หนังสือโคโลสี บทที่ 2
พระคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า คือพระเจ้าได้เสด็จมาบังเกิดผ่านร่างกายผ่านชีวิตของเยซู (ข้อที่ 6)
คำว่า ดำเนินชีวิตอยู่ในพระองค์ live in Him คือ กิน อยู่ นั่ง นอน คิด พูด กระทำทุกสิ่งในพระองค์ขณะที่เดินหรือดำเนินในพระองค์ walk in Him คือ กิน อยู่นั่ง นอน คิด พูดก็ทำทุกสิ่งเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ (ข้อที่ 7)
การหยั่งรากในพระองค์ คือการฝังรากให้ลงลึกของชีวิตใหม่นี้ ให้อยู่ในพระองค์เพื่อรับการหล่อเลี้ยงเลี้ยงดู โดยการตั้งมั่นอยู่ในความเชื่อ ในการเป็นอยู่ในพระองค์และการเดินในพระองค์เป็นระยะ
การก่อร่างขึ้นในพระองค์ คือการรับการก่อชีวิตพระคริสต์ขึ้นด้วยการสนิทและสะสมพระคำที่เป็นความจริง และพระปัญญา ทั้งความลึกลับทั้งหลาย (ข้อที่ 7) ให้จิตใจเต็มล้นด้วยการขอบพระคุณแทนการบ่นว่า และท้อแท้น้อยใจ (ข้อที่ 7) จงระวังให้ดี คืออย่าเชื่อใครง่ายๆ แต่จงฟังหูไว้หู อธิษฐานขอการเปิดเผยจากพระวิญญาณ และท่านจะได้รับคำตอบในอีกไม่ช้า
สติปัญญาและปรัชญาทั้งคำพูดที่ดีของมนุษย์ คือรูปแนวศาสนาที่เน้นกฎเกณฑ์ข้อปฏิบัติเพื่อหวังจะได้รับสิ่งดีๆ เข้ามา ไม่ได้เน้นชีวิต และกระทำด้วยใจรัก และผูกพันกับพระของพวกเขา อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือหมายสำคัญ ปาฏิหาริย์ ท้องฟ้า ลมฝน ฤทธิ์เดช การอัศจรรย์ของเทพทั้งหลายเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้หลงและเชื่อกราบไหว้พวกมัน พระคริสต์เป็นประมุขเหนือสรรพสิ่งทั้งปวงในจักรวาลแล้ว (ข้อที่ 10) สำหรับพระเจ้า และทูตสวรรค์ทั้งหลายของพระองค์
พิธีสุนัตของพระคริสต์ คือพระองค์ตรึงตัวเก่า และให้ชีวิตใหม่เข้ามาอยู่ในพวกเรา เพื่อกฎแห่งชีวิตจะเอาชนะกฎแห่งความตาย และกฎแห่งพระวิญญาณจะเอาชนะกฎแห่งความบาปได้ และเพื่อเราจะไม่ถูกตัวบาปมีอำนาจเหนือเราอีกต่อไป (ข้อที่ 11-12)
เมื่อเราเชื่อเราจึงได้เป็นอิสระจากตัวบาป ซึ่งก็คือ กิเลส ตัณหา ของเนื้อหนัง เราได้มีส่วนร่วมตายและร่วมมีชีวิตกับพระคริสต์ (ข้อที่ 13)
เราถูกลบล้างจากข้อผูกมัดทั้งหลายไม่ต้องอยู่ใต้กฎหมายกฎเกณฑ์พระบัญญัติเพื่อรับพระพรและให้ได้รอด (ข้อที่ 14)
เราไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของผู้ปกครองหรืออำนาจมืดทั้งหลาย (ข้อที่ 15)
เราไม่ต้องถือ (ฉลองหรือให้ความสำคัญ) กฎเกณฑ์เรื่อง วัน เดือน ปี การกินดื่ม เทศกาล หรือสะบาโต แต่ปักใจที่พระคริสต์ที่เป็นบุคคลผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือการสนิท บอกรัก สร้างความผูกพัน และสะสมพระคำทั้ง 3 แบบ คือ 1. ความจริง 2. ปัญญา 3. ข้อลึกลับ
ความคิดอย่างมนุษย์ ก็คือ ความคิดสติปัญญา ที่เราเห็นผู้นำศาสนามากมายสั่งสอนในคริสตจักรทุกวันนี้
ผู้เชื่อและคริสตจักรมากมายไม่ยึดพระคริสต์เป็นศรีษะของคริสตจักร ส่วนมากจะคิดเองทำเองตั้งตัวเป็นนายสร้างอำนาจใช้นามชื่อพระเยซูเพื่อตัวเขาเอง (ข้อที่ 19)
ถ้าหากเรายึดมั่น และคำนึงอยู่เสมอว่านายของเราคือพระคริสต์ และทุกคนถ่อมใจต่อกัน พระเจ้าจะให้เราจำเริญขึ้นอย่างแน่นอน
การบังคับตน การถ่อมตนต่อหน้ามนุษย์ การนมัสการ การทรมานร่างกาย การนั่งคุกเข่า การอดอาหาร เหล่านี้ไม่ใช่วิธีที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากตัณหาของเนื้อหนังได้ (ข้อที่ 20-23)