สรุปข้อที่ 1 เรามีคำถามหรือข้อข้องใจไหมครับเกี่ยวกับเรื่องการรับใช้ ผู้รับใช้ ผู้เผยพระวจนะ คือคนงานของพระเจ้า จะต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติแบบไหน ลักษณะอย่างไร
ถาม.
อยากถาม คำว่า จากไป นี่คืออะไรค่ะ
ตอบ.
สำหรับผู้รับใช้ของพระเจ้า พระเจ้าเป็นคนกำหนด คือเรามีหน้าที่ ที่จะต้องถ่อมใจ และยอมรับ ไม่อวด ไม่แสวงหาความมีชื่อเสียง ความเด่นดีดัง แสวงหาตำแหน่งหน้าที่ แล้วก็ถึงเวลาก็ต้องไป ความหมายก็คือ ลงจากหน้าที่ ที่เราทำอยู่นะครับ
สรุปง่ายๆ ก็คือ ผู้รับใช้ต้องเป็นคนที่ถ่อมใจ และเป็นหนึ่งเดียวกับพี่น้อง เป็นหนึ่งเดียว
เป็นหนึ่งเดียว คืออย่างไร? เมื่อถึงเวลาที่เขาจะต้องหยุดการงานของเขา ก็คือเขายังรักพี่น้อง ยังอยู่กับพี่น้อง ยังร่วมสามัคคีธรรมรับใช้กับพี่น้องเหมือนเดิมนะครับ
เราดูที่ยอห์น (ยอห์นผู้ให้บัพติศมา) สำหรับยอห์นนะครับ ยอห์นต้องติดคุกใช่ไหม คือพระเจ้าเป็นคนกำหนด เป็นคนให้เขาติดคุก แล้วก็คือการตายของยอห์นเป็นการตายที่มีเกียรติ และเป็นการตายที่ยอห์นจะเป็นคนหนึ่งที่จะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าได้ เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงต้องให้เขาถูกจับและต้องตาย
เมื่อพระเยซูเสด็จมานะครับ มีสาวกหลายคนที่เป็นสาวกของยอห์น ไม่ยอมมาหาพระเยซู เพราะว่าคิดว่าเป็นคนละพรรคคนละฝ่าย แต่ในที่สุดนะครับยอห์นประกาศบอกว่าต้องไป พวกท่านต้องไปหาพระองค์ผู้นี้ ผู้ที่จะเป็นพระเมสิยาห์ ผู้จะเป็นผู้ที่จะมานั้น แต่หลายคนยังไม่ยอมนะครับ เหมือนกับทุกวันนี้ใช่ไหมมีหลายสำนัก มีหลายพรรค มีหลายเทพ มีหลายคณะ มีหลายกลุ่มนะครับ แล้วศิษย์ทั้งหลายส่วนมากก็รักเคารพอาจารย์ของเขา
แต่เนื่องจากว่าสำหรับพระเจ้านะครับ พระเจ้าไม่ยอมให้มี 2 พรรค 2 ฝ่าย มี 2 กลุ่ม แต่พระเจ้าต้องการให้ทุกคนที่เป็นคนของพระเจ้า เป็นหนึ่งเดียวกัน คือคนหนึ่งมา คนหนึ่งก็ต้องไป คนหนึ่งขึ้น คนหนึ่งก็ต้องลง คนหนึ่งเริ่ม คนหนึ่งก็ต้องจบ เมื่อพระเยซูเสด็จมายอห์นก็จบ
ผู้เผยพระวจนะในประวัติศาสตร์นะครับ ที่พระเจ้าส่งมา บางคนก็ต้องถูกฆ่าตาย บางคนก็ไม่ถูกฆ่าตาย แต่เขาก็จบการงานของเขา แล้วอีกไม่นานพระเจ้าก็ส่งคนใหม่มา เอเมน
สรุป ก็คือพระเจ้าต้องการให้เราเป็นคนที่ถ่อมใจ เป็นคนที่จะต้องเป็นหนึ่งเดียวกับพี่น้อง ไม่ใฝ่สูง ไม่คิดถึงเรื่องชื่อเสียงหน้าตา อยากเด่นดีดัง
คนที่ถ่อมใจมากเท่าไหร่ พระเจ้าก็จะยกเขาเอง แต่คนที่ยกเขาเองขึ้น พระเจ้าก็จะกดเขาลง
...
