...
สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา ไม่เปลี่ยนแปลง พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระเจ้าสัญญาจะทำอะไรพระเจ้าก็จะต้องทำ พระเจ้ารู้ว่ามนุษย์ยกเลิกสัญญาแล้ว แต่พระเจ้าก็ต้องทำตามสัญญานั้นที่สัญญาไว้
...
ถาม.
สมมุติว่าพวกยิวเขาต้อนรับพระเยซู ข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรจะมาถึงพวกเราไหมที่เป็นคนต่างชาติ
ตอบ.
ถ้าสมมุติว่าสองพันปีก่อนยิวรับข่าวประเสริฐรับพระเยซู ข่าวประเสริฐจะมาถึงพวกเราไหม?
มีโอกาสมาถึง มีโอกาสมาถึงเพราะว่าพระเจ้าไม่ได้รักเฉพาะคนยิวเท่านั้น แต่ยังไงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น พระเจ้ารู้ดีว่ายิวจะไม่รับแน่นอน พระเจ้ารู้ แต่ทำไมพระเจ้ารู้แล้วส่งพระเยซูมาตายเพื่อไถ่บาปยิว ทำไมไม่มาตายเพื่อไถ่บาปโลก เพราะว่าพระเจ้าต้องทำตามสัญญา พระเจ้ารู้ว่ามนุษย์จะผิดสัญญา พระเจ้ารู้ว่าชาวยิวจะไม่รับ พระเจ้ารู้ว่าชาวยิวจะปฏิเสธ พระเจ้ารู้ว่าชาวยิวจะฆ่าพระเยซูที่เป็นกษัตริย์ของเขา พระเจ้ารู้ แต่พระเจ้าก็ต้องทำตามสัญญา เข้าใจนะครับ
คือสัญญาก็ต้องเป็นสัญญา ไม่เปลี่ยนแปลง พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระเจ้าสัญญาจะทำอะไรพระเจ้าก็จะต้องทำ พระเจ้ารู้ว่ามนุษย์ยกเลิกสัญญาแล้ว แต่พระเจ้าก็ต้องทำตามสัญญานั้นที่สัญญาไว้
คือสำหรับพระเจ้า คำสัญญา พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ คุณจำได้ไหมคำว่าสัตย์ซื่อ ก็คือพูดอะไรไปก็ต้องทำตามไม่เปลี่ยน แต่ถ้าสมมุติมีบางอย่างมีบางเรื่องที่พระเจ้าเปลี่ยน เนื่องจากว่ามนุษย์เปลี่ยน มนุษย์ที่เปลี่ยนไป แล้วคือพระเจ้าตาม พระเจ้าทำแล้วมันไม่เกิดอะไร มันไม่เกิดอะไรมนุษย์ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ก็คือพระเจ้าก็หยุด
แต่ทำไมพระเจ้ายังมาทำตามสัญญาในอิสราเอล เพราะว่าพระเจ้าเชื่อ พระเจ้ารู้ว่ามีบางคนที่จะรับ อย่าลืมนะยิวไม่รับ แต่เปโตรเป็นใคร? เปโตรเป็นยิวไหม? เปโตรเป็นยิว มัทธิวเป็นยิวไหม? มัทธิวเป็นยิว ยอห์นเป็นยิว อยากกอบเป็นยิว แอนดรูเป็นยิว เห็นไหมมีหลายคนเป็นยิว พระเจ้าก็เลยบอกว่า ถ้ายิวไม่รับ ก็ยังมียิวบางคนรับอยู่ พระเจ้าก็มา เห็นไหมล่ะ คือไม่ใช่ทั้งประเทศรับ แต่มีบางคนรับพระเจ้าก็ทำ
