3:1 จงเตือนเขาให้นอบน้อมต่อผู้ปกครองบ้านเมืองและผู้มีอำนาจ ให้เชื่อฟังบรรดาพนักงานฝ่ายปกครอง และพร้อมที่จะปฏิบัติการดีทุกอย่าง
** คือการเคารพกฎหมายเชื่อฟังกฎเกณฑ์ของบ้านเมือง (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งที่ขัดแย้งเรื่องความเชื่อและกราบไหว้รูปเคารพหรือพระอื่น)
** พร้อมที่จะปฏิบัติการดีทุกอย่าง คือการทำดีต่อคนที่ไม่เชื่อในบ้านเมืองนั้นๆ เพื่อสำแดงพระคริสต์และเพื่อเอาชนะใจเขา
3:2 อย่าว่าร้ายผู้ใด อย่าให้เป็นคนมักทะเลาะวิวาทกัน แต่ให้เป็นคนสุภาพ แสดงความอ่อนสุภาพต่อคนทั้งปวง
** คำว่า ว่าร้าย คือการใส่ความ หาเรื่อง ซึ่งไม่เป็นความจริง
** ทะเลาะวิวาท คือถกเถียงจนเกิดเรื่อง
** ให้เป็นคนสุภาพ คือเราให้ทุกคนเห็นการไม่ตอบโต้ ไม่ต่อสู้ แต่ถอย หนีออกมา เราอดทนต่อผู้อื่นตามเหตุผลอันสมควร
3:3 เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นบางครั้งเราเองก็โง่เช่นกัน ไม่เชื่อฟัง หลงผิด เป็นทาสของกิเลสตัณหาและการเริงสำราญต่างๆ ใช้ชีวิตอย่างเลวร้าย ริษยา น่าชัง และเกลียดชังกันและกัน
** เมื่อก่อนนั้น คือตอนที่เราเป็นศาสนา หรือคริสเตียนศาสนา เราไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้าอย่างแท้จริงเพราะว่าเราไม่รู้จักน้ำพระทัยของพระบิดา
** หลงผิด คือตาบอดและเป็นคนที่นับถือศาสนา ไม่รู้เรื่องการฝ่ายวิญญาณหรือพระคำล้ำลึกเลย
** เมื่อเราตาบอดและเป็นศาสนา เราก็เลิกทำบาปไม่ได้ และเป็นทาสของกิเลสตัญหา และใช้ชีวิตหน้าซื่อใจคด ภายนอกดูดีแต่ภายในมีแต่ความชั่วร้าย
3:4 แต่ว่าเมื่อพระเจ้าผู้เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราทรงพระกรุณาโปรด และประทานความรักแก่มนุษย์ปรากฏแล้ว
** โดยความรักของพระเจ้า ทรงประทานสองสิ่งให้เรา คือความรอดในวันสุดท้าย และรอดจากการทำบาปในแต่ละวันเพื่อเข้าไปในอาณาจักร
3:5 พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้รอด มิใช่ด้วยการกระทำที่ชอบธรรมของเราเอง แต่พระองค์ทรงพระกรุณาชำระให้เรามีใจบังเกิดใหม่ และทรงสร้างเราขึ้นมาใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
** ความชอบธรรมของพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์ ทำให้เรากลายเป็นคนชอบธรรมทั้งต่อหน้าพระเจ้าและต่อหน้ามนุษย์ พระเจ้าไม่เพียงแต่ให้เราได้บังเกิดใหม่กลายเป็นบุตรพระเจ้าเท่านั้น เรายังถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อให้ดำเนินชีวิตสำแดงชีวิตและนิสัยของพระเจ้าโดยการทำกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเรา
3:6 พระองค์นั้นได้ทรงประทานแก่เราทั้งหลายอย่างบริบูรณ์ โดยพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