และสำหรับบทนี้นะครับ เราพบว่าผู้ที่ถ่อมใจ ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า จะได้รับของดีสิ่งดีจากพระเจ้า
เพราะฉะนั้นเราขอบพระคุณพระเจ้า เมื่อเราแสวงหาพระเจ้า เรารักพระเจ้า เรายอมแพ้ และพระเจ้าเปิดตาเราให้พบมานาฯ จากนั้นเราพบว่ามีสิ่งดี มีพระพร มีของดีมากมาย มากจนเกินที่เราจะคาดคิดใช่ไหม สันติสุขทุกวันเวลา การเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลง การดูแลปกปักรักษาคุ้มครอง การได้เข้าใจว่าทุกสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับเราในแต่ละวัน เป็นมาโดยแผนการงานของพระเจ้า พระเจ้าเป็นคนอนุญาต พระเจ้าเป็นคนทำบางครั้ง
เพราะว่าเมื่อเราต้องการที่จะเป็นคนเข้มแข็ง เป็นคนที่เข้มแข็ง พระเจ้าก็นำปัญหาเข้ามาให้เราได้เจอะได้เจอบ่อยมากๆ จนสุดท้ายเราเข้มแข็ง และโดยพระวิญญาณ โดยพระคริสต์ที่เป็นคนที่อยู่ในเราเป็นคนกระทำ และเราเองนะครับก็ได้ประสบการณ์ความเข้มแข็งนั้น เมื่อเราขออะไรเราก็จะได้รับสิ่งนั้น ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับประสบการณ์เนื่องด้วย ความยำเกรงของเราที่เคยมีในเมื่อก่อน เอเมน
สำหรับข้อที่ 3 นะครับ สำหรับพวกเราคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ ผู้ที่ได้รับการเปิดตาเราถ่อมใจเราไม่ถกเถียงกับใครว่า ผมถูกคุณผิด อันนี้เราจะไม่ใช้คำนี้ เราไปไหนก็จะไม่ชี้ว่าคุณนี้ผิด คุณนี้ผิด คุณผิดน่ะ เราจะไม่ใช้คำนี้ครับ เพราะว่านี่คือการที่จะตั้งตนเองเป็นศาลเป็นเจ้าหน้าที่เป็นตำรวจ
เราผู้เชื่อเป็นมนุษย์ฝ่ายวิญญาณ เราไปทุกที่เราสำแดงความรัก เราพูดกับใครเราสำแดงความรัก ใครจะผิดอะไรผิดยังไงเราไม่พูด ไม่พูดนะครับ คือเราสำแดงความรัก ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นค ช่วยเขาเปิดตาเขาเองนะครับ
...
และข้อที่ 4 ก็คือ นี่คือจุดเริ่มต้นของมันมนุษย์คนที่ 2
มนุษย์คนที่ 2 ก็คือพระเยซู เป็นคนแรกเป็นผลแรก ของเผ่าพันธุ์ใหม่ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา เรียกว่ามนุษย์วิญญาณ และพระเยซูเองนะครับเป็นผู้ที่ได้รับร่างกายที่ไม่เปื่อยเน่าเป็นคนแรก และเป็นตัวอย่างเป็นแบบอย่างที่เราจะมีโอกาสได้รับมีความหวังจะได้รับในอนาคตแน่นอนครับ ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับร่างกายใหม่ ที่ไม่ต้องป่วยไข้เจ็บตายไม่ต้องเป็นอะไรอีกแล้วนะครับ เป็นกายทิพย์เป็นกายใหม่ สรรเสริญพระเจ้า
...
มาถึงข้อที่ 5 ก็คือ พระเมตตาความเมตตาของพระเจ้า พระเจ้านะครับมีความรัก พระเจ้ามีความเมตตา มีความสงสารต่อมนุษย์ และความรักความเมตตาเหล่านี้ ความสงสารเหล่านี้ ถ่ายทอดมาถึงพวกเราโดยพระเยซูคริสต์เป็นคนนำมา
ตอนแรกนะครับพระเจ้ารักดาวิด กษัตริย์ดาวิดนะครับ ท่านเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า และพระเจ้าสัญญากับดาวิดว่าจะให้ความเมตตาความสงสารอันแน่นอน มาถึงท่าน และสุดท้ายนะครับขอบพระคุณพระเจ้า ความเมตตาความสงสารเหล่านั้น ก็คือพระคุณโดยพระคริสต์ที่นำมาและลูกหลานของดาวิด ก็คือพวกเราทุกวันนี้นี่แหละ เอเมนขอบคุณพระเจ้า
เราจำกันได้ดีใช่ไหมว่า เราเป็นยิวฝ่ายวิญญาณ ครั้งแรกก็คือเอาพระคุณมาให้ชาวยิว แต่ชาวยิวมากมายก็ไม่ยอมรับ จนสุดท้ายพระเจ้ายกตำแหน่งยกสถานะการเป็นชนชาติอิสราเอลฝ่ายวิญญาณมาถึงพวกเราที่เป็นคนต่างชาติ และพระคุณก็มาถึงพวกเราด้วย สรรเสริญพระเยซู
...
