ถาม:
ยน 13:4–11 ตอนที่พระเยซูล้างเท้าให้สาวก มีความหมายอย่างไร บางคริสตจักรก็ทำตาม บางคริสตจักรก็ไม่ทำ
ตอบ:
ตลอดพระคัมภีร์ มีที่เดียวเท่านั้นที่พูดถึงเรื่องการล้างเท้า คือยอห์น 13:1–20
ผู้เชื่อส่วนมากไม่รู้ว่า หนังสือยอห์นเน้นที่ความหมายฝ่ายวิญญาณ:
- บทที่ 1 พระเยซู เป็นความสว่าง คือความเป็นจริงของพระเจ้า ที่เข้ามาดับความมืด
- บทที่ 2 พระเยซู เปลี่ยนความตายให้เป็นชีวิตได้
- บทที่ 3 พระเยซู เป็นเหตุให้มีการบังเกิดใหม่ได้
- บทที่ 4 พระเยซู เป็นผู้ทำให้เรามีสันติสุขทุกวันได้
- บทที่ 5 พระเยซู รักษาโรคฝ่ายร่างกายได้
- บทที่ 6 พระเยซู เป็นอาหารแห่งชีวิตให้เราอิ่มเต็มได้
- บทที่ 7 พระเยซูนำเราไปสู่อาณาจักร และฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่ได้
- บทที่ 8 พระเยซู คือผู้เดียว ที่ยกโทษบาปมนุษย์ได้
- บทที่ 9 พระเยซู ช่วยให้เราหายอาการบอดฝ่ายวิญญาณได้
- บทที่ 10 พระเยซู นำเราออกจากพระบัญญัติ สู่ทางแห่งพระคุณได้
- บทที่ 11 พระเยซู เป็นเหตุให้มีการฟื้นขึ้นมาจากความตาย เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ได้
- บทที่ 12 พระเยซู เป็นผู้นำเราออกจากระบบศาสนา เข้าสู่พระกายเพื่อเลี้ยงดูเรา
- บทที่ 13 พระเยซู ให้เราล้างใจกันและกัน เพื่อเราจะมีส่วนในพระองค์ได้
ความหมายของการล้างเท้า
ชาวยิวรู้ดีเรื่องธรรมเนียมการล้างเท้า ถ้าหากมีแขกมาเยี่ยมบ้าน เจ้าของบ้านจะล้างเท้าให้แขก เพราะเท้าสกปรกและมีกลิ่นเหม็น เพราะชาวยิวนั่งเอนกายยกขาขึ้นที่นั่ง แล้วรับประทานอาหารร่วมกัน
เรื่องธรรมเนียมล้างเท้า สาวกทุกคนรู้ดี แต่พระเยซูตรัสว่า ท่านไม่เข้าใจสิ่งที่เราทำ (ยน 13:7, 12) เพราะว่าเป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ
ยอห์นตั้งแต่บทที่ 1 ถึงบทที่ 12 เป็นเรื่องของการบังเกิดใหม่หรืออาบน้ำ ผู้เชื่อจะอาบน้ำครั้งเดียวตลอดชีวิตเขา (อาบน้ำ คือการบังเกิดใหม่)
ส่วนยอห์นบทที่ 13 เป็นเรื่องของการล้างใจ จากความคิดที่ผิดบาปฝ่ายเนื้อหนัง
การล้างเท้าไม่ใช่เพื่อแสดงการถ่อมใจ แต่เพื่อให้เราได้มีส่วนในพระคริสต์ (อ่านข้อที่ 8 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ถ้าเราไม่ล้างท่านแล้ว ท่านจะมีส่วนในเราไม่ได้”)
การล้างเท้า คือการล้างใจ เพราะเมื่อเราอาบน้ำสะอาดทั้งตัวแล้วรอดแล้ว แต่จิตใจเราจะคิดบาปทำบาป ปักใจไปที่ฝ่ายเนื้อหนังเป็นระยะๆ และถ้าหากเราอยู่ในเนื้อหนัง เราจะมีส่วนในพระกายของพระเยซูไม่ได้
ยกตัวอย่าง พี่น้องคนหนึ่งดูหนัง ขณะนั้นเขาก็ได้ออกจากพระวิญญาณไปอยู่ในเนื้อหนัง จิตใจเปื้อนสกปรก ไม่มีส่วนในพระคริสต์แล้ว มีพี่น้องอีกคนหนึ่งชวนเขาอ่านพระคัมภีร์และอธิษฐาน จิตใจเขากลับมาอยู่ในพระวิญญาณฝ่ายวิญญาณ คือพี่น้องคนนั้นๆ ได้ล้างเท้าคนแรก
ถาม.
ยอห์น 13:13 ท่านทั้งหลายเรียกเราว่า พระอาจารย์และองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านเรียกถูกแล้ว เพราะเราเป็นเช่นนั้น
13:14 ฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์ของท่าน ได้ล้างเท้าของพวกท่าน พวกท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย
13:15 เพราะว่าเราได้วางแบบแก่ท่านแล้ว เพื่อให้ท่านทำเหมือนดังที่เราได้กระทำแก่ท่าน
ถ้าการล้างเท้าเป็นฝ่ายวิญญาณการกินขนมปังและการดื่มน้ำองุ่นก็ต้องเป็นฝ่ายวิญญาณเช่นกัน
ตอบ.
การกินขนมปังและการดื่มน้ำองุ่น (พิธีมหาสนิท) ไม่มีในหนังสือยอห์นครับ จึงถือว่าไม่เป็นฝ่ายวิญญาณ
ถาม.
ท่านจะหมายความว่าในคืนนั้นการล้างเท้ากับการกินขนมปังและการดื่มน้ำองุ่นเป็นคนละเหตุการณ์ใช่ไหม
ตอบ.
1. พระเยซูเสด็จมาครั้งเดียวไม่ได้มาสี่ครั้ง และแต่ละเล่มอาจมีเรื่องราวที่ซ้ำกันและไม่ซ้ำกัน
2. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน แต่เรื่องราวที่เน้นฝ่ายวิญญาณ หนังสือเล่มอื่นจะไม่พูดถึง หรือถ้าพูดถึงก็จะไม่เน้นที่ฝ่ายวิญญาณเหมือนหนังสือยอห์นครับ
3. นอกจากในหนังสือยอห์น เรื่องทรงเลี้ยงสี่/ห้าพันคนพระเยซูไม่เคยพูดว่าเราเป็นอาหารแห่งชีวิตในเล่มอื่นเลย
4. ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าเล่มอื่นจะไม่พูดถึงเรื่องฝ่ายวิญญาณ ก็พอมีบ้างแต่ไม่มากเท่ายอห์นครับผม
อ่านต่อ: การล้างเท้าในพระคัมภีร์เดิม