6:12 เหตุฉะนั้น อย่าให้บาปครอบงำร่างกายที่ต้องตายของท่านซึ่งทำให้ต้องเชื่อฟังตัณหาของกายนั้น
** เราเห็นน่ะว่า ร่างกายของ ร่างกายที่ต้องตาย ก็คือร่างกายของเรานี่แหละ ซึ่งทำให้ต้องเชื่อฟังตัณหา ร่างกายนี้มันจะเชื่อฟังตัวบาปก่อให้เกิดตัณหา
6:13 อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่ตัวบาปให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าเหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้วและจงให้อวัยวะของท่านเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า
** เอเมนขอบคุณพระเยซู อย่ายกอวัยวะ ในที่นี้ คือ อวัยวะ ในที่นี้ก็คือร่างกายเรานี่แหละ (แขน ขา มือ ตา หู จมูก อื่นๆ) การยกอวัยวะให้ตัวบาป คือยอมเป็นเนื้อหนัง ไม่ฝึกและไม่เดินอยู่ในฝ่ายวิญญาณ เมื่อเราไม่ดำเนินชีวิตในฝ่ายพระวิญญาณ กฎแห่งพระวิญญาณและชีวิตก็จะไม่ปรากฏ ทำให้กฎแห่งความบาปและกฎแห่งความตายครอบงำเราได้
คริสเตียนไม่อาจถวายชีวิตเก่า ตัวเก่า เนื้อหนังแด่พระเจ้าได้ มันเป็นชีวิตที่พระเจ้าไม่พอพระทัย
แต่เราถวายตัวใหม่ คือเชื่อว่าคนนี้เป็นคนใหม่แล้วในพระคริสต์
“ขอบคุณพระเยซูวันนี้พวกเราถวายตัวใหม่แด่พระองค์ ขอบคุณพระเยซูวันนี้พวกเราเป็นคนชอบธรรมในพระองค์แล้ว ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์พอใจ พอพระทัยในชีวิตของพวกเราแล้ว เอเมน”
** เปาโลถวายตัวและอวัยวะของท่านในลักษณะทาส เพื่อท่านจะไม่มีสิทธิ์เสรีภาพที่จะใช้ชีวิตเนื้อหนังของท่านได้ พระคริสต์จึงรักษาท่านไม่ให้ทำบาปและเป็นผู้ชนะตามกำหนดเวลาของพระองค์
ถ้าเราถวายตัวเราในลักษณะทาส ในฐานะของทาส พระเจ้าจะบังคับเราไม่ให้ทำบาป พระเจ้าจะบังคับเราน่ะไม่ให้ทำบาป และเราจะกลายเป็นผู้ชนะตามกำหนดเวลาของพระเจ้า ถ้าเราดื้อ เราไม่ถวายตัวในลักษณะของ ทาส เราก็จะโตช้าและเป็นผู้ชนะช้า หรือบางครั้งอาจจะถึงเวลาใกล้ตายพระเจ้าให้เป็นผู้ชนะแล้วให้ตายเลย
เราจำกันได้ไหมพี่น้องมีปัญหา บอกว่า (ตอนนี้ผมฝึกไม่ถึงไหนเลย แล้วถ้าผมตายพรุ่งนี้มะรืนนี้ล่ะ ผมจะเป็นผู้ชนะไหม) เป็นน่ะ พระเจ้าให้เป็นผู้ชนะอีกวันสองวัน ได้เป็นผู้ชนะสองวัน หลังจากนั้นก็ตาย เพราะว่าอะไร? การพบมานาที่ซ่อนไว้ไม่ใช่บังเอิญ คลิปมานาที่ซ่อนไว้มันไม่ได้เด้งขึ้นมาโดยบังเอิญ ยูทูปไม่ได้ทำ แต่พระวิญญาณเป็นคนทำ เอเมน
6:14 เพราะว่าตัวบาปจะมีอำนาจเหนือท่านทั้งหลายต่อไปก็หามิได้เพราะว่าท่านทั้งหลายมิได้อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณ
** นี่น่ะคือการฝึก คริสเตียนที่ไม่รู้และเข้าใจ 4 สิ่ง ก็คือ..
1. รู้ว่าเรามีส่วนในการตายและการเป็นขึ้นกับพระเยซู
2. ก็คือเราต้องนับว่าเราเป็นคนใหม่
3. ก็คือเราถวายตัวให้พระคริสต์ทำแทน
4. ก็คือเราอยู่ใต้พระคุณ ก็คืออย่ารักษาพระบัญญัติ ไม่ต้องรักษาพระบัญญัติ เราบอกว่า (พระเยซูข้าพระองค์โกรธ และข้าพระองค์ระงับความโกรธไม่ได้ตอนนี้) ก็โกรธไปเลย แต่ขอ.. รอบหน้า ขอให้พระองค์อย่าโกรธอยู่ในข้าพระองค์ มีรอบหน้าด้วยใช่ไหม ตอนนี้เรายังทำไม่ได้เราก็ทำบาปต่อไป แต่ขอรอบหน้าให้พระเยซูเป็นคนไม่ทำบาปแทนเราอยู่ในเรา นี่คือการไม่อยู่ใต้พระบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระคุณ
- อยู่ใต้พระบัญญัติ ก็คือ เราเป็นคนทำ เราเป็นคนรักษาพระบัญญัติ
- อยู่ใต้พระคุณ ก็คือ พระคุณก็คือพระคริสต์ พระคริสต์ทำแทนเรา เอเมน
ข้อที่ 14 การอยู่ใต้พระบัญญัติ คือการพยายามบังคับตนอดกลั้นไม่ให้ทำบาปด้วยกำลังของตัวเก่า
การอยู่ใต้พระคุณคืออะไร ? คือการทำแทนของพระเยซู เกิดผลของพระวิญญาณในเรา ผลของพระวิญญาณในกาลาเทีย 5:22-23 ไม่ใช่ผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์
มีหลายคนบอกว่า ตอนนั้นเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราไปอ่านดูดีๆ ภาษาไทยเขียนว่าผลของพระวิญญาณ ไม่มีคำว่า บริสุทธิ์ พระวิญญาณองค์นี้คือใคร ? “พระคริสต์” เพราะว่าเราดูผลใช่ไหม มีความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปราณี ความดี ความเชื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน อันนี้คือผลของพระคริสต์ที่เกิดขึ้นในเรา
เมื่อเราฝึกเดินใน 4 สิ่งนี้
1. ก็คือเรารู้ว่าเราตายต่อตัวเก่าและเป็นคนใหม่แล้ว
2. เรานับทุกวันว่าเราตายต่อตัวเก่าและเป็นคนใหม่แล้ว
3. เราถวายตัวนี้ร่างกายนี้ที่เป็นร่างกายใหม่ให้พระเยซูครอบครอง
4. ไม่ต้องรักษาพระบัญญัติ ไม่พยายาม แต่ให้พระเยซูทำแทนเรา
6:15 ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไปเราจะทำบาปเพราะมิได้อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณกระนั้นหรือขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย
** พระเจ้าไม่ต้องการให้เราทำบาปอย่างแน่นอน แต่การอยู่ใต้พระคุณจะต้องใช้เวลากว่าจะได้เห็นผลของพระวิญญาณปรากฏในเรา เอเมน
** ซึ่งการฝึกในระยะแรกเราจะยังเอาชนะบาปไม่ได้ และส่วนที่เราเอาชนะได้แล้ว เราก็เชื่อว่าคือพระคริสต์เป็นคนทำแทนเรา อันนี้พี่น้องเข้าใจน่ะ อันไหนที่เราทำได้แล้วเราเชื่อว่าพระคริสต์ทำแทนเราแล้ว เราไม่ต้องคิดว่าเราเป็นคนทำเอง อันไหนที่เรากำลังทำอยู่ เชื่อว่าพระเยซูทำแทนเรา เรากำลังดำเนินชีวิต เชื่อว่าพระเยซูดำเนินชีวิตแทน เราขับรถเชื่อว่าพระเยซูขับรถแทน