของพระเจ้าอยู่ที่ไหน และเราตอนนี้สรรเสริญพระเยซูที่พระองค์เสด็จมาตายเพื่อไถ่บาปเรา และนำเรากลับมาเข้าสู่ความสว่างอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่ถ่อมใจ เปิดใจ ยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำเข้ามาสู่มานาที่ซ่อนไว้
เพราะฉะนั้นวันนี้เราขอบคุณพระเจ้าที่เราอยู่ในความสว่าง พิกัดใหม่ของเรา ตำแหน่งใหม่ของเรา ก็คือเราทุกวันอยู่ในความสว่าง คือมันเป็นความจริงของพระเจ้าที่ใส่เราไว้ในพระคริสต์แล้ว การมีชีวิตอยู่ในความสว่าง ก็คือการมีชีวิตอยู่ในพระคริสต์ เราแค่เอ่ยปาก ตื่นนอนตอนเช้าเราบอกว่า "ขอบคุณพระเยซูวันนี้ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์" เราก็ได้อยู่ในแล้ว เราถามเราทุกวันนะว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน Where are you now ถามทุกวัน เราอยู่ที่ไหนตอนนี้ ปัจจุบันนี้เราอยู่ที่ไหน ถ้าหากเราพูดว่า "เอเมนข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์" ก็คือเราก็อยู่แล้ว
เมื่อเราพูดว่าเราอยู่ในพระคริสต์ จะมีอะไรเกิดขึ้น? สันติสุขมา พลังมา พระสัญญา การดูแล การปกป้อง การปกปักรักษา การช่วยเหลือ การอัศจรรย์มา ทุกสิ่งก็จะมาเหมือนเราเปิดสวิตช์อะไรบางอย่าง เปิดสวิตช์ไฟ ไฟก็จะสว่างในห้องนั้น และความสว่างจะทำให้เราเห็นทุกสิ่งได้รับทุกสิ่งที่อยู่ในห้องนั้น ขอบคุณพระเยซู ถาม..เราเองว่าแต่ละวันเราอยู่ที่ไหน ตอบ..เลยว่าเราอยู่ในความสว่าง และสิ่งที่เป็นผลที่เกิดขึ้นอยู่ในความสว่างนั้น ก็จะปรากฏกับเรา เราจะมีประสบการณ์ได้รับการสัมผัสทุกสิ่งที่เป็นความสว่าง เอเมน
ผมขอบคุณพระเจ้านะครับตั้งแต่ลงเฟสมานา ก็มีพี่น้องที่เป็นพยานเยอะมาก เยอะมากๆ ว่าฟังแล้วฟังอีก ฟังแล้วก็ฟังอีกไม่มีเบื่อ ฟังเมื่อไหร่ก็ได้ถูกเปิดตามากขึ้นเมื่อนั้น คลิปเดียวสั้นๆ นะครับแต่พอฟังไปฟังมาฟังหลายๆ รอบ ก็ได้รับสิ่งที่พระเจ้าเปิดให้มากขึ้น เนื่องจากว่าพระเจ้าต้องการเปิดให้เรา คือเปิดมากไม่ได้ในเวลาเดียว เราต้องรอ เราต้องฟัง อธิษฐาน แล้วกลับมาฟังซ้ำๆๆๆๆๆๆๆๆ สุดท้ายเราจะเห็นความชัดเจนทะลุพระคำพระเจ้า เราขอบคุณพระเยซูที่พระวิญญาณบริสุทธิ์รักเรามากและเตรียมการนี้ไว้เพื่อเราที่ถ่อมใจ ที่แสวงหาพระเจ้าอย่างแท้จริง สรรเสริญพระเยซู
สำหรับในอาดัม เรารู้ว่ามีความทุกข์ คริสเตียนมากมายทุกวันนี้ก็ยังอยู่ในอาดัมและยังอยู่ในความทุกข์ แต่ในพระคริสต์มีสันติสุข เราขอบคุณพระเยซูที่พี่น้องมากมายในตอนนี้เรามีสันติสุขที่ไม่กระหายอีกเลย สรรเสริญพระเยซู
ในอาดัมมีความอ่อนแอ และมีความตาย แต่ในพระคริสต์มีพลังและมีชีวิต มีพลังที่ยิ่งใหญ่
ในอาดัมมีความบาป และมีตัวบาป ขอบคุณพระเยซูตอนนี้เราอยู่ในพระคริสต์ เรามีความบริสุทธิ์ เราเป็นคนบริสุทธิ์แล้ว พระองค์ชำระเราให้เป็นคนชอบธรรมแล้ว และขอบคุณพระเยซูตัวบาปไม่ได้อยู่ในเรา ตัวบาปมันไม่มีกำลังเพราะว่าตัวเก่าเราถูกประหารแล้ว ตอนนี้เราเป็นตัวใหม่และเรามีผู้ชอบธรรมที่สถิตอยู่ในเรา สรรเสริญพระเยซู
เมื่อก่อนเราอยู่ในอาดัม ในอาดัมเราเป็นทาสของบาป แต่ในพระคริสต์เราเป็นทาสของความชอบธรรม ก็คือเป็นทาสของพระเยซู เป็นเจ้าสาวของพระเยซู เป็นภรรยาของพระเยซูที่พระองค์ให้อิสระไม่บังคับเรา ไม่ให้เราอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ทั้งหลายที่มนุษย์ก่อตั้งขึ้น แต่เราอยู่ภายใต้กฎของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เอเมน
