-คริสเตียนเด็ก เขาจะอ่าน เขาจะทำอะไร เขาทำแบบจำเป็น จำใจ
-แต่คริสเตียนหนุ่ม พอหนุ่มรับมานาที่ซ่อนไว้เยอะมากแล้ว เขาจะทำอะไรโดยที่ไม่จำใจ แต่ทำด้วยความเต็มใจ
คริสเตียนเด็กทำเพราะความจำใจ คริสเตียนหนุ่มทำด้วยความเต็มใจ (จำใจ กับ เต็มใจ)
คือเราจะมาคริสตจักร เราไม่ได้คิดว่า เออ ฉันมาเพราะต้องเล่นกีต้าร์ ผมน่ะครับเป็นอาจารย์มาเพราะว่าต้องสอน มีหน้าที่ คุณมาเพราะว่าต้องดูแลหักขนมปัง ก็เลยมา คือเราไม่ได้อยากมา ถ้าไม่มีหน้าที่ ก็คือนานๆทีนึงเห็นเราทีนึงที่คริสตจักร อันนี้ทำเพราะความจำใจ เพราะจำเป็น
แต่คริสเตียนเราถ้ามาถึงหนุ่มแล้ว ใครจะเป็นยังไง หน้าที่ไม่หน้าที่ฉันจะมา แล้วฉันมาไม่ได้มาเพื่อใครฉันมาหาพระเจ้าของฉัน นี่คือความแตกต่างระหว่างคริสเตียนเด็กกับคริสเตียนหนุ่ม
...
ทุกวันนี้คริสเตียนศาสนา แม้แต่ผู้นำ แม้แต่อาจารย์ทั้งหลาย ถ้าสมมุติว่าวันไหนไม่ได้เทศนาเขาไม่มา อันนี้ผมขอเปิดเผยตัวเองเลยสมัยอยู่อเมริกาตอนที่ขี้เกียจหรือไม่อยากไปคริสตจักร ก็ให้คนอื่นช่วยแล้วเราเองก็ไม่มา นอนพักอยู่ที่บ้าน มีหลายคนเป็นแบบนี้ มันเป็นระบบของศาสนา คุณจะเป็นอาจารย์ใหญ่แค่ไหนก็ตาม ถ้าคุณไม่มีหน้าที่อะไร คุณก็จะไม่มา หาข้ออ้างหลบหนี
...
แต่ทำยังไงถึงจะเข้าสู่การเป็นระดับหนุ่ม?
ก็คือสะสมมานาที่ซ่อนไว้ สะสมบทเรียนนี้เยอะๆ สะสมไว้ แล้วฝึกบอกรักพระเยซู พูดคุยกับพระเยซู ใกล้ชิดกับพระเยซู พูดคุยบอกรักพระเยซูมากๆ อย่าลืมพระเจ้า ครั้นเราอยากเข้ามาเป็นคริสเตียนหนุ่ม
คุณอายุเยอะไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคริสเตียนหนุ่ม คนที่อายุเยอะๆหลายคนทุกวันนี้ยังเป็นคริสเตียนเด็ก แต่หลายคนขอบคุณพระเจ้ามาถึงหนุ่มแล้ว
- หนุ่มคืออะไร หนุ่มก็คือมาหาพระเจ้าได้ทุกเวลา อธิษฐานได้ทุกเวลา อ่านพระคัมภีร์ได้สม่ำเสมอ พอถึงวันอาทิตย์จะมาคริสตจักรทันที ไม่แคร์อะไร ไม่สนใจอะไร ฝนตกหนักก็มาได้
(อันนี้ก็ขอบคุณพระเจ้าผมไม่ได้ย่อตัวเราเอง เมื่อเช้าน่ะครับขี่มอเตอร์ไซค์มาขี่มามือเดียว มืออีกข้างหนึ่งก็ถือกระติกน้ำจะเอามาฝากพี่น้อง เอามาให้พี่น้องกิน พอมาตามทางก็พอมาได้ ยังไม่พอนะซ้อน 3 มาด้วย พอมาได้สักพักทางก็เป็นขี้ตมเต็มประมาณทางรถวิบาก อาจารย์ก็เลยพูดว่าวันนี้อาจจะมีการเปียกเกิดขึ้น อาจจะมีการเกลือกขี้ตม 2-3 ครั้งเกือบล้ม ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่รถล้ม)
คริสเตียนหนุ่มมันจะมาจะยังไงมันก็มาหาพระเจ้า ยังไงก็อธิษฐาน ยังไงก็ทำโดยที่ไม่ต้องมีใครบังคับ โดยที่ทำด้วยความไม่จำใจ
ถ้าอยากมาถึงจุดนั้น อยากเป็นแบบนั้น คือสะสมมานามากๆ สะสมบทเรียนมากๆ แล้วฝึก การฝึกง่ายๆ ฝึกบอกรักพระเยซู "บอกรัก"
...
