การเปิดคริสตจักร เปิดโบถ์สทั่วๆ ไปก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ก็มีอยู่บ้าง แต่ถ้าหากใครคิดจะเปิดคริสตจักรให้พี่น้องที่รับมานาฯ มาร่วมกัน มาอยู่รวมตัวกันเพื่อรับใช้นมัสการพระเจ้า เป็นงานที่หนักกว่า ยากกว่า และซาตานจะพยายามขัดขวางไม่ให้เกิดขึ้นได้
เนื่องจากว่าเราเป็นกลุ่มที่นำพาพี่น้องเข้าถึงพระเจ้า สนิทในพระเจ้า บอกรักพระเจ้า และสำแดงชีวิตของพระคริสต์ และนิสัยของพระองค์ให้โลกได้เห็นพระเจ้าผ่านเรา
มันเป็นงานที่ซาตานเกลียดมากๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องยอมจ่ายราคา ถ้าหากเราคิดว่าอยากจะทำสิ่งนี้เพื่อบำเหน็จของเราจะมีมากมาย เพื่อพระเจ้าจะพอพระทัยในชีวิตของเรา และเพื่อให้คริสตจักรของพระเจ้า พระกายเที่ยงแท้ขยายไปในทุกที่ทุกแห่งทุกคน และเราก็มีส่วนในการทำกิจนั้นของพระเจ้า เราทำครับ เพียงแต่ว่าคุยกับพี่น้องให้พี่น้องอธิษฐานเผื่อ และคุยกับทีมประสานให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น ว่าที่ไหนเหมาะสม ที่ไหนที่ควรทำ และจะทำแบบไหนลักษณะไหน แล้วคุย กับผมหลังบ้านได้
ส่วนสำหรับการตัดสินใจ หรือจะฟังใครสักคนที่บอกว่าพระเจ้าตรัสกับคนนู้นคนนั้น เราก็ฟังหูไว้หูก่อน ซึ่งการตรัสของพระเจ้าเรื่องการสร้างคริสตจักร ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องฟังคนเดียว คือพระเจ้าจะให้นิมิตหลายคน พระเจ้าจะให้นิมิตหลายๆ คนเพื่อยืนยันว่าตรงนี้ใช่ เวลานี้ใช่ ที่นี่ใช่ คือตอนนี้เรารอดูคำตอบจากพระเจ้าครับ
...
สำหรับเรื่องสัญญา เราขอบคุณพระเจ้าเราสัญญากับพระเจ้า และถ้าหากอะไรยังไม่เกิดขึ้นเราก็รอต่อไป ซึ่งพระเจ้ามีแผนการงานของพระองค์ สำหรับเราอยู่แล้วไม่ต้องห่วงครับผม ไม่ต้องคิดว่าถ้าสัญญาแล้วต้องทำให้ได้
คือสมมุตินะครับ ถ้าผมสัญญากับพระเจ้านะครับ จะให้บ้านนี้เป็นที่นมัสการเป็นที่ประชุม และปรากฏว่ามันไม่เกิด ไม่มีใครมา หรือเกิดไม่ได้ ถ้าหากว่าสมมุติว่ามันไม่เกิด หรือเกิดก็คือน้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จพระองค์เป็นคนกระทำ
เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องห่วง หรือถ้ามีคนอื่นทำไม่ใช่เราและทำในที่ที่เราสัญญากับพระเจ้า ก็เอเมนครับผม เพียงแต่ว่าขอให้เราหลีกเลี่ยง หลีกเลี่ยงเรื่องการก่อตั้งคริสตจักรแบบศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นการทำให้สำเร็จด้วยเนื้อหนังอย่างในกาลาเทีย บทที่ 3
เพราะฉะนั้น ก่อตั้งคริสตจักรเพื่อให้มีบำเหน็จ เพื่อผลที่ได้รับก็คือ ทองคำ เงิน เพชรพลอย มีบำเหน็จจากพระเยซูเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา ก็คือก่อตั้งคริสตจักรที่มีพี่น้องที่รับมานา นมัสการในวิญญาณในความจริง ใช้ตัวใหม่ ถวายตัวใหม่ ทำทุกสิ่งใหม่หมด เราจะได้รับพระพร