สำหรับพระเจ้า แม้แต่คนเดียวพระเจ้าก็เอา จำได้ไหมชายที่ถูกผีสิงอยู่ที่แดนกานดารา พระเยซูก็ยังเดินทางไกล ข้ามทะเล ข้ามพายุไป ไปเพื่อไปไถ่คนคนเดียว เพราะฉะนั้นเราขอบคุณพระเจ้า ถ้าพระเจ้าสัญญาอะไรในพระคัมภีร์ เราเห็นสัญญานั้น ให้เราสบายใจได้ พระเจ้าสัญญาว่าจะดูแลเรา พระเจ้าสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเรา พระเจ้าสัญญาว่ารักเรา
ถ้าเราโดนข่มเหง โดนพายุ โดนมรสุมชีวิต กำลังยากจนขัดสน กินบะหมี่มาม่าไวไวหักครึ่ง 4 ส่วน ยังไงก็แล้วแต่ พระเจ้าก็ไม่ให้เกิดนานเกินไป คุณจะยากจนเป็นบางครั้งบางคราว หรือว่าเป็นระยะหนึ่ง คุณจะถูกข่มเหงเป็นบางครั้งบางคราว ชีวิตของคุณจะไม่ราบรื่นเป็นบางครั้งบางคราว แล้วพระเจ้าก็จะนำเข้ามาสู่ปกติ คือพระเจ้ารักเรามาก
แต่ยกเว้นนะ ยกเว้นบางคนพระเจ้าให้ยากจนไปตลอดชีวิตเลย เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพื่อการทดลอง หรือเพื่อตีสอนเขา แต่ปกติชีวิตคริสเตียนปกติ คือพระเจ้าจะดูแลคุ้มครองปกปักรักษาช่วยเหลือให้ชีวิตราบรื่น เพราะว่านี่เป็นพระพรของพระเจ้า แต่พระเจ้าให้บางคนเราจะเห็นคริสเตียนบางคนใช่ไหม คือยากจนไม่เคยรวยไม่เคยมีฐานะเลย คือจนอยู่ตลอด
ทำไม? พระเจ้าให้คนนั้นจน? สันติสุขให้มี พระคุณให้มี แต่ให้ยากจน เราดูตัวอย่างเปาโล เปาโลมีสันติสุขทุกวันทุกเวลา เปาโลเป็นผู้รับใช้พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เปาโลมีฤทธิ์อำนาจ มีฤทธิ์เดชไล่ผีได้ รักษาโรคได้ เผยพระวจนะ ประกาศข่าวประเสริฐคนกลับใจเป็นร้อยเป็นพันได้ คำสอนของเขาเป็นคำสอนที่มาจากพระวิญญาณ เป็นมานาที่ซ่อนไว้ คำสอนเปาโลเป็นมานาที่ซ่อนไว้
ทีนี้เปาโลขอสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า พระเจ้าไม่เคยรักษาไม่เคยช่วย ก็คือโรคประจำตัวของเขา เขามีโรคประจำตัวแต่พระเยซูไม่เคยรักษา แล้วเปาโลบอกว่าทำไมพระองค์ไม่รักษาข้าพระองค์ พระเยซูตอบว่า เราให้พระคุณแก่เจ้าก็พอแล้ว พระคุณก็เพียงพอสำหรับเจ้า แต่เราจะไม่รักษาเจ้า เห็นไหม คือบางคนพระเจ้าให้มีทุกอย่าง มีพระคุณ แต่ยากจน แล้วเขาบอกว่าขอให้มีฐานะได้ไหม พระเยซูบอกว่าให้มีทุกอย่างก็พอเพียงพอสำหรับเจ้า จนต่อไป คือพระเจ้าให้จน พระเจ้ามีเหตุผลไม่ใช่พระเจ้าไม่มีเหตุผล
คือบางคนรวยแล้วลืมพระเจ้า บางคนรวยได้ดีแล้วทิ้งพระเจ้า คือไม่สนใจพระเจ้า มีแต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นพระเจ้าก็เลยบอกว่าจนต่อไป คืออย่าลืมพระเจ้าให้เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ มีอะไรอยู่ เจออะไรอยู่ทุกวันนี้ พระเจ้ามีเหตุผลครับ
...
ถาม.