ถาม.
อาจารย์การเปลี่ยนแปลงนี้ มาถึงจุดที่เป็นคริสเตียนหนุ่ม ไม่ใช่ทุกเรื่องบาปเดียวแต่ว่าค่อยๆเปลี่ยนทีละเรื่องใช่ไหมครับ
ตอบ.
คือการเปลี่ยนแปลง ชีวิตเราจากเด็กสู่หนุ่ม หรือว่าจากการเลิกทำบาป 4 ส่วนได้ ก็คือพระเจ้าให้ชนะทีละส่วนๆ ที่ละจุดๆ อย่าไปคิดว่าชนะทีเดียวเป็นหนุ่มทีเดียวไม่ คือบางอย่างบางจุดของเราจะกลายเป็นหนุ่ม แต่บางอย่างบางจุดก็ยังเป็นเด็กอยู่ มันจะเป็นแบบนี้ ไม่ต้องห่วง คุณไม่ต้องห่วงเรื่องการเติบโตจากเด็กสู่การเป็นหนุ่ม แต่สิ่งที่คุณเป็นห่วงก็คือ การคุยกับพระเยซู การสนิทบอกรักพระเยซู
การฝึกฝ่ายวิญญาณชวนพี่น้องดีที่สุดคนใกล้ชิดเรา ใครใกล้ชิดชวนกัน พูดคุยกัน มาแข่งกันบอกรักพระเยซู วันหนึ่งจะบอกรักอีกครั้ง มาแข่งกันใครจะลืมมากกว่าใคร
เพราะว่าทุกวันนี้เราได้มาพบมานามันง่ายเกินไป การฝึกแล้วเราก็ลืมบ่อย เราประมาทใช่ไหม ผมขอบอกพวกเราโทรศัพท์มันจะเป็นประโยชน์ได้มาก ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ทุกๆชั่วโมงสิ มันช่วยเราได้เยอะนะ ทุกๆชั่วโมงเลย นาฬิกาดัง บอกรักพระเยซู
แต่พยายามอย่าทำเป็นระบบศาสนา ถ้าทำแบบตรงเวลาปุ๊บบอกรักปั๊บ
"พระเยซูลูกรักพระองค์ พระเยซูลูกรักพระองค์"
รักมากนะพระองค์ โอเคเเล้วไปทำงานต่อ อันนั้นมันกลายเป็นศาสนาไปแล้ว ถ้าคุณทำอะไรที่ทำแบบคือเป็นกฎเป็นเกณฑ์ ถ้าทำแบบลักษณะนี้กลายเป็นศาสนา เหมือนอย่างกลุ่มบางกลุ่มทุกวันนี้เขาชอบร้อง โอ้พระเยซูๆๆ ไปห้องน้ำก็โอ้พระเยซูๆๆ กินข้าวก็โอ้พระเยซูๆๆ ขับรถก็โอ้พระเยซูๆๆ
มันคล้ายๆกับนกแก้วนกขุนทอง ที่ท่องพูดคำพูดโดยที่ไม่มีจิตใต้สำนึก ไม่มีจิตสำนึกที่เข้าไปสู่การอยากมีความสัมพันธ์ เคยเห็นไหมบางคนบอกรักสามีบอกรักภรรยา "ผมรักคุณ I love you" แต่มันไม่ได้มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
แต่คนที่พูด "I love you" ที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจมันจะเป็นอีกลักษณะหนึ่งที่แตกต่าง
ลักษณะของการบอกรักพระเยซูมันจะมี 2 แบบ การปฏิบัติแบบศาสนากับการอยู่ในความสัมพันธ์กับพระเยซูมันจะแตกต่างกัน
คือเราฝึก การฝึกความเชื่อมันแตกต่างกัน ในเฟสผมเห็นหลายคนพูดถึงคริสเตียนไม่ใช่ศาสนาแต่เป็นเรื่องของความผูกพันความสัมพันธ์
เรามาหาพระเจ้าเราอย่านึกถึงการเชื่อฟัง อย่านึกถึงรักษาพระบัญญัติ อย่านึกถึงการต้องทำนู่นนี่นั่น เรามาหาพระเจ้าเรานึกถึงสิ่งหนึ่งที่เป็นใหญ่กว่า ก็คือรักพระเยซู "รัก" เป็นเรื่องของความรัก เป็นเรื่องความผูกพันความสัมพันธ์
แล้วถ้าเราทำอะไรกับใคร อยู่กับใคร อยู่กับครอบครัวก็ตาม อยู่กับพ่อแม่ก็ตาม ให้คำนึงถึงสิ่งนี้มากกว่าทุกสิ่งก็คือ "ความรัก" อยู่กับแฟนคำนึงถึง"ความรัก" อยู่กับเพื่อนคำนึงถึง"ความรัก" ขอให้มองสิ่งนี้
ก็คือเราฝึก "ความรัก" ความรักเป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง ให้ความรักอยู่เหนือทุกสิ่ง เรื่องอื่นเอาไว้แก้กันทีหลัง
...