อีกครั้งนะครับผมอยากเน้นกับพวกเราเรื่องการก่อตั้งคริสตจักร ใครเป็นคนก่อตั้งคริสตจักร (พระเยซู) และคริสตจักรเป็นของพระเยซู ไม่ใช่ของเรา และการนำพา สติปัญญา ทรัพย์สิน เงินทอง การใช้จ่าย ทุกสิ่ง เราวางไว้ที่พระหัตถ์ของพระเยซู ไม่ใช่เรา เราไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น พอคริสตจักรมาถึงเรา เราก็เอเมน เราก็ร่วมนมัสการกับพี่น้อง ถ้าหากคริสตจักรไม่มาถึงเราหรือมีการเปลี่ยนแปลงอะไร เราก็เอเมนเหมือนกับสิ่งนั้น
เพียงแต่ว่าตอนนี้เรารอคอยการนำพาจากพระเจ้าก่อน และถ้าหากใครคนใดคนหนึ่งบอกว่าก่อตั้งเลย คริสตจักรนี้เปิดเลย เปิดเลย เราต้องรอฟังจากพระเจ้าที่พระองค์ตรัสกับใครสักคนหนึ่ง อีกบางคนนะครับ ไม่ใช่คนเดียว สำหรับเปาโล เปโตร พอได้รับนิมิตจากพระเจ้าเขามั่นใจเนื่องจากว่าพระเจ้าตรัสกับเขาโดยตรง
แต่สำหรับเราในยุคนี้ คือพระเจ้าตรัสกับเรา เราต้องถามพระเจ้า หรือพระเจ้าจะต้องตรัสกับใครอีกสักคนหนึ่ง เพื่อยืนยันว่ามาจากพระเจ้าจริงๆ
ทุกวันนี้เราเห็นนะครับกลุ่มไฟเป็นตัวอย่างที่ผมอยากจะชี้ให้เราเห็นชัดเจนก็คือหลายคนจะเผยพระวจนะได้ ทำนายได้ บอกว่าพระเจ้าบอกฉันให้มาบอกคุณว่าให้ทำแบบนี้ทำแบบนั้น หลายคนก็ไปหลงเชื่อ พระเจ้าบอกฉันให้บอกคุณให้ถวายน่ะ ให้ถวายเยอะๆ ตอนนี้คือพระเจ้าจะอวยพร เราก็ถวายเยอะๆ หมดตัวเลยนะครับทั้งๆ ที่คือไม่มีอะไรจะกิน ก็ถวายไปเลย สุดท้ายมันไม่ใช่น้ำพระทัยพระเจ้า ขอให้เราระมัดระวังตรงนี้ครับผม
...
เพราะฉะนั้นอย่าลืมนะครับ คริสตจักรเป็นของพระเยซู เมื่อพระเยซูจะก่อตั้งที่ไหนกับใครทำยังไง เราไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อมันเกิดมันก็จะเกิด และถ้าหากเราสัญญาเอาไว้ พระเจ้ายังไม่เอานะครับ ก็อาจจะปีหน้าหรือหน้าจะอีกไม่นานในอนาคต หรือมีการเปลี่ยนแปลง หรือพระเจ้าจะไม่ใช้ที่นี่เป็นที่นมัสการพระเจ้าก็ได้ ถ้าหากเราสัญญาเราไม่ผิดนะครับที่เราไม่ทำ คือพระเจ้ายังไม่ทำ เข้าใจนะครับ
...
เราอธิษฐานรอไปอีกนิดนึง แล้วก็คุยกับพี่น้องทีมประสาน แล้วก็คุยกับพี่น้องในกลุ่มใหญ่ ขอให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในชีวิตของพี่น้อง แล้วก็ในคริสตจักรที่พระองค์อาจจะก่อตั้งหรือไม่ก่อตั้ง แต่ขอให้เป็นน้ำพระทัยของพระบิดา
..
พี่น้องอาจจะคิดกลัวหรือหวาดระแวงว่าถ้าเราสัญญากับพระเจ้าแล้ว คือเราจะขายแล้วมันไม่ผิดสัญญาเหรอ ก็ต้องรอดูนะครับ ก็ต้องรอดู อย่างที่ผมพูดเมื่อกี้นะครับพระเจ้าอาจจะทำให้เป็นคริสตจักรเมื่อเราสัญญากับพระเจ้า หรือบางครั้งพระเจ้าก็อาจจะไม่รับก็ได้ ไม่ใช่ว่าข้าพระองค์สัญญาขอถวายบ้านให้เป็นที่นมัสการพระเจ้า ปรากฏว่าพระเจ้าไม่ต้องการ พระเจ้าต้องการที่อื่นที่เหมาะสมกว่า ที่เหมาะกว่าก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นเราก็เอเมน ถ้าเราเห็นว่าหลายปีผ่านไปไม่เห็นว่าพระเจ้าจะใช้ที่นี่เป็นที่นมัสการ เราก็เอเมนเราก็ขอบคุณพระเจ้า ไม่ต้องห่วงนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นขอบพระคุณพระเยซูขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในเรื่องนี้ เอเมน.