3:1 บัดนี้เปโตรกับยอห์นขึ้นไปพร้อมกันจะเข้าไปในพระวิหารในเวลาอธิษฐาน โดยเป็นเวลาบ่ายสามโมง
** พระเจ้ายกเลิกแต่คริสเตียนยิวไม่รู้ สำหรับพระเจ้า เมื่อผ้าม่านที่พระวิหารถูกฉีกขาดแล้ว พระองค์ทรงออกจากพระวิหาร พระสัญญาเดิมจบลง และพระบัญญัติเดิมของศาสนายิวก็ไม่มีส่วนอะไรกับพระสัญญาใหม่และพระบัญญัติใหม่
- คริสเตียนถูกสร้างให้นมัสการในวิญญาณ ร่วมกันตามบ้านเรือนและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความเชื่อเดิมของพวกยิวอีกต่อไป แต่เนื่องจากเปโตร ยอห์นและสาวกทั้งหลายไม่เข้าใจ พวกเขาจึงยังขึ้นไปที่พระวิหารเพื่อนมัสการ อธิษฐาน (การยังไปร่วมของคริสเตียนกับศาสนายิวจำนวนมากยืดเยื้อนานไปจนถึง ค.ศ. 70 เมื่อพระวิหารถูกทำลาย จึงไม่มีการนมัสการที่พระวิหารอีก)
** ปัญหาของคริสเตียนมากมายทุกวันนี้ก็คือยังรัก เคารพ อธิษฐานเผื่อ และถือว่าชาวยิวเป็นชนชาติของพระเจ้า คริสเตียนยังรักษาพระบัญญัติเดิมควบคู่ไปกับพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู แต่คิดแค่ว่าพระบัญญัติใหม่นั้นคือพระบัญญัติเดิมที่ย่อเหลือแค่สองข้อคือรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจและรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง (รักเพื่อนบ้านสำหรับยิว ก็คือบ้านที่อยู่รอบ ๆ ของบ้านเขาเอง)
- คริสเตียนไม่รู้ว่าพระบัญญัติของพระเยซู คือการประกาศสั่งสอนในกิตติคุณสี่เล่ม และจดหมายฝากของอัครสาวกที่พระวิญญาณดลใจให้เขียน
3:2 และมีชายคนหนึ่งเป็นง่อยตั้งแต่ครรภ์มารดา ผู้ซึ่งพวกคนวางไว้ที่ประตูของพระวิหารทุกวัน ๆ ซึ่งถูกเรียกว่า ประตูงาม เพื่อขอทานจากคนทั้งหลายที่กำลังเข้าไปในพระวิหาร
3:3 ผู้ซึ่งเมื่อเห็นเปโตรกับยอห์นกำลังจะเข้าไปในพระวิหารก็ขอทาน
3:4 และเปโตร ซึ่งเพ่งดูเขาพร้อมกับยอห์น กล่าวว่า “จงดูที่พวกเราเถิด”
3:5 และคนขอทานนั้นให้ความสนใจแก่พวกท่าน โดยคาดหวังว่าจะได้รับบางสิ่งจากพวกท่าน
3:6 แล้วเปโตรกล่าวว่า “เงินและทองคำข้าพเจ้าไม่มี แต่ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ข้าพเจ้าจะให้ท่าน ในพระนามของพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ จงลุกขึ้นและเดินไปเถิด”
