เมื่อเรากระวนกระวาย และเมื่อขอบพระคุณและวางใจ สันติสุขก็ครอบครองจิตใจเรา ถ้าหากพระเจ้าจะตอบ "ให้" หรือตอบ "ไม่ให้" ในสิ่งที่เราจำเป็น เราก็เอเมนและจะไม่กระวนกระวายอีก
...
ความคิดของ อาดัม ที่ใช้ไม่ได้ (จากยอห์นบทที่ 11)
1. กระวนกระวาย (ข้อ 3)
2. เสนอความคิดเห็นตามแบบมนุษย์ (ข้อ 8)
3. ไม่เข้าใจเรื่องฝ่ายวิญญาณ (ข้อ 12-13)
4. อยากทำดีเพื่อพระเจ้าด้วยกำลังของอาดัม (ข้อ 16)
5. ต่อว่าพระเจ้า ที่ไม่ทำในสิ่งที่เขาต้องการ (ข้อ 21-22)
6. พูดว่ารู้ แต่แท้ที่จริงเขาไม่รู้ (ข้อ 24)
7 ผู้ที่รักพระเจ้ามากก็ยังมีโอกาสใช้สติปัญญาความคิดอาดัม (ข้อ 32)
...
ขอพระเจ้าช่วยเราให้หลุดพ้นจากการเป็นคริสเตียน "อาดัม" เพื่อเราจะ...
1. ไม่กระวนกระวาย
2. ให้พระคริสต์คิดและตัดสินใจแทน
3. รับการเปิดตาฝ่ายวิญญาณ
4. ไม่ต้องทำดีเพื่อพระเจ้า แต่ให้พระคริสต์ในเราทำดีแทน
5. ไม่ต่อว่าพระเจ้า สิ่งดีมาก็รับสิ่งไม่ดีมาก็รับ ด้วยจิตนอบน้อม
6. รู้ก็ว่ารู้ ไม่รู้ก็ขอการเปิดเผย หรือถามผู้ที่มีของประทานในการเปิดตา
7. ฝึกที่จะไม่ใช้สติปัญญาความคิดของอาดัม
...
สำหรับมนุษย์เมื่อพยายาม เมื่อหาทาง เมื่อขอเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมาช่วยเหลือ พระเจ้าจะรอ และเมื่อเราหมดหนทาง ทางตัน ยอมแพ้ เราหันมามองที่พระเยซู พระองค์ก็จะยื่นมือเข้ามา นี่คือวิธีของพระเจ้า
ระยะแรกเราจะเห็นผลจากการตายครั้งแรกบ้างเพื่อยืนยันว่าได้ผลและเป็นวิธีของพระเจ้า เมื่อนับว่าตายมากขึ้นจนชินในแต่ละวัน และเวลาผ่านไปนานหลายเดือน/ปี เราจะเห็นผลของอาการตายอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวัน
Live in the Spirit คืออยู่ในพระวิญญาณในฝ่ายวิญญาณ
Walk in the Spirit คืออยู่/เดินในพระวิญญาณฝ่ายวิญญาณอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะๆ ในแต่ละวัน และทุกวัน
*** พระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ภาษากรีกใช้คำว่า นาย หรือเจ้านาย หรือนายท่าน lord , master , sir แต่ผู้เขียนต้องการสื่อว่าพระเยซูคือเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ หรือพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง
*** มารีย์เป็นแบบเล็งหรือตัวแทนของผู้เชื่อที่สนิท ใกล้ชิดปรนนิบัติ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนมารธาเป็นแบบเล็งหรือตัวแทนของผู้เชื่อชอบทำๆๆ แต่ไม่สนิทในพระเยซู
*** มนุษย์อาดัมตกต่ำ เมื่อเจอปัญหา ความกลัวและกังวลกระวนกระวายย่อมเกิดขึ้นแน่นอน แต่ถ้าหากเราอยู่ในพระคริสต์ เราจะวางใจในพระเจ้าได้และไม่กังวลกระวนกระวาย หรือมีอาการนี้น้อยมาก เนื่องจากว่าเรามีสันติสุขในพระคริสต์ พระคริสต์ครอบครองจิตใจของเรา
*** ถึงแม้ว่ามนุษย์จะป่วยหรือมีอาการหนักมาก หรือถึงตายแต่พระเจ้าช่วยได้ แต่ต้องเป็นไปตามน้ำพระทัยและเวลาของพระองค์
*** สาวกของพระองค์เสนอความคิดเห็นซึ่งเป็นไปตามความคิดความเข้าใจของเขา เนื่องจากว่าเขาไม่เข้าใจถึงพระปัญญาของพระเจ้า
ข้อที่ 10 ยิวเชื่อตามพระเจ้าสั่งสอน คือนับเฉพาะกลางวันและเรียกว่าวันหนึ่งมี 12 ชั่วโมง พระเยซูจึงใช้เพื่อเล็งถึงความหมายฝ่ายวิญญาณ คือ..
กลางวัน คือความสว่าง หรือความเป็นจริงของพระเจ้า หรือการมีชีวิตในพระคริสต์
ส่วนกลางคืน หรือตะวันตกดิน คือการใช้ชีวิตด้วยตัวเก่าอาดัมและอยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง
บุตรแห่งกลางวันมีสันติสุข ส่วนบุตรแห่งกลางคืนมีความสุขน้อยแต่เป็นทุกข์มาก
บุตรแห่งกลางวันรู้และเข้าใจการอยู่ในพระคริสต์ และเดินในเวลากลางวันอย่างถูกต้อง และเต็มล้นด้วยสุข และพลังยิ่งใหญ่ สันติสุขที่เกินความเข้าใจก็ทำกิจในเราอย่างสม่ำเสมอ