ข้อที่ 6 สุดท้าย สำคัญมากนะครับ ก็คือ กิจการบทที่ 13 ข้อที่ 39 และโดยพระองค์นั้นทุกคนที่เชื่อก็ถูกนับว่าชอบธรรมจากสิ่งสารพัด (จากสิ่งสารพัดเลยนะครับ ก็คือทุกสิ่ง) ซึ่งจากสิ่งเหล่านั้นพวกท่านไม่สามารถถูกนับว่าชอบธรรมโดยพระราชบัญญัติของโมเสส สำหรับภาษาอังกฤษนะครับ ถูกนับว่าชอบธรรม ภาษาอังกฤษใช้คำว่า justified / justified หรือ justification เราเคยได้เรียนคำนี้กันแล้วใช่ไหมครับ
คือโดยพระองค์นั้นทุกคนที่เชื่อ ก็ถูกทำให้เป็นคนที่พระเจ้าพอใจ justified ก็คือพอใจ พระเจ้าพอใจในมนุษย์ทุกคนถึงแม้เขาจะบาปชั่วมากมายเท่าไหร่ แค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อเชื่อในพระเยซูคริสต์ รับว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า และรับว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา สถานะคนชอบธรรมก็จะมา เพราะว่า พระเจ้าพอใจพวกเขา
เมื่อเราเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า และพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเจ้าก็จะมองมาที่เรา และไม่เห็นความบาปชั่วอีกต่อไป เพราะว่าพระเจ้าพอใจเรา พอใจเพราะอะไร? เพราะเราเชื่อในพระบุตรของพระองค์ เอเมน เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ เราจึงกลายเป็นคนชอบธรรม เพราะว่าพระเจ้าพอใจ
และเมื่อก่อน ในยุคพระบัญญัติ ก็คือทุกคนที่จะเป็นที่พอใจของพระเจ้าได้ ก็คือต้องเชื่อฟังพระเจ้า เชื่อฟัง รักษาพระบัญญัติโดยพระบัญญัตินะครับ จึงทำให้พระเจ้าพอใจ ต้องรักษาพระบัญญัติ 10 ประการ และอีก 200 กว่าข้อ เป็นการกระทำเป็นภาระที่หนักมาก เป็นแอกที่หนักมากเขาต้องแบกหนักมากๆ สำหรับชาวยิว เพื่อที่จะให้พระเจ้าพอใจ
แต่มันเปลี่ยนไปแล้วทุกสิ่งผ่านไปแล้ว เนื่องมาจากความเมตตาความสงสารของพระเจ้า ความรักของพระเจ้า ทำให้ยุคนี้กลายมาเป็นยุคพระคุณ โดยพระเยซูคริสต์เป็นคนกระทำทั้งหมด และยกเครดิตให้พวกเรา ทำให้พระเจ้าพอใจพระเยซูและพระเจ้าก็พอใจพวกเราด้วย เพราะว่าพวกเราอยู่ในพระคริสต์ เอเมน
ถ้ามีคนจะมาสอนเราหรือบอกเรานะครับว่าคำสอนนี้ผิด ไม่มีใครที่จะชอบธรรมโดยเชื่อเท่านั้น เชื่อต้องรักษาพระบัญญัติ เชื่อต้องรับบัพติศมา เชื่อต้องรักษา 10 ข้อ พระบัญญัติ 10 ประการ แล้วเชื่อต้องเชื่อฟัง เชื่อต้องไม่ทำบาป เชื่อต้องเลิกทุกสิ่งเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ เลิกอะไรทันที ไม่งั้นไม่รอด หรือถ้าเชื่อไปแล้วเนี่ยรักษาชีวิตไม่บริสุทธิ์ ก็จะไม่รอดเหมือนกัน อันนี้เป็นคำสอนที่ไม่สอดคล้อง ไม่ตรงกับกิจการ บทที่ 13 ข้อที่ 39 เพราะว่าข้อนี้นะครับบอกว่าพระเจ้าพอใจคนที่เชื่อในพระบุตรของพระองค์ เอเมน
