10:23 พระเยซูจึงตรัสว่า “คนมั่งมีจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าก็ยากนักหนา”
10:24 เหล่าสาวกก็ประหลาดใจด้วยคำตรัสของพระองค์ และพระเยซูตรัสแก่เขาอีกว่า “ลูกเอ๋ย คนที่วางใจในทรัพย์สมบัติจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าก็ยากนักหนา
10:25 ตัวอูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้า”
10:26 เหล่าสาวกก็ประหลาดใจยิ่งนักจึงพูดกันว่า “ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้”
10:27 พระเยซูทอดพระเนตรเหล่าสาวกแล้วตรัสว่า “ฝ่ายมนุษย์ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่เป็นแบบนั้นกับพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงกระทำให้เป็นไปได้ทุกสิ่ง”
10:28 ฝ่ายเปโตรจึงเริ่มทูลพระองค์ว่า “ดูเถิด ข้าพระองค์ทั้งหลายได้สละสิ่งสารพัด และได้ติดตามพระองค์มา”**
10:29 พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดได้สละบ้าน หรือพี่น้องชายหญิง หรือบิดามารดา หรือภรรยา หรือบุตร หรือที่ดิน เพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐนั้น
10:30 ในเวลานี้ผู้นั้นจะได้รับตอบแทนร้อยเท่า คือบ้าน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตรและที่ดิน ทั้งจะถูกการข่มเหงด้วย และในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร์
10:31 แต่มีหลายคนที่เป็นคนต้นจะต้องกลับไปเป็นคนสุดท้าย และที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับเป็นคนต้น”
** พี่น้องผู้เชื่อมากมายเราเข้าใจผิดคิดว่า พระคัมภีร์บทที่ 10:23-30 เป็นเรื่องพระเจ้าจะอวยพรเราให้ร่ำรวยมั่งคั่ง พระพรร้อยเท่า สาเหตุเพราะว่าเราไม่ได้อ่านตั้งแต่ข้อ 23 จนถึงข้อที่ 30
** เราพบว่า พระเยซูทรงเตือนสาวกว่า “คนมั่งมีจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าก็ยากนักหนา”
** เปโตรถามพระเยซูว่า ถ้าติดตามพระเยซูแล้วได้อะไร? พระเยซูตอบว่า ถ้าหากท่านสละพ่อ แม่ พี่น้อง ครอบครัว ที่ดิน ไร่นา ทรัพย์สินย์ ในยุคนี้ท่านจะได้รับตอบแทนร้อยเท่า
** เราพบว่า ท่านเปโตร และสาวกคนอื่นๆ ไม่มีใครรวย เป็นเศรษฐีแม้แต่คนเดียว มิหนำซ้ำสาวกเกือบทุกคนกลับถูกฆ่าตาย
** คำตอบที่ถูกต้องอยู่ที่นี่…
- ร้อยเท่า ในที่นี้ก็คือ ร้อยพ่อ ร้อยแม่ ร้อยพี่น้อง ร้อยที่ดินไร่นาของพี่น้องคริสเตียน ที่นำมาช่วยเหลือเผื่อแผ่ดูแลซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งรับการข่มเหงด้วย
- ยุคนี้เป็นยุคทำนา เราคือชาวนา ทำงานในทุ่งนา เพื่อพระเจ้า และเพื่อรับค่าจ้างรางวัลเมื่อพระเยซูกลับมาในยุคหน้า