** เมื่อเปโตรและยอห์นเดินเข้าประตูพระวิหาร ขอทานเห็นเขาทั้งสองก็ขอจากพวกท่าน เปโตรบอกให้ขอทานดูพวกท่าน ขอทานจึงคิดในใจว่าจะได้อะไรบางอย่างจากพวกท่าน แต่เปโตรกล่าวว่า เงินและทองคำข้าไม่มี มีแต่จะรักษาอาการง่อยให้หายในพระนามพระเยซู
** “เงินและทองคำข้าไม่มี” คริสเตียนอาจมีฐานะเรื่องการเงิน/การงานไม่เท่ากัน และผู้เชื่อมากมายอาจจะยังยากจนอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญ คือเราทุกคนมั่งมีในข่าวประเสริฐ มั่งมีในชีวิตที่ครบบริบูรณ์ของพระคริสต์ มั่งมีในพระพรฝ่ายวิญญาณ มั่งมีในสันติสุข มั่งมีในฤทธิ์เดชและพลังอำนาจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเยซูเทลงมาบนเรา
- พระเจ้าจึงต้องการให้เราแบ่งปันความมั่งมีในฝ่ายวิญญาณนี้ เพื่อคนที่ยากจนในฝ่ายวิญญาณ แล้วพระเจ้าจะประทานสิ่งทั้งปวงเพื่อการอยู่กินใช้จ่ายให้
- เมื่อเราก่อตั้งคริสตจักรหรือพระกายเที่ยงแท้ของพระเยซู อย่าให้คริสตจักรดูมั่งมีในเงินและทองคำ ตึกอาคารสวยหรู สร้างใหญ่โตเน้นที่ความสวยงามเหมือนอย่างศาสนาคริสต์ พระเจ้าไม่ต้องการดอกไม้สวยงามในแจกัน และความสวยงามของตึกอาคารสถานที่
- สิ่งที่พระเจ้าให้ผู้เชื่อสำแดง ก็คือความมั่งมีของชีวิตพระคริสต์ สันติสุข พระคำแห่งความจริง ความรักด้วยน้ำใสใจจริง ไม่หวังเกียรติชื่อเสียงหน้าตา ให้ด้วยไม่หวังสิ่งตอบแทน
3:7 และเปโตรจับมือขวาของเขา และพยุงเขาขึ้น และในทันใดนั้นเท้าและข้อเท้าของเขาก็ได้รับกำลัง
3:8 และเขากระโดดขึ้นยืนและเดิน และเข้าไปในพระวิหารพร้อมกับท่านทั้งสอง โดยเดิน และเต้นโลด และสรรเสริญพระเจ้า
3:9 และประชาชนทุกคนเห็นเขากำลังเดินอยู่และสรรเสริญพระเจ้า
3:10 และเขาทั้งหลายทราบว่าเป็นคนนั้นซึ่งนั่งขอทานอยู่ที่ประตูงามของพระวิหาร และเขาทั้งหลายเต็มไปด้วยการอัศจรรย์ใจและความประหลาดใจในสิ่งซึ่งได้เกิดขึ้นแก่คนนั้น
3:11 และขณะที่คนง่อยซึ่งได้รับการรักษาให้หายนั้นยังยึดเปโตรและยอห์นอยู่ ประชาชนทุกคนก็วิ่งพร้อมกันมายังพวกท่านในเฉลียงพระวิหารที่เรียกว่า เฉลียงของซาโลมอน ต่างมีความอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
** เปโตรเป็นอัตรสาวกที่ได้รับของประทานในการรักษาโรค ท่านจึงช่วยหลายคนให้หายดีและกลับใจเชื่อ ในสมัยนั้น การหายโรคโดยฤทธิ์เดชของพระเจ้าเริ่มมีมากขึ้นและเป็นที่แปลกประหลาดและอัศจรรย์ใจต่อชาวยิว
- ทุกวันนี้ ผู้เชื่อได้รับพระวิญญาณทั้งภายในและภายนอก เราจึงมีโอกาสที่จะสำแดงความมั่งมีของชีวิตพระคริสต์ และความมั่งมีในฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ไปพร้อมๆ กัน แต่น่าเสียดายที่ผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ได้มีประสบการณ์การเต็มล้นภายนอกเท่านั้นและไม่มีโอกาสมาถึงประสบการณ์การเต็มล้นภายใน ขอพระบิดาใช้เราเพื่อที่จะเปิดตาพวกเขาให้อยู่ในความมั่งมีฝ่ายวิญญาณทั้งสองด้าน คือนอกและใน
1. คริสเตียนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับศาสนาไม่ว่ามากหรือน้อยก็ตาม เราไม่ให้ความเคารพและยกเขาขึ้น
2. การก่อตั้งคริสตจักร เราไม่เน้นที่การสะสมเงินทองสิ่งของ สร้างตึกอาคารสวยหรู ให้ดูมั่งมีกว่าใครแต่เราเน้นที่ความมั่งมีในชีวิตพระคริสต์ สันติสุข พระพรฝ่ายวิญญาณ การช่วยเหลือพี่น้องที่ขัดสนด้วยน้ำใสใจจริง ข่าวประเสริฐ และฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์
• “พระกายเนื้อหนังและพระกายวิญญาณ”
หนังสือกิจการไม่ใช่เรื่องราวการแพร่ขยายของศาสนาคริสต์ แต่ควรที่จะเป็นเรื่องราวของการแพร่ขยายของพระกายเที่ยงแท้ที่สำแดงพระคริสต์และฤทธิ์เดชของพระคริสต์เยซูสืบต่อมาจากพระเยซูคริสต์ในกิติคุณสี่เล่ม ซึ่งเปาโลเป็นคนแรกที่เห็นและนำผู้เชื่อบางส่วนดำเนินชีวิตคริสตจักรตามน้ำพระทัย
• “เกิดมาเพื่อเชื่อมต่อติดกับพระคริสต์”
ชีวิตที่บังเกิดใหม่ เป็นชีวิตที่กำหนดให้เชื่อมต่อกับพระเจ้าหรือพระคริสต์ในเรา ปราศจากพระองค์เราทำอะไรไม่ได้ (พระเจ้าไม่รับ) เราเองก็จะเหี่ยวแห้งภายใน
• “สองสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเชื่อมต่อติดกับพระคริสต์ (ในเรา)”
ชีวิตที่กำหนดให้เชื่อมต่อกับพระคริสต์ คือการได้เต็มล้นทั้งภายในและภายนอก
• “มั่งมีในพระคริสต์”
อย่าเป็นคริสตจักรที่รับเงิน-ทองคำสิ่งของเข้าง่ายแต่ออกยาก อย่าใช้จ่ายเพื่ออาคารสถานที่ แต่ให้เราเน้นที่การใส่ใจความยากจนขัดสนของพี่น้อง หญิงม่ายและเด็กกำพร้า ยิ่งเราให้พระเจ้าก็เพิ่มให้ยัดสั่นแน่นพูนล้น เราแบ่งปันสันติสุขที่ไม่กระหาย ความรอดในวันสุดท้ายและอาณาจักร เพื่อคนที่สิ้นหวังจะเข้าสู่ความมั่งมีของชีวิตพระคริสต์
3:12 และเมื่อเปโตรเห็นอย่างนั้น ท่านก็ตอบแก่ประชาชนว่า “พวกท่าน คนอิสราเอลทั้งหลาย ไฉนพวกท่านประหลาดใจในสิ่งนี้ หรือไฉนพวกท่านจึงมองพวกเราอย่างจริงจังเล่า เหมือนกับว่าโดยฤทธิ์หรือความบริสุทธิ์ของพวกเราเอง พวกเราได้ทำให้คนนี้เดินได้