และเราจำกันได้ดีใช่ไหม เอเฟซัส บทที่ 2 ข้อที่ 8 ข้อที่ 9 ความรอดเป็นของขวัญที่พระเจ้าให้แก่ท่าน ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับการปฏิบัติเลย เพื่อที่จะไม่มีผู้ใดอวดได้ สรรเสริญพระเยซูวันนี้ความรอด การกลายเป็นคนชอบธรรม และชีวิตที่พระเจ้ามองมาแล้วพระเจ้าพอใจ เพราะว่าเราเชื่อในพระบุตรของพระองค์ สรรเสริญพระเยซู
เราขอบพระคุณพระเจ้าที่เราเกิดมาครั้งเดียว และมีศาสนามากมายเต็มโลก แต่เป็นพระคุณพระเจ้าที่พระองค์เมตตาเรา นำเรามาถึงความจริง นำเรามาถึงพระเจ้าพระผู้สร้างจักรวาล พระเจ้าองค์สูงสุด เราสรรเสริญพระเจ้าแบบที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพราะว่านี่คือพระคุณอันล้นเหลือของพระองค์
และขอบพระคุณพระเจ้าที่มนุษย์มีเกิดแก่เจ็บตาย แต่เรานะครับ ขอบพระคุณพระเจ้า ที่ถึงแม้ว่าร่างกายวันนี้จะเปื่อยเน่าเหมือนกษัตริย์ดาวิด แต่โดยทางความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ที่พระองค์ประทานความหวังและสัญญากับพวกเราว่า ร่างกายพวกเราในอนาคตจะไม่เปื่อยเน่าอีกต่อไป เมื่อพระองค์เสด็จมา
การมีชีวิตอมตะ การมีชีวิตที่มีความสุขทุกวันเวลา เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนในโลกนี้แสวงหาต้องการ
แต่ขอบพระคุณพระเจ้าสองสิ่งนี้นะครับ ก็คือ ความสุข สันติสุขทุกวันทุกเวลา พระองค์ประทานให้เราแล้วในเรา นั่นก็คือพระคริสต์นี่เอง
และสิ่งที่สอง ก็คือ ขอบพระคุณพระเจ้า ที่ร่างกายของเราจะไม่เปื่อยเน่าเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา เราจะเป็นอมตะ และจะอยู่กับพระองค์ตลอดชั่วนิรันดร์ ขอบพระคุณพระเยซู สรรเสริญพระเยซูเรารักพระเยซู เอเมน
มีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่งนะครับที่คนญี่ปุ่นเล่าขานกันมานาน คือเรื่องของต้นกำเนิดของประเทศญี่ปุ่น คือญี่ปุ่นเป็นมายังไงนะครับ ซึ่งเมื่อก่อนก็คือมีกษัตริย์องค์หนึ่งที่อยู่ประเทศจีนอยู่แผ่นดินจีน แล้วปรากฏว่ามีอำมาตย์เป็นคนที่ใกล้ชิดกษัตริย์ ไปไหนมาไหนนะครับก็ไปด้วยกัน แล้วปรากฏว่ากษัตริย์ต้องการที่จะประพาสป่า เขาก็ออกเดินทางไปมีคนติดตามมีนายทหารเต็ม ติดตามกษัตริย์ไปด้วย
แล้วปรากฏว่ามีอยู่วันหนึ่ง นกมันบินผ่านแล้วก็มันคาบหญ้าเพื่อที่จะไปทำรัง แต่กษัตริย์ไม่เคยเห็นนะครับไม่เคยเห็น เป็นครั้งแรก ก็เลยถามมหาอำมาตย์ว่า มันคืออะไร แล้วเนื่องจากว่ามหาอำมาตย์ต้องการที่จะเป็นใหญ่และอยากชิงบัลลังก์ แต่ด้วยความที่กษัตริย์องค์นี้มีทหารมีนายทหารมากมาย แล้วก็มีคนที่คุ้มกันหนาแน่น ซึ่งอาจจะเสี่ยงที่จะต้องจัดการกับเขาในเวลาที่อยู่ในวัง แล้วมันเป็นการยากที่จะชิงบัลลังก์จากกษัตริย์
