ใครที่จะเป็นใหญ่ ต้องเป็นเหมือนเด็ก พระเยซูพูดซ้ำพูดย้ำ ในมัทธิวบทที่ 18 ก็พูดแล้ว แล้วมาถึงบทที่ 19 พระเยซูก็พูดอีกแสดงว่ามันสำคัญ
เรื่องการเป็นเด็ก นิสัยเป็นเด็ก การยกโทษแบบเด็ก การไม่ถือสาจดจำความผิดแบบเด็ก มันเป็นเรื่องที่พระเยซูอยากให้เราทุกคนเป็น แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่.
คือคนที่จะเป็นใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์ พระเยซูจะมาปกครองพระเยซูจะเลือกบางคนให้เป็นใหญ่อยู่ใกล้พระเยซูนั่งใกล้พระองค์มีตำแหน่งสูงกว่าใคร แล้วคนนั้นจะต้องเป็นเหมือนเด็ก
(สมมุติครอบครัวคริสเตียนสามีภรรยา สามีที่ชอบกินเบียร์และทะเลาะกับภรรยาบ่อยเวลาดื่ม และสามียอมรับผิด คือเขายอมรับผิด เขาไม่เถียง เขารู้ตัวว่าเขาผิด เขารู้ตัวว่าเขากิน แต่เขาต้องการเปลี่ยน เขารักภรรยาของเขา)
ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ชายที่มีโอกาสที่จะได้เป็นใหญ่ เพราะว่าต่อไปพระเจ้าก็จะทำงานในชีวิตของเขาให้เขาสนิทในพระเยซูมากขึ้น
สำหรับคริสเตียนเราทุกวันนี้หาแบบนี้ยากในครอบครัว ลับตาคนถกเถียงทะเลาะเบาะแว้ง ออกมาอาจจะทำดีกับคนอื่นได้ สิ่งนี้ขอให้พระเจ้าชำระเรา เอเมนไหม? คือพระเจ้าเข้าใจพวกเราทุกคน
เราทุกคนมีโอกาสพลาด เราทุกคนมีโอกาส แต่พระเจ้าให้เวลาเรา พระเจ้าให้เวลา พระเจ้าให้อภัย พระเจ้าให้โอกาสเราขอให้เราสารภาพและตั้งใจตั้งสติสู้ต่อไป
เราใกล้พระเยซูมาก นิสัยเราจะเหมือนพระเยซูและนิสัยของเราจะเหมือนเด็ก คือใครจะพูดอะไร เราไม่จดจำความผิด ภรรยาเราพูดอะไรมามันแรงมากแค่ไหนเราไม่จดจำเรายกโทษให้ คือเราต้องยกโทษให้ เพื่อแลกกับอาณาจักร
อันไหนดีกว่า ถ้าเราไม่ยกโทษให้ เราเสียอาณาจักร แต่ถ้าเรายกโทษ เราได้อาณาจักรเราได้ครอบครอง เราได้นั่งใกล้พระเยซูมีเกียรติมากนะ คุณจะเลือกเอาอันไหน
ในชีวิตนี้คุณจดจำความผิดของคนนี้ จดจำความผิดของคนนั้น จดจำความผิดของคนนู้น จำๆๆ จดจำจนตายจะไม่อภัยให้ ไม่ยกโทษให้สุดท้ายมาเราเสียอาณาจักร
แต่ถ้าเรายกโทษขอบคุณพระเยซูข้าพระองค์ยกโทษให้ ไม่ถือสา ไม่จดจำ ไม่ถืออะไรใคร สบายๆ ขอบคุณพระเยซูรักพระเยซู สุดท้ายเราได้อาณาจักรครอบครองร่วมกับพระเยซูมันคุ้มค่านะ มันคุ้มค่าไหม
...
ถาม.
ในกรณีที่อาจารย์พูดถ้าเราไม่ให้อภัยคนอื่น เราก็เสียอาณาจักร แล้วในความเป็นจริงนั้นคริสเตียนให้อภัยไม่ได้เราจะทำยังไง
ตอบ.