** การประกาศของเปโตรครั้งแรกก็คือในวันเพนเทคอสมีลูกหลานชาวยิวประมาณสามพันคนกลับใจ และครั้งนี้ท่านประกาศกับชาวยิวที่บริเวณเฉลียงพระวิหาร ซึ่งเป็นถิ่นของพวกผู้นำศาสนายิว และทหารยิวที่รักษาพระวิหาร
** การประกาศจะเกิดผลก็ต่อเมื่อเราประกาศกับคนทั่วไป แต่การประกาศกับผู้นำศาสนา และมีหลายคน เราควรที่จะหลีกเลี่ยงนอกเสียจากว่าพระเจ้าทรงนำเราจริงๆ
** เมื่อผู้คนเห็นเปโตรรักษาโรคก็ตื่นตระหนก และประหลาดใจว่าท่านได้รับฤทธิ์เดชได้อย่างไร เปโตรจึงกล่าวว่าเป็นฤทธิ์เดช หรือความบริสุทธิ์ของพระเจ้าผ่านการเชื่อวางใจในพระเยซูพระบุตรพระเจ้า
3:13 พระเจ้าของอับราฮัม และของอิสอัค และของยาโคบ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกเรา ได้โปรดประทานสง่าราศีแด่พระเยซูพระบุตรของพระองค์ ผู้ซึ่งพวกท่านได้มอบไว้แล้ว และได้ปฏิเสธพระองค์ต่อหน้าปีลาต เมื่อเขาตั้งใจจะปล่อยพระองค์ไป
** เปโตรอ้างถึงอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ เนื่องจากว่าชาวยิวเคารพ และให้เกียรติซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา บวกกับการอัศจรรย์ที่ท่านได้ทำ เพื่อชาวยิวอาจจะยอมฟังบ้าง ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนที่ได้ปฏิเสธพระองค์ก็ตาม แต่ปัญหาก็คือเปโตรเอ่ยถึงพระเยซูในฐานะพระเจ้าพระบุตร หรือพระบุตรพระเจ้า ที่เท่าเทียมกับพระบิดา ทำให้ผู้นำศาสนายิวที่พระวิหารไม่พอใจ (กิจการ บทที่ 4)
3:14 แต่พวกท่านได้ปฏิเสธองค์บริสุทธิ์และชอบธรรม และปรารถนาให้ฆาตกรคนหนึ่งถูกมอบไว้แก่พวกท่าน
** ผู้นำทางการเมืองที่ปกครองอิสราเอลทั้งกษัตริย์เฮโรด และเจ้าเมืองปีลาตต่างก็ไม่พบว่าพระเยซูมีความผิด พระองค์บริสุทธิ์ และชอบธรรม แต่ผู้นำฝ่ายศาสนาต่างหากที่มองว่าพระองค์มีความผิด
เราพบว่าทุกวันนี้สงครามระหว่างพี่น้องคริสเตียน คือปัญหา และใช้ผู้นำทางการเมือง เพื่อกำจัดอีกฝ่ายที่ตนไม่ชอบ และไม่ทำลายผู้ที่ตนชอบ และไม่สนใจว่าใครถูกใครผิด
สำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ เรารักทุกคนทุกคณะนิกาย และไม่ตำหนิใคร เพียงแต่ว่าเราพูดความจริง เพื่อเตือนสติถ้าหากพี่น้องศาสนาเดินในทางแห่งการไม่ชอบธรรมและบริสุทธิ์ ซึ่งบางครั้งเราอาจจะหลีกเลี่ยงการข่มเหงไม่ได้
3:15 และได้ฆ่าผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งชีวิตเสีย ผู้ซึ่งพระเจ้าได้โปรดให้เป็นขึ้นมาจากตายแล้ว พวกเราเป็นพยานในเรื่องนี้