มหาอำมาตย์ก็เลยนึกออกนะครับว่า จะทำอะไรดีจะทำยังไงดี มหาอำมาตย์ก็ตอบนะครับว่านกที่มันคาบหญ้า หญ้าที่มันคาบก็คือหญ้าที่เป็นรากไม้ ที่กินแล้วจะมีชีวิตอมตะ มีร่างกายที่ไม่เปื่อยเน่า กษัตริย์ก็ตื่นเต้นนะครับบอกว่าอยากได้ อยากมีชีวิตที่เป็นอมตะ มีร่างกายที่ไม่เปื่อยเน่า
แล้วมาหาอำมาตย์ก็บอกว่างั้นขอกำลังพล คน เสบียง อาหาร เพื่อที่จะเดินทางไปในดินแดนที่นกมันบินไปแล้วก็จะไปเอารากหญ้ารากไม้ที่กินแล้วร่างกายไม่เปื่อยเน่ามาให้พระองค์ กษัตริย์ก็ยอมนะครับเเล้วก็ปล่อยให้เขาไป
เขาก็เลือกคนที่ฉลาดที่สุด เก่งที่สุด แข็งแรงที่สุด ไปกับเขา หลายร้อยคนนะครับ แล้วสุดท้ายก็เดินทางไป เดินทาง ล่องเรือ ข้ามไปถึงเกาะหนึ่ง แล้วก็ไปอาศัยอยู่ที่นั้น จากนั้นเขาก็สร้างอาณาจักรของเขาเอง จนทุกวันนี้นะครับเรียกว่าประเทศญี่ปุ่น แล้วกษัตริย์องค์นั้นก็ไม่มีโอกาสได้รับรากไม้ที่จะกินเพื่อที่จะไม่ให้ร่างกายเปื่อยเน่า จริงๆ แล้วมันเป็นการโกหกเพื่อที่จะหนีจากอาณาจักร จากการครอบครองของอาณาจักรของกษัตริย์นะครับ
เราขอบพระคุณพระเจ้าการที่จะกลายเป็นคนที่มี ร่างกายอมตะ มีกายทิพย์ มีกายใหม่ เราไม่ต้องไปหารากไม้ที่ไหน ไม่ต้องไปหาอะไรนะครับในโลกนี้มันไม่มีนะครับ บอกว่ากินแล้วอายุยืน กินแล้วตายไม่ได้ มันไม่มีแล้วครับไม่มีแน่นอน เนื่องจากว่าโลกนี้เป็นโลกที่เสื่อมทรามตกต่ำไม่มีอะไรที่ดีแล้ว จะช่วยให้มนุษย์เป็นอมตะไม่ได้แล้วนะครับ
และความหวังของเราอยู่ที่พระเยซู พระเยซูนั่นแหละคือรากไม้ เปรียบเสมือนเปรียบเทียบนะครับ ขอบพระคุณพระเจ้าเรามีสันติสุขทุกเวลา เมื่อเราอยู่ในพระคริสต์ สนิทในพระองค์ บอกรักพระองค์
และเราจะมีร่างกายใหม่ เมื่อพระเยซูเสด็จมา ขอบพระคุณพระเยซู เอเมน
And by him all that believe are justified from all things, from which ye could not be justified by the law of Moses. justified = พอใจ
ขอบพระคุณพระบิดาที่พระองค์รักพวกเรา ความเมตตาสงสารอันแน่นอนของดาวิด มาถึงพวกเราโดยพระเยซูคริสต์
ขอบพระคุณพระบิดาที่พระองค์ประทานความรอด ประทานสันติสุข ประทานพระพรทุกประการแก่พวกเราโดยพระเยซูคริสต์
และขอบพระคุณพระองค์ ที่พระองค์พอใจในชีวิตของพวกเรา พระองค์พอพระทัยในตัวพวกเรา โดยที่พวกเราอยู่ในพระคริสต์ซ่อนอยู่ และพระองค์เป็นผู้ที่ปกปิดพวกเรา แล้วทำให้เรากลายเป็นคนชอบธรรมโดยทางความเชื่อ เรารอดแล้ว เรามีสันติสุขแล้ว เราอยู่ในสะบาโตของพระเยซูแล้ว เรามีทุกสิ่งที่ต้องการเพื่อที่จะใช้เพื่อดำเนินชีวิตในโลกนี้แล้ว และพระองค์วางแผนการงานของพระองค์สำหรับทุกๆ คน เป็นไปตามกำหนดเวลาของพระองค์
พระเยซูพวกเรานำสิ่งหนึ่งที่มาถวายแด่พระองค์ในวันนี้ ก็คือความรัก พระเยซูพวกเรารักพระองค์ รักจากหัวใจ เอเมน