ถ้าสมมุติว่าเราแก้ไม่ได้ เราเปลี่ยนไม่ได้จนตายสุดท้ายเราจะถูกลงโทษเป็นเวลาพันปีในยุคอาณาจักร
แล้วชีวิตนี้ ชีวิตนี้เราจะขมขื่นมีรากขมขื่นมันเป็นทุกข์ ไม่มีความสุข ถ้าหากเราอภัยผู้อื่นไม่ได้ แล้วพระเจ้า พระคุณ พระพร ความรัก มันจะไม่เต็มล้นในเรา ชีวิตเราจะถูกตัวบาปครอบงำครอบคลุม
** วิธีแก้ ก็คือสนิทในพระเยซู เข้าใกล้พระเยซู สารภาพบาปยอมรับผิด แล้วก็ขอพระเยซูแก้ ขอพระเยซูชำระ
"พระเยซูช่วยลูกด้วย ลูกยกโทษผู้อื่นไม่ได้ พระเยซูช่วยลูกด้วยลูกทำไม่ได้ ใจลูกมันชอบแต่จดจำความผิดผู้อื่น ใจลูกชอบแต่เครียด ใจลูกชอบแต่ขี้น้อยใจมันแก้ไม่ได้ พระเยซูช่วยลูกด้วย ลูกอยากได้อาณาจักร ลูกอยากเข้าอาณาจักร ลูกอยากแลกเอาอาณาจักรพระองค์ เอามันออกไปด้วย"
ขอ อธิษฐานขอเรื่อยๆ อธิษฐานบ่อยๆ ขอบ่อยๆ แล้วเชื่อด้วยนะ เชื่อด้วยว่าพระเยซูกำลังช่วยเราเชื่อว่าพระเยซูกำลังทำงานของพระองค์อยู่ในเรา ขอไม่ใช่แต่ขอเท่านั้นเชื่อด้วยว่าพระองค์กำลังทำ เราขอได้แต่เราเชื่อว่าพระเยซูกำลังช่วยเราอยู่ เราขอได้แต่เราเชื่อว่าเรากำลังเติบโตขึ้น
เป็นเหมือนเด็กน่ะครับเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ อยากเป็นใหญ่ ให้เป็นเหมือนเด็ก
...
ถาม.
อาจารย์ครับผมไม่รู้ว่าประสบการณ์อันนี้มาจากพระองค์ไหม ที่ผมเคยแบบว่าไม่สามารถที่จะให้อภัยบางอย่างของคนอื่นได้และผมก็อธิษฐานไว้กับพระเจ้าผมให้อภัยไม่ได้ แต่ว่าผมอธิษฐานกับพระเจ้าแล้วบอกว่า พระเจ้าทำยังไงแบบว่ามันมีความขมขื่นอยู่ในใจ แต่สุดท้ายพระเจ้าได้ให้มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับคนนั้น แล้วทำให้เราแบบรู้สึกใจอ่อนและสุดท้ายเกิดความเข้าใจคนนั้นและในใจก็แบบว่าเกิดแบบไม่คิดอคติกับคนนั้นแล้ว
ตอบ.
อันนี้เป็นการทำงานของพระวิญญาณครับ
...
ถาม.
เราอธิษฐานอย่างนี้ได้ไหมพระเยซูให้อภัยเขาด้วยเขาไม่รู้จักพระองค์
ตอบ.
ก็ได้อธิษฐานให้พระเจ้ายกโทษให้เขา
แล้วอธิษฐานให้พระเจ้าเปลี่ยนเราด้วย คือสิ่งสำคัญพระเจ้าต้องการให้เรา ทิ้งคำว่า "จดจำความผิด" พระเจ้าอยากให้เราทิ้งอันนี้ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จะขัดขวางเราไม่ให้เข้าอาณาจักร
การจดจำความผิด ทำให้เราเข้าอาณาจักรไม่ได้ เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพระเยซูก็คือเรื่องจดจำความผิด พระเยซูพูดย้ำตลอด ย้ำบ่อยมากเรื่องจดจำความผิดของผู้อื่น เพราะว่าทุกวันนี้มนุษย์ไม่ชอบอภัย มนุษย์มักจดจำความผิดของเพื่อนของผู้อื่นของศัตรู
แต่เรา เราเป็นบุตรพระเจ้า พระเจ้าให้เราอยู่อย่างสันติ และพระเจ้าให้เราไม่จดจำความผิดใคร
มันต้องใช้เวลา มันต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องห่วงคุณกำลังอยู่ในกระบวนการ เอเมน
"พระเยซูข้าพระองค์ทำไม่ได้ ขอพระองค์เปลี่ยน ขอพระองค์ช่วยข้าพระองค์ ข้าพระองค์อยาก ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ แต่มันทำไม่ได้ตอนนี้มันทำไม่ได้พระองค์ช่วยด้วย"
ร้องขอพระองค์เลย
"ถ้าพระเยซูเปลี่ยนนะ ข้าพระองค์จะไม่เดือดร้อน ไม่ไปก่อความวุ่นวาย"
ต่อรองเลย ขอร้องพระเยซูเลย
"ถ้าข้าพระองค์เปลี่ยน ข้าพระองค์จะไม่เป็นแบบนี้ พระองค์พระเยซู แต่ทุกวันนี้ข้าพระองค์เป็นเพราะพระองค์ยังไม่เปลี่ยนข้าพระองค์นี่แหละ เปลี่ยนข้าพระองค์ด้วย"
ตื้อเลย พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าที่ใจอ่อน
...
ถาม.
ผมเจอแบบนี้เรื่อยๆ เลยอาจารย์ แบบว่าเวลาเกิดความขุ่นเคืองกับบางคนแล้ว และพระเจ้าแบบว่านานๆ ไปนะครับ และหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทำให้เราแบบว่าเกิดความใจอ่อนแล้วก็ไม่คิดลบกับเขา
ตอบ.