ทำไมพระเยซูจึงพูดว่า เวลาพวกเจ้าไป อย่าถือเอาเงิน หรือคำ หรือเอาเสื้อผ้าไป
ตอบ.
เวลาเดินทางไปประกาศข่าวประเสริฐ ตอนนั้นเป็นตอนที่พระเยซูใช้ให้ไปท่ามกลางคนยิว ทีนี้พระเยซูบอกอย่างหนึ่งว่า เวลาไปอย่าเอาเงินไป อย่าเอาเสื้อผ้า รองเท้าไป คือไปตัวเปล่า (มธ 10:9-11) ทีนี้มีคริสตจักรมีโบสถ์หลายโบสถ์ ตีความแปลความหมาย ตีความหมายว่า ผู้รับใช้ต้องได้รับเงินเดือน ต้องมีค่าจ้างรางวัล ต้องมีเงินเดือนกิน อันนี้ผิดนะ ผิด
คำพูดที่พระเยซูพูดตอนนั้น ก็คือเวลาผู้รับใช้ไปไหนบ้านไหน ที่บ้านคริสเตียนก็รองรับเขา รับรองเขาให้เขาอยู่ ให้เขาอาศัยอยู่แล้วเลี้ยงดู เขาช่วยงานอะไรได้ก็ช่วย ทำช่วยกัน ไม่ใช่ไปนั่งกินนอนกินบ้านเขาไม่ใช่ แล้วก็ไม่ใช่ไปเพื่อไปรับเงินเดือน ไม่ใช่อีก
สังเกตดูดีๆ สิ เปาโลพูดครั้งหนึ่งว่า วัวที่ทำงานอยู่ วัวที่ไถนาที่มันทำงานอยู่ ไม่มีใครเอาตะกร้าไปครอบปาก ต้องเอาออก แล้ววัวมันไถนาทำอะไรก็ตามต้องให้มันกินข้าว มันจะกินต้องให้มันกิน ใช้งานมันต้องให้มันกิน
ทีนี้พระเยซูก็บอกว่าไปไม่ต้องถืออะไรไปไม่ต้องเอาอะไรไป ไปถึงบ้านไหนไปพักบ้านนั้น ความหมายก็คือ อาจารย์ ผู้นำ ผู้รับใช้ ไม่มีเงินเดือน ไม่มีเงินเดือนอย่าเรียกว่าเป็นเงินเดือน อย่าเรียก เราไปไหน บ้านคริสเตียนที่มีใจ มีจิตใจกว้างขวาง มีจิตใจกว้างรับรองเลี้ยงดูผู้รับใช้คนนั้น รับรองเลี้ยงดูผู้รับใช้ ผู้รับใช้ก็ต้องไม่ขี้เกียจ ไม่ไปนั่งกินนอนกิน ต้องช่วยงาน ช่วยกัน ช่วยกันทำ ช่วยกันกิน ช่วยกันทำงาน นี่คือความหมายที่พระเยซูต้องการบอก
แต่ทุกวันนี้เขาแปลผิดไปหมดเลย เขาบอกว่าผู้รับใช้ต้องมีเงินเดือนกิน นั่งกินนอนกินไม่ต้องทำอะไร
"เตรียมงานรับใช้ เตรียมเขียนบทเรียนเทศนาคำสอนเท่านั้น งานข้ายิ่งใหญ่มากงานข้าหนักมากนะ"
ไม่ใช่แล้วไม่ใช่นะครับ ต้องช่วยกัน มีอะไรก็ทำช่วยกัน ล้างถ้วยล้างชามไม่มีใครทำก็ทำ ก็ผลัดกันทำ คือเราอยู่กันแบบพี่น้องแบบครอบครัว คริสตจักรไม่ใช่แต่เฉพาะโบสถ์สมาชิกโบสถ์ ไม่ใช่นะ แต่เป็นครอบครัวของพระเจ้า