** “เจ้าแห่ง…” ภาษากรีกคือ ผู้นำ ผู้พบ เจ้าชาย ἀρχηγός, οῦ, ὁ ความหมายในที่นี้ก็คือ พระเยซูเป็นพระเจ้าพระบุตร ผู้สมควรแก่การเป็นเจ้านาย เจ้าชาย ผู้นำที่มีชีวิตที่ทุกคนควรติดตามพระองค์ไป
** ข้อที่ 15 นี้เปโตรพูดถึงพระเจ้า Theos ทรงชุบชีวิตพระเยซู หนังสือกาลาเทีย 1:1 กล่าวว่าพระบิดาทรงชุบชีวิตพระเยซู ยอห์น บทที่ 2:9 และ 10:18 กล่าวว่าพระเยซูจะเป็นคนทำให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายเหมือนอย่างที่พระองค์ทำให้พระองค์เองตายบนกางเขน และใน 1 เปโตร 3:18 กล่าวว่าพระวิญญาณทรงชุบชีวิตพระเยซูให้เป็นขึ้นมาจากตาย (สรุปก็คือ พระเจ้าทั้งสามพระภาคร่วมกันชุบชีวิตเยซูให้เป็นขึ้นมาจากตายนั่นเอง)
3:16 และพระนามของพระองค์โดยทางความเชื่อในพระนามของพระองค์นั้น ได้กระทำให้ชายผู้นี้มีกำลังขึ้น ผู้ซึ่งพวกท่านเห็นและรู้จัก ใช่แล้ว ความเชื่อนั้นซึ่งเป็นไปโดยพระองค์ได้ประทานให้คนนี้หายปกติอย่างสมบูรณ์แบบต่อหน้าพวกท่านทุกคน
** ความเชื่อเป็นสิ่งเดียวที่พระเจ้าทำกิจทั้งการงานภายในและภายนอกของผู้เชื่อ การรักษาโรคเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากความเชื่อ และพระเยซูเป็นผู้รับแบกความเจ็บไข้ที่กางเขนแล้ว ทั้งความผิดบาปทั้งหมดทั้งมวลของมนุษย์โลก
3:17 และบัดนี้ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบว่าพวกท่านได้กระทำสิ่งนั้นโดยขาดความรู้ เหมือนอย่างคณะผู้ครอบครองของพวกท่านด้วย
** ในวันที่พระเยซูถูกนำไปยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าเมืองปีลาต พวกยิวที่โห่ร้องขอให้ปีลาตประหารพระเยซู พวกเขาไม่เข้าใจ และเชื่อฟังผู้นำศาสนายิวที่ประกาศไปทั่วว่าพระเยซูกระทำความผิดที่ร้ายแรง (มธ 27) วันนี้เปโตรจึงกล่าวโดยพระวิญญาณว่า พวกเขาไม่เข้าใจ และพระเจ้าพร้อมที่จะอภัยให้พวกเขาถ้าหากกลับใจเสียใหม่ และติดตามพระเยซู
3:18 แต่สิ่งเหล่านั้น ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสำแดงล่วงหน้าโดยปากของศาสดาพยากรณ์ทุกคนของพระองค์ว่า พระคริสต์จะทรงทนทุกข์ พระองค์ได้ทรงให้สำเร็จตามนั้นแล้ว
** มีคำทำนายเรื่องการทนทุกข์ของพระคริสต์ใน อิสยาบทที่ 5:32-12
53:2 เพราะท่านจะเจริญขึ้นต่อพระพักตร์พระองค์อย่างต้นไม้อ่อน และเหมือนรากแตกหน่อมาจากพื้นดินแห้ง ท่านไม่มีรูปร่างหรือความสวยงาม และเมื่อพวกเราจะเห็นท่าน ไม่มีความงามที่พวกเราจะพึงปรารถนาท่าน
53:3 ท่านถูกเหยียดหยามและถูกปฏิเสธโดยมนุษย์ เป็นคนแห่งความเศร้าโศกทั้งหลาย และคุ้นเคยกับความระทมทุกข์ และพวกเราทำเหมือนได้ซ่อนหน้าตาของพวกเราไว้จากท่าน ท่านได้ถูกเหยียดหยาม และพวกเราไม่ได้นับถือท่าน
53:4 แน่ทีเดียวท่านได้แบกความระทมทุกข์ของพวกเรา และหอบความเศร้าโศกทั้งหลายของพวกเราไป ถึงกระนั้นพวกเราก็ยังถือว่าท่านถูกตี ทรงถูกโบยตีจากพระเจ้า และถูกข่มใจ