และสุดท้ายในอาดัมอยู่ในความมืด เดินไปตามทางในการดำเนินชีวิตคริสเตียน แต่เรายังข้องใจ ยังสับสน ยังสงสัยพระคำพระเจ้า พระคัมภีร์อ่านกี่รอบๆ ก็ขัดแย้งกัน อ่านหลายข้อหลายที่หลายแห่งก็ไม่เข้าใจ ซึ่งตอนนี้เราขอบคุณพระเยซูเมื่อเราอยู่ในความสว่าง เราก็เข้าใจความจริงของพระเจ้า พระคำของพระเจ้าไม่ขัดแย้งกัน เพียงแต่เราต้องการการเปิดตา ต้องการการทาตา ต้องการยาหยอดตา ด้วยพระคำที่แปลถูก พระเยซูจึงมองเห็นว่าสิ่งนี้สำคัญมาก พระองค์อธิษฐานต่อพระบิดาในยอห์นบทที่ 17 ข้อที่ 17 ว่าขอพระบิดาชำระเขาทั้งหลายด้วยพระคำ เพื่อเขาจะเป็นไท
คริสเตียนมากมายทุกวันนี้ต้องการการชำระด้วยพระคำ และเรามีพระคำที่แปลถูกแล้ว เราช่วยพี่น้องเหล่านั้น คือแบ่งปัน ส่งไป แชร์ไป ถ้าหากเขาไม่รับก็เป็นเรื่องของเขากับพระเจ้า ถ้าหากเขารับหรือไม่รับก็ไม่ได้มีผลอะไรสำหรับเรา เรามีหน้าที่เก็บเกี่ยวบำเหน็จรางวัล เป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากที่เรานำพระเยซูเข้าไปอยู่ในพี่น้องเหล่านั้น เป็นงานที่สำคัญมากและเป็นงานที่ลำบากมาก เนื่องจากว่าซาตานมันไม่ชอบคนที่พบพระคำล้ำลึกพบมานาที่ซ่อนไว้แล้ว ซึ่งพี่น้องเหล่านี้ก็จะได้เข้าใกล้พระเยซู ซาตานไม่ชอบ และสิ่งที่สำคัญก็คือเข้ามาใกล้พระเยซูมากเท่าไหร่ สันติสุข พลังก็มีมากเท่านั้น และในที่สุดก็ถูกเรียกว่าบุตรที่รักของพระเจ้า และตอนนี้เราเป็นบุตรที่รักของพระเจ้าแล้ว เนื่องจากว่าเราบอกรักทุกวัน เราบอกรักทุกวันเอเมนไหม
"เอเมนสรรเสริญพระเยซูที่วันนี้เรามาถึงความสว่างของพระองค์ เป็นความสว่างที่แท้จริง ซึ่งเราเองเป็นพยานได้ ไม่มีใครเป็นพยาน ไม่มีใครหลอกเรา ไม่มีใครโกหก เราพูดความจริงที่ออกมาจากหัวใจที่มีความรักในพระองค์ และได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ เนื่องจากว่าเราอยู่ในความสว่างของพระองค์ ขอบคุณพระเยซูสรรเสริญพระเยซูและพวกเรารักพระเยซู"
ตอนที่ผมเริ่มเข้าสู่พระคำล้ำลึก ผมยังจำได้ตอนแรกๆ ที่ฟังรู้สึกดีมากๆ แล้วก็รู้สึกว่าไม่อยากจะหยุดฟัง แต่จะมีสักระยะหนึ่งที่สงสัยเหมือนกัน คือเป็นเรื่องธรรมดาที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เรามีคำถาม ว่าเอ๊ะ..นี่เป็นเทียนเท็จหรือเปล่า นี่เป็นความจริงไหม แล้วทำไมสอนไม่เหมือนคริสตจักรเราทุกวันนี้ที่สอนกันอยู่ ก็เกิดสงสัย แต่สิ่งที่ผมหยุดทำไม่ได้ก็คือฟัง ก็ยังฟังอยู่ แล้วก็คือเหนื่อยก็มาฟัง ง่วงนอนก็มาฟัง จะไปทำอะไรก็อยากมาฟัง ในสุดท้ายก็ออกไม่ได้จากการฟังพระคำล้ำลึกนี้ และยิ่งฟังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหิวกระหายมากเท่านั้น แล้วพระเจ้าก็ป้อน ป้อนให้กินมาก มากๆๆๆ เท่านั้น ก็ขอบพระคุณพระเยซู
และมีอยู่วันหนึ่งที่ผมถูก.. จะใช้คำว่าลากก็ได้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ลากผมมา ดึงผมมาให้มานั่งฟัง เพราะว่าบอกว่าโอ๊ยเหนื่อยรู้สึกเหนื่อยแล้วพระองค์ข้าพระองค์ขอพักผ่อนได้ไหมนิดนึง แต่มีสิ่งหนึ่งคือลากดึงให้กลับมานั่งฟัง ผมก็ยอม ผมก็จำยอมเพราะว่าด้วยความรักของพระวิญญาณผมก็เอเมนด้วย ก็ขอบคุณพระเจ้า
เราขอบคุณพระบิดาสำหรับวันนี้ที่นำเราเข้าสู่ความสว่าง ซึ่งเมื่อก่อนเราอยู่ในความมืด นำเราออกมาจากอาดัม ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในพระคริสต์แล้ว
ขอบคุณพระเยซูที่ชีวิตเบาสบายมาถึงเรา สันติสุข การพักผ่อน การพักสงบ พระพร พระสัญญาที่พระเจ้าสัญญาเกิดขึ้นแล้วกับเรา โดยพระคริสต์เป็นคนนำมาถึงพวกเราทั้งหลาย
ขอบคุณพระเยซูที่เราเป็นคนกลุ่มน้อย แต่พระองค์รัก พระองค์เลือก พระองค์เรียก เพราะว่าพระองค์รู้ดีว่าภายในหัวใจของเราแสวงหาพระองค์จริงๆ เราสรรเสริญพระเยซู