บุตรพระเจ้าทำร่วมกันช่วยกันนะครับ ผมเองก็สังเกตดู เออไม่มีใครล้างถ้วยล้างชาม หรือไม่มีใครทำกับข้าว ไม่มีคนนี้ ผมก็อาจไปช่วยก็ได้ คือนิสัยของผู้รับใช้เราต้องมีนิสัยแบบนี้ คือต้องช่วย ไม่ว่าจะเป็นงานฝ่ายร่างกายหรืองานฝ่ายวิญญาณ อะไรก็แล้วแต่ช่วยกัน
อันนี้ไม่ใช่เงินเดือน คือเราไปบ้านไหนเราไปพักอยู่บ้านนั้น แล้วสมมุติว่าเสื้อผ้าไม่ต้องเตรียมอะไรไปมาก โอ้กระเป๋ายิ่งใหญ่กระเป๋า 2-3 กระเป๋า มีเต็นท์นอนมีอะไร ไม่!! คือไปมีอะไรก็นอนด้วยกัน เสื้อผ้าก็แบ่งกันใช้ หรือว่าถ้าเราเอาไป 2-3 ชุด ถ้ามันไม่หนักไม่ลำบากไม่แบกหนักเกินไปก็เอาไป คือยังไงก็แล้วแต่ให้มันสะดวกพูดง่ายๆ ก็คือพระเยซูบอกว่าให้คุณไปแบบสะดวกแค่นี้
...
ถาม.
ทำไมในพระคัมภีร์จึงพูดเรื่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องต่างชาติกับคนสะมาเรีย คนต่างชาติกับคนสะมาเรีย ในสายตาของคนยิวเขาเป็นอย่างไร
ตอบ.
สำหรับชาวยิว ชาวยิวถือว่าเขาเป็นบุตรพระเจ้า ถือว่าเขาเป็นคนพิเศษ ถือว่าเขาเป็นชนชาติที่พิเศษ ชนชาติบริสุทธิ์ที่พระเจ้าเลือก ชาวยิวจะมองต่ำมากมองชาติอื่นต่ำ ชาติอื่นเขาเรียกว่าสุนัข ชาวยิวจะเรียกชนชาติทั่วโลกทุกชาติว่าเป็นสุนัข คนยิวจะมองคนต่างชาติว่าเป็นสุนัข เราเป็นบุตรพระเจ้า เรายิ่งใหญ่ เราชนชาติบริสุทธิ์ พระเจ้าเลือกพวกเรา พวกเรามีเกียรติ อันนี้เป็นการพูดที่ผิด เป็นการพูดที่ดูถูกคนอื่น พระเจ้าเลือกเขาก็ดี แต่พระเจ้าไม่ได้ต้องการให้เขาพูดแบบนั้น
พระเจ้าต้องการให้เขาถ่อมใจ เป็นเพื่อนเป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน รักศัตรู รักเพื่อนบ้าน ทำดีกับเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ไปมองว่าเขาเป็นสุนัข แต่เขาคิดเองเขาพูดเองเขาถือแบบนั้น แล้วชนต่างชาติอีกอย่างหนึ่ง ชนต่างชาติส่วนมากเขาจะไม่เชื่อพระเจ้าไม่มีพระเจ้า แล้วชาวต่างชาติส่วนมากเขาจะเชื่อพระอื่นเขามีพระอื่น ทีนี้สำหรับชาวยิวก็ดูถูกเขาไปใหญ่เลย
แต่เรา เราขอบคุณพระเจ้า ที่เดี๋ยวนี้เราเป็นยิวฝ่ายวิญญาณ เป็นมนุษย์วิญญาณ เราเป็นชนชาติอิสราเอล เดี๋ยวนี้เราเป็นยิวเราเป็นชนชาติอิสราเอล เราจะไม่มองใครต่ำ เราจะไม่ดูถูกใคร แต่เรารักศัตรู รักเพื่อนบ้าน รักทุกคน เรามองทุกคนเท่ากันหมดเลย ไม่มีสุนัข เราจะไม่มองใครว่าเป็นพวกสุนัข ไม่มีนะครับ