จะทำอะไรก็ตามเชื่อว่าพระเยซูเป็นคนกระทำอยู่แล้ว
** เพราะว่าเราอยู่ในหลักการการดำเนินชีวิตในกาลาเทีย 2:20 “ข้าพเจ้าไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ข้าพเจ้าไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่พระคริสต์ต่างหาก แต่พระคริสต์ต่างหาก เราพูดด้วยกัน แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในเรา เอเมนขอบคุณพระเยซู”
เพราะฉะนั้นเราจะให้พระเยซูเป็นคนดำเนินชีวิตแทนเรา เราไม่มีชีวิตเราต้องตาย ให้พระเยซูมีชีวิตอยู่ เอเมน
6:16 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านจะยอมตัวรับใช้เชื่อฟังคำของผู้ใด ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้นคือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตายหรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรม
** คำว่า เป็นทาสของความบาปซึ่งนำไปสู่ความตาย อันนี้ไม่ใช่ตาย ตายแบบตายร่างกาย นำไปสู่ความตายในพระคัมภีร์ส่วนมากจะพูดถึงเรื่อง ตาย อ่อนแอ อยู่ใต้อำนาจของความบาป ไม่มีพลัง ไม่มีกำลังที่จะรักษาพระบัญญัติ ไม่มีกำลังที่จะเชื่อฟังพระเจ้าได้ คือมันอ่อนแอ มันอ่อนแรง เรียกว่า ตาย
การพยายามรักษาพระบัญญัติ การพยายามทำดีเพื่อพระเจ้า
1. เราจะกลายเป็นทาสของตัวบาปทันที (โรม 6:14)
2. เราก็จะกลายเป็นเนื้อหนัง (โรม 7:14)
3. เราถูกสาปแช่ง (กท 3:10)
ในกาลาเทียบทที่ 3:10 บอกว่าใครก็ตามที่รักษาพระบัญญัติคนนั้นก็ถูกสาปแช่ง คริสเตียนมากมายทุกวันนี้ถูกสาปแช่งแต่ไม่รู้ตัว
- เพราะว่าอะไร? เพราะว่าเขาพยายามเชื่อฟังพระเจ้าด้วยตัวเก่า เขาไม่รู้ว่าเขาตายแล้ว ตัวเก่าเขาตายแล้วเขาไม่รู้ ทุกวันนี้เขาใช้ตัวเก่าเพื่อรักษาพระบัญญัติ เขาใช้ตัวเก่าเพื่อดำเนินชีวิตเพื่อพระเจ้า เขาใช้ตัวเก่าเพื่อการรับใช้ เขาใช้ตัวเก่าเพื่อการประกาศ เขาใช้ตัวเก่าเพื่อทำทุกสิ่งในการดำเนินชีวิตในความเชื่อ ในการเป็นคริสเตียน อันนี้เป็นผลเสีย เพราะว่าเขาไม่รู้ ผลที่เขาได้รับในการ เป็น 3 สิ่งนี้ก็คือ ไม้ ฟาง หญ้าแห้ง
- เปาโลเตือนใช่ไหม การดำเนินชีวิตของพวกท่าน การก่อขึ้นของพวกท่าน ต้องระวังให้ดี ต้องระมัดระวัง เพราะว่าถ้าก่อไม่เป็น ผลที่ได้รับมันจะกลายเป็น ไม้ ฟาง หญ้าแห้ง (1 คร 3:10-12)
แต่ถ้าท่านก่อขึ้นเป็น ผลที่ออกมาก็จะกลายเป็น ทองคำ เงิน เพชรพลอย (1 คร 3:10-12)
“ขอบคุณพระเยซูสำหรับพวกเราที่ตอนนี้เรากำลังก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน และเพชรพลอย”
- ขั้นตอนสุดท้าย ก็คือต้องไปเจอคุกเกเฮนา อยู่ในนั้นเป็นเวลาพันปี คริสเตียนจะต้องถูกลงโทษเป็นเวลาพันปี นี่คือการสาปแช่งเนื่องจากเราก่อชีวิตขึ้นไม่เป็น
การก่อชีวิตขึ้นให้เป็น เพื่อได้ผลทองคำ เงิน และเพชรพลอย คืออะไร?