ถาม.
อยากรู้เพิ่มที่พระเจ้าต้องการความรักจากเรา ใช่ความรักแบบดั้งเดิมไหม
ตอบ.
พระเจ้าต้องการความรักที่เรียกว่าความรักดั้งเดิม ภาษาอังกฤษเรียกว่า (The First Love) ก็คือความรักดั้งเดิมแรกๆเลย หรือว่าภาษากรีก (The Best Love) เป็นความรักที่ดีที่สุด
ความรักอะไรที่มันดีที่สุด รู้ไหมมันเป็นยังไง?
ความรักพระคัมภีร์วิวรณ์บทที่ 2:1-7 พูดถึงเรื่องความรักที่ดีที่สุด ความรักที่ดีที่สุด คือเอาแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้คนที่เรารัก เขาทำผิดก็ให้อภัยเขา เขาต้องการอะไรก็แคร์เขา คือใส่ใจเขาตลอดเวลา ใส่ใจ แคร์ ฟัง เขาอยากได้อะไรเขาต้องการอะไร เขาพูดอะไร เราก็ฟังเขา
สมมุติว่ารักกัน คนรักของเราพูดกับเราว่ารักนะ ไปทำนู่นทำนี่ให้หน่อย "แล้วเราถือโทรศัพท์เล่น เราพูดว่า ok ok แป๊บนึง" อันนี้เป็นความรักที่ดีที่สุดไหม
...
ถาม.
รักจากใจแต่ว่า รักอยู่ในใจ
ตอบ.
รักแต่ไม่แสดงออก รักแต่พูด มีแต่พูดๆๆ ว่ารักๆๆ แต่ว่าการแสดงออกไม่มี ปากบอกอยู่ว่ารักมาก แต่การแสดงออกไม่มี
หลังจากที่คุณพูดบอกรักกันน่ะครับ พูดระบายความในจากก้นบึ้งของหัวใจ รักมากนะ แต่หลังจากนี้ไปคุณต้องมีการกระทำด้วย อันนี้เรียกว่ารักที่ดีที่สุด
เพราะฉะนั้นพระเจ้าต้องการสิ่งนี้จากพวกเรา อย่าลืมพระเจ้าไม่ได้ต้องการอะไรมากหรอก พระเจ้าต้องการให้เรารักพระเจ้าแบบคนรัก ความรักที่เจอกันครั้งเเรกแล้วรักกัน
แล้วที่เหลือน่ะครับ
- การเลิกทำบาปได้พระเจ้าจะจัดการเอง
- การเชื่อฟังพระเจ้าจะจัดการเอง
- ปัญหาครอบครัวที่คุณมีอยู่พระเจ้าจะจัดการเอง
- ทุกสิ่งทุกอย่างเรื่องชีวิตของคุณพระเจ้าจะจัดการเอง
พระเจ้าขอความรักที่ดีที่สุดของคุณ พระเจ้าอยากได้หัวใจของคุณ นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการสำหรับชีวิตคริสเตียนคือ "ความรัก"
ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์สอนพวกเราให้เห็นให้ซึ้งถึงความรักที่ดีที่สุดที่พระองค์มีต่อพวกเรา แล้วตอนนี้พระองค์ก็อยากได้ความรักนั้นคืนไป พวกเราจะมีความรักนี้ให้พระองค์ ขอนำเรา สอนเรา ช่วยเรา และให้พวกเราเข้าสู่ชีวิตที่มีแต่ความรักให้พระองค์สม่ำเสมอทุกวันเวลา รักพระเยซู เอเมน