** การได้รอดทั้งสองรอด คือการรับพระพรจากพระเจ้าอย่างครบบริบูรณ์
3:7 เพื่อว่าเมื่อเราได้เป็นคนชอบธรรมแล้วโดยพระคุณของพระองค์ เราจะได้เป็นผู้ได้รับมรดกที่มุ่งหวังคือชีวิตนิรันดร์
** ข้อที่ 7 เปาโลกล่าวถึงการได้รับพระคุณความรอดจากบึงไฟ
3:8 นี่เป็นถ้อยคำสัตย์ซื่อ และสิ่งเหล่านี้ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านยืนยันตลอดเวลาว่า คนทั้งหลายที่เชื่อในพระเจ้าแล้วจะได้ระมัดระวังที่จะรักษาการงานที่ดีทั้งหลายไว้ สิ่งเหล่านี้ดีและเป็นประโยชน์แก่คนทั้งหลาย
** ข้อที่ 8 เปาโลกล่าวถึงการเข้าสู่การดำเนินชีวิตที่เป็นที่พอพระทัยของพระบิดาเพื่อเข้าไปในอาณาจักรโดยการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง
3:9 แต่จงหลีกเสียจากปัญหาโฉดเขลาที่เถียงกัน จากการลำดับวงศ์ตระกูลและการเถียง และการทะเลาะกันเรื่องพระราชบัญญัติ เพราะว่าการอย่างนั้นไร้ประโยชน์และไม่เป็นเรื่องเป็นราว
** นิสัยของพระเจ้าและบุตรทั้งหลายของพระองค์ ก็คือไม่ถกเถียงเรื่องความเชื่อและหลักคำสอนต่างๆ ทุกคนควรถ่อมใจเรียนรู้จากกันและกันโดยขอพระวิญญาณทรงนำและเปิดเผยให้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลำดับวงศ์ตระกูล พระบัญญัติเดิมและใหม่ พระบัญญัติจบหรือไม่จบ ถ้าหากทุกคนเปิดใจต่อกัน พระเจ้าก็จะเปิดเผยความเข้าใจให้ทุกคนที่ถ่อมใจอย่างแน่นอน
เราพบว่าทุกวันนี้ก็ยังมีการถกเถียงกันไม่มีวันจบสิ้นจนแยกออกเป็นหลายคณะนิกายเนื่องมาจากการอาศัยความคิดปัญญาของพวกเขาเองสุดท้ายก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรแต่กลับแตกแยกไม่เป็นหนึ่งเดียว
3:10 คนใดๆ ที่ยุให้แตกนิกายกัน เมื่อได้ตักเตือนเขาหนหนึ่งและสองหนแล้ว ก็จงปฏิเสธ
** การแบ่งปัน สั่งสอน ตักเตือนด้วยพระคำแห่งความจริง เราทำสองสามครั้งเท่านั้นเหมือนพระเยซูกระทำเป็นแบบอย่าง ถ้าหากเขาไม่ยอมฟังเราก็ปฏิเสธ ที่จะช่วยเขาต่อไป
3:11 ด้วยรู้แล้วว่าคนเช่นนั้นเป็นคนนอกลู่นอกทางและบาปหนา เขาปรับโทษตัวเขาเอง
** นอกลู่นอกทาง คือการอยู่ในคำสอนที่มนุษย์ตีความหมายพระคำพระเจ้าโดยใช้ปัญญาอาดัม จึงทำให้เขาอยู่ในชีวิตที่เต็มด้วยบาปหนาและหน้าซื่อใจคด โทษที่เขาได้รับก็คือไม่ได้เข้าไปในอาณาจักร
3:12 เมื่อข้าพเจ้าจะใช้อารเทมาสหรือทีคิกัสมาหาท่าน ท่านจงรีบไปหาข้าพเจ้าที่เมืองนิโคบุรี เพราะข้าพเจ้าตั้งใจแล้วว่าจะค้างอยู่ที่นั่นจนสิ้นฤดูหนาว
3:13 ท่านจงอุตส่าห์ส่งเศนาสผู้เป็นทนายความกับอปอลโลไปตามทางของเขา อย่าให้เขาขาดสิ่งใด
3:14 ให้พวกเราเรียนรู้ที่จะกระทำการดีด้วยสำหรับความจำเป็นต่างๆ เพื่อพวกเขาจะไม่เป็นคนที่ไร้ผล