53:5 แต่ท่านได้รับบาดแผลเพราะบรรดาความละเมิดของพวกเรา ท่านได้รับความฟกช้ำเพราะบรรดาความชั่วช้าของพวกเรา การตีสอนแห่งสันติสุขของพวกเราได้ตกอยู่บนท่าน และด้วยรอยเฆี่ยนทั้งหลายของท่าน พวกเราก็ได้รับการรักษาให้หาย
53:6 พวกเราทุกคนเหมือนแกะได้หลงเจิ่นไป พวกเราทุกคนได้หันไปตามทางของตนเอง และพระเยโฮวาห์ทรงวางบรรดาความชั่วช้าของพวกเราทุกคนลงบนท่านแล้ว
53:7 ท่านได้ถูกบีบบังคับ และท่านได้ถูกข่มใจ ถึงกระนั้นท่านก็ไม่ได้อ้าปากของท่าน ท่านถูกนำไปเหมือนลูกแกะสู่การฆ่า และเหมือนแกะต่อหน้าพวกผู้ตัดขนของมันเป็นใบ้อยู่ฉันใด ท่านก็ไม่อ้าปากของท่านเลยฉันนั้น
53:8 ท่านได้ถูกนำไปจากคุก และจากความยุติธรรม และผู้ใดเล่าจะประกาศพงศ์พันธุ์ของท่าน เพราะท่านได้ถูกตัดออกไปจากแผ่นดินของคนเป็น เพราะเหตุการละเมิดของประชากรของเรา ท่านจึงได้ถูกตี
53:9 และท่านได้จัดหลุมศพของท่านไว้กับคนชั่ว และกับเศรษฐีในความตายของท่าน เพราะว่าท่านไม่ได้กระทำการทารุณประการใดเลย และไม่มีการหลอกลวงใด ๆ ในปากของท่าน
53:10 แต่ก็ยังเป็นที่พอพระทัยของพระเยโฮวาห์แล้วที่จะทำให้ท่านได้รับความฟกช้ำ พระองค์ทรงทำให้ท่านทนเอาความเศร้าโศกแล้ว เมื่อพระองค์จะทรงกระทำให้จิตวิญญาณของท่านเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ท่านจะเห็นเชื้อสายของท่าน ท่านจะยืดวันทั้งหลายของท่าน และพระประสงค์ของพระเยโฮวาห์จะเจริญขึ้นในมือของท่าน
53:11 ท่านจะเห็นความลำบากเจ็บปวดแห่งจิตวิญญาณของท่าน และจะพอใจ โดยความรู้ของท่าน ผู้รับใช้อันชอบธรรมของเราจะกระทำให้คนเป็นอันมากถูกนับได้ว่าเป็นคนชอบธรรม เพราะท่านจะแบกบรรดาความชั่วช้าของเขาทั้งหลาย
53:12 ฉะนั้นเราจะแบ่งส่วนหนึ่งให้ท่านกับผู้ยิ่งใหญ่ และท่านจะแบ่งของที่ริบกับคนแข็งแรง เพราะท่านได้เทจิตวิญญาณของท่านออกจนถึงความมรณา และท่านได้ถูกนับเข้ากับบรรดาผู้ละเมิด และท่านได้แบกบาปของคนเป็นอันมาก และได้ทำการอ้อนวอนเพื่อผู้ละเมิดทั้งหลาย
** พระองค์ได้ทรงให้สำเร็จตามนั้นแล้ว คือพระเจ้าเป็นคนกำหนดให้พระบุตรลงมาตาย และทนทุกข์ทรมานเพื่อไถ่บาปคนทั้งหลาย พระเจ้าพอใจ พระเจ้ากระทำเอง ไม่ใช่มารชนะแต่เป็นแผนการงานของพระเจ้า (กจ 2:23 พระองค์ผู้ทรงถูกมอบไว้โดยพระดำริที่กำหนดไว้แล้ว และการทรงทราบล่วงหน้าของพระเจ้า พวกท่านก็ได้จับ และโดยมืออันชั่วได้ตรึงที่กางเขน และประหารชีวิตเสีย)
1. เรื่องการประกาศเราควรรู้และเข้