1. เชื่อว่าเราเป็นคนใหม่ เชื่อว่าเราเป็นคนชอบธรรม ใช้ตัวใหม่ใช้ชีวิตใหม่ดำเนินชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า
2. ดำเนินชีวิตอยู่เพื่อการรับใช้ ทำยังไงครับ? ทุกเวลาเราระลึกเสมอว่านี่คือคนใหม่ นี่คือคนชอบธรรม ที่กำลังทำอยู่เพื่อพระเจ้า ที่กำลังรับใช้พระเจ้าอยู่ ผมกำลังพูดอยู่ด้วยตัวใหม่ พี่น้องฟังอยู่ด้วยตัวใหม่ เอเมน
6:16 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านจะยอมตัวรับใช้เชื่อฟังคำของผู้ใด ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้นคือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตายหรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรม
** คริสเตียนเราจะกลายเป็นคนชอบธรรม เพราะว่าพระเยซูเป็นคนไถ่เรา เมื่อก่อนเราเป็นคนบาปเพราะว่าอาดัมทำบาป
อีกครั้ง.. เราเป็นคนบาปเพราะว่าอาดัมทำบาป เราก็เลยกลายเป็นคนบาป อาดัมเป็นคนบาปทำให้เราถูกพิพากษา มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการกระทำของเรา เราจะทำชั่วทำดีเราก็ต้องถูกพิพากษาเพราะว่าเราอยู่ในอาดัม
แต่ขอบคุณพระเยซูมีทางออกที่ดีที่สุด คือพระเยซูเตรียมทางไว้ พระเยซูมาไถ่เรา ทำดี ทำความชอบธรรมตลอดชีวิตของพระองค์ เราอยู่ในพระเยซูเราจึงกลายเป็นคนชอบธรรม
อีกครั้งน่ะมีอีกอันหนึ่งที่ดีกว่า อาดัมทำบาป เราทำบาป / พระเยซูทำดี เราทำดีได้
นี่คือคำตอบ..
การเป็นทาสของความบาป ก็คือนำไปสู่ความตายและความอ่อนแอ
การเป็นทาสของการเชื่อฟัง ก็คือพระคริสต์ทำแทนก่อชีวิตขึ้นในเรา
** เราอยากเป็นทาสของใคร? ของความบาปหรือความชอบธรรม ของตัวบาปหรือตัวชอบธรรม เราอยากเป็นทาสของซาตานหรือเป็นทาสของพระเยซู
ถ้าอยากเป็นทาสพระเยซูทำยังไง?
“พระเยซูข้าพระองค์ขอถวายตัวให้เป็นทาสของพระองค์”
แค่นี้ไม่ยากเลย ไม่ต้องทำอะไร นี่ อยู่ที่นี่ (เอ่ยปาก)
“พระเยซูข้าพระองค์ขอถวายตัวนี้ ชีวิตนี้ ร่างกายนี้ จิตนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นทาสของพระองค์”
ในที่สุดเมื่อพระเจ้าได้ยิน “อยากเป็นทาสเราเหรอ โอเคได้” พระเจ้าก็จะจับเราให้เป็นทาส เราอยากทำบาปเราทำได้ไหม ไม่ได้แล้ว เพราะว่าพระเจ้าจะเอาพระเยซูคริสต์ใส่ไว้ในเรา และให้เรามีธรรมชาติใหม่ มีกฎแห่งพระวิญญาณ มีพลังในเรา เราจะทำบาปไม่ได้เลย เพราะว่าเราเป็นทาสของความชอบธรรมแล้ว
6:17 แต่จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านเป็นทาสของบาปแต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งทรงมอบไว้แก่ท่าน
6:18 เมื่อท่านพ้นจากตัวบาปแล้ว ท่านก็ได้กลายเป็นทาสของความชอบธรรม
** เมื่อท่านพ้นจากตัวบาปแล้ว ท่านก็ได้กลายเป็นทาสของความชอบธรรม นี่คือสิ่งใหม่สำหรับพวกเรา เอากลับไปบ้าน ตอนนี้เป็นทาสของความชอบธรรมแล้ว เป็นทาสของพระเยซูแล้ว ให้เราดำเนินชีวิตอยู่ในฐานะของทาส เราจะซื้ออะไร เราจะทำอะไร เราจะไปไหน เมื่อก่อนเราทำตามใจชอบ แต่เดี๋ยวนี้เราเป็นทาส ทาส “ท า ส” ทาส จำให้ดี ทุกครั้งขอให้ระลึกเสมอว่าเราเป็นทาส
ไม่ใช่ทาสไม่ใช่คนใช้ของใครสักคนหนึ่ง แต่เป็นทาสของพระเยซู เป็นทาสที่มีเกียรติมาก
เพราะฉะนั้นเราจะทำอะไร จะซื้ออะไร เราเป็นทาสของพระเยซู เราจะทำตามใจเราได้หรอ? ให้พระวิญญาณต่อสู้กับเนื้อหนัง สู้กัน (เราถือเงินไว้ก่อนถือเงินไว้ก่อน) ไม่ใช่หน้าที่ของเราใช่ไหมไม่ใช่เราน่ะที่ต้องทำดี ถ้าพระเยซูทำคือเราจะเอาเงินกลับคืนมาใส่กระเป๋า ถ้าพระเยซูคือตอนนั้นยังไม่ให้เราสุกงอม ยังไม่เอาชนะบาปได้ เราต้องใช้เวลาเพื่อเห็นความอ่อนแอของเราก่อน (โอเค งั้นซื้อเลย)
ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องทำดีทำชั่ว แต่เป็นหน้าที่ของพระวิญญาณทำดีในเรา และตัวบาปทำชั่วในเรา สองคนนี้เขาจะต่อสู้กันเอง เรายืนดูห่างๆ พระวิญญาณต่อสู้กับเนื้อหนัง เนื้อหนังก็ต่อสู้กับพระวิญญาณ แต่พี่น้องรู้ไหมผลสุดท้ายใครชนะ “พระวิญญาณ” แน่นอนผู้ชนะก็คือพระเจ้า อย่ามีใครพูดน่ะว่าผู้ชนะคือซาตาน
ความเป็นจริง ก็คือพระเจ้าจะเป็นผู้ชนะในที่สุด แต่ตอนนี้ซาตานมันจะต่อสู้เนื้อหนังจะต่อสู้ พระวิญญาณก็ต่อสู้ ต่อสู้กันไปกันมา เราก็ยืนดู ในพระคัมภีร์บอกใช่ไหม กาลาเทีย 5:17 “เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ต่อสู้เนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน ดังนั้นสิ่งที่ท่านทั้งหลายปรารถนาทำจึงกระทำไม่ได้”
พระวิญญาณก็ต่อสู้กับเนื้อหนัง เนื้อหนังก็ต่อสู้กับพระวิญญาณ เราไม่ได้ต่อสู้กับใคร เรายืนดู เราจะทำอะไรก็บอกว่า “นี่ข้าพระองค์เป็นทาสนะ เป็นทาส” พระวิญญาณกับเนื้อหนังต่อสู้กัน ถ้าพระวิญญาณชนะเราก็ไม่ซื้อ (อดเลยไอโฟน 8)
ในชีวิตของเราแต่ละวัน ถ้าเราบอกรักพระเยซูมากๆ สนิทในพระคริสต์มากๆ พระวิญญาณก็มีโอกาสที่จะมีพลังมากๆ และชนะตัวบาปได้
พระวิญญาณพระเจ้าทำงานได้มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่การสนิทของเรามากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน นี่คือเคล็ดลับของการดำเนินชีวิตคริสเตียน