** กระทำการดี ในที่นี้ คือเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือพี่น้องผู้รับใช้ที่ขัดสนมีความจำเป็นต้องใช้ทรัพย์ในการเดินทางและประกาศข่าวประเสริฐ
3:15 คนทั้งหลายที่อยู่กับข้าพเจ้าฝากความคิดถึงมายังท่าน ขอฝากความคิดถึงมายังคนทั้งปวงที่รักเราในความเชื่อ ขอพระคุณดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด เอเมน [เขียนถึงทิตัส ผู้ได้รับการเจิมให้เป็นศิษยาภิบาลคนแรกแห่งคริสตจักรชาวครีต จากเมืองนิโคบุรี แคว้นมาซิโดเนีย]
** ขอพระคุณดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด ก็คือขอให้ท่านอยู่ในพระคุณพระเจ้า อยู่ในพระคริสต์เพื่อที่จะมีประสบการณ์ในพระคุณของพระเจ้าผ่านการทำกิจของพระคริสต์ภายในเรา
ขอบพระคุณพระเยซูเราได้หลุดพ้นจากการถกเถียงกับพี่น้องในพระกายและพี่น้องศาสนาคริสต์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม เราช่วยคนที่ไม่เชื่อเรื่องความรอด เราช่วยพี่น้องศาสนาคริสต์เรื่องพระคำแห่งความจริงเพื่อการดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัย และเมื่อเขาถกเถียงไม่ยอมรับและหันมาตอบโต้โต้เถียงต่อสู้ทำร้ายทำลายข่มเหงเรา เราช่วยอธิบายสองสามครั้ง จากนั้นก็สงบนิ่ง อธิษฐานเผื่อและอวยพรเขาเพื่อสันติสุขจะยังอยู่กับเรา
ซาตานเป็นผู้นำเรื่องมากมายในพระคัมภีร์มาให้ผู้เชื่อค้นหาและถกเถียงกันโดยให้ผู้เชื่อใช้สติปัญญาของอาดัมเพื่อให้เสียเวลาและหลุดออกจากความจริงแห่งพระคำ ลำดับวงศ์ตระกูลของพระเยซูเราต้องเสียเวลามากมายเพื่อการถกเถียง เรื่องพระบัญญัติเมื่อเราพบพระคำล้ำลึกเราก็รู้และเข้าใจว่า พระบัญญัติเดิมมาจากพระเจ้าผ่านโมเสสและใหม่มาจากพระคริสต์ เดิมนั้นจบแล้วและถูกยกมาตรฐานให้สูงขึ้นจากระดับมาตรฐานของมนุษย์สู่ระดับมาตรฐานของพระเจ้าและเรียกว่า พระบัญญัติใหม่ หรือพระบัญญัติของพระเยซู อันเดิมจบไปแล้วไม่มีอีกแล้ว พระเยซูมาทำให้สำเร็จแล้วและเรียกว่าอันใหม่แล้ว
เราควรขอการนำพาของพระวิญญาณผ่านการอธิษฐานเรื่องการมีภาระใจเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่ขัดสนโดยเฉพาะผู้รับใช้ที่ต้องใช้ทรัพย์เพื่อการเดินทางและประกาศข่าวประเสริฐ การใช้ทรัพย์สินคือการวางใจในพระเจ้า เราจึงไม่มีเงินเดือนหรือข้อผูกมัดเรื่องสัญญาต่อผู้รับใช้ แต่มาจากการนำพาของพระวิญญาณที่ดูแลคริสตจักรอยู่
เราไม่ใช้คำว่า ขอพระเจ้าอวยพร เนื่องจากว่าเราผู้เชื่อได้รับพระพรจากพระเจ้าแล้วในฝ่ายวิญญาณ เราพูดต่อพี่น้องว่า ขอพระคุณอยู่กับท่าน ซึ่งความหมายก็คือ ขอให้อยู่ในขอบเขตแห่งพระคุณก็คืออยู่ในพระคริสต์เพื่อรับประสบการณ์ชีวิตแห่งพระคุณนั่นเอง