นี่เป็นการทำงานของพระวิญญาณ พระวิญญาณจะค่อยๆ ทำ..ทำๆๆๆ ภายในจิตใจเรา คือพระเจ้าให้เราเกิดมีความคิด คิดบวก คิดใจอ่อน และเห็นการถูกลงโทษของเขา เป็นปัญหาของเขาเกิดขึ้น เราเกิดมีใจแบบ เออเห็นใจเขา แล้วก็ยกโทษให้เขาได้
** แต่อันนั้นยังไม่มาถึงจุดที่สูงสุด จุดที่สูงสุด ก็คือมาถึงจุดที่ไม่มีเหตุผล มองเขายังไงเขายังมีความสุขดีเราก็สามารถอภัย ไม่จดจำความผิด ยกโทษให้เขาได้
คือการทำงานของพระเจ้าในใจเรามันมีสองแบบ
ขั้นตอนที่หนึ่ง คือพระเจ้าให้เราได้เห็นความทุกข์ของเขา และเราเห็นแล้วสงสาร แต่ว่าใจเรายังไม่ได้ถูกชำระ เรายังมีโอกาสที่จะจดจำความผิดของคนใหม่ได้ ถ้ามีคนอื่นมาทำอีก เราก็จำ
แต่การทำงานของพระเจ้ามาถึงจุดสูงสุด ก็คือว่าพระเจ้าชำระใจเราส่วนนี้ออก คนอื่น ใคร หนักร้ายแรงเท่าไหร่ เราก็ไม่สามารถจดจำความผิดของเขา เรายังแบบว่า เออ..รักเขา คือมันไม่มีเหตุผล รักแบบไม่มีเหตุผล ก็คือรักเลย เขาจะว่าจะด่าเจ็บเท่าไหร่ก็ตาม ก็ลืมได้
มีนะ ใช่ไหม? คนเราบางคนพูด พูดให้เราเจ็บ จนเจ็บ จนจำ จนตาย "กูจะไม่ลืม คำนี้มันเป็นคำที่แทงหัวใจของกู ก้นบึ้งกู จะไม่ลืมไม่ลืม" มี มีคนแบบนี้ พวกเราเคยเป็นไหม?
...
ถาม.
เราเนี่ย ใจเราเนี่ยเราให้อภัย เราให้อภัย แต่ว่าเราไม่กล้าไปเจอหน้า เนี่ยหมายความว่ายังไงอาจารย์
ตอบ.
ถ้าสมมุติเราบอกว่าเราอภัยได้ แต่พอเวลาเจอกับเขา เรากลับไม่อยากเห็นหน้าเขา หรือเกิดความไม่ชอบ อันนั้นแสดงว่ายังไม่อภัย ยังอภัยไม่ได้
การยกโทษนะครับ การอภัยให้ผู้อื่นมันมี 2 ขั้น
1. ก็คือจิตสำนึกของเราอภัยได้
2. แต่จิตใต้สำนึกของเราอภัยไม่ได้
...
มีผู้ชายคนหนึ่งโกรธพ่อมาก พ่อเขาตบตี พ่อเขาด่า พ่อเขาทำให้ชีวิตของเขามีปมด้อย เป็นลูกที่ถูกพ่อแม่ตีเยอะมาก พ่อตีตลอดร้ายตลอดด่าตลอด
พอเขาโต เขาก็ไปอยู่ต่างประเทศ แล้วปรากฏว่าเขาก็รักพ่อเขาอยู่ แล้วคือสิ่งที่พ่อเขาทำในอดีตเขาก็พยายามยกโทษให้
ทีนี้มีอยู่วันหนึ่งพ่อเขาเสียชีวิต แล้วครอบครัวก็โทรศัพท์ไปบอกเขาว่าพ่อเสียชีวิตแล้วนะ กลับมาบ้าน เขาก็กลับมาจากต่างประเทศแล้วพอกลับมาปรากฏว่า เขายกโทษ เขารักพ่อ แต่รู้ไหมคือน้ำตาไม่มีสักหยด ไม่มี
คือจิตสำนึกของเขา เขายกโทษให้พ่อเขาได้
แต่จิตใต้สำนึกของเขา เขายังขมขื่น ยังเจ็บปวด ยังจำในสิ่งที่พ่อทำ
เข้าใจนะครับอันนี้เป็นตัวอย่าง แล้วเป็นเรื่องของบางคนที่เกิดขึ้นกับเขา
...
คือจิตใต้สำนึกของคนเรามันยกโทษให้ไม่ได้ แม้แต่เราพูดว่ายกโทษให้แล้ว ไม่จดจำความผิดแล้ว แต่จิตใต้สำนึกก้นบึ้งของหัวใจเรายังจำ อันนั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการชำระ ต้องการกำจัดมันออกไป แล้วสนิทในพระเยซูมากๆ ให้พระเยซูทำแทน แล้วเราจะทำได้
อ่านเพิ่มเติม: ไม่มองข้ามแม้แต่ผู้เล็กน้อยคนหนึ่ง เราเห็นทุกคนมีค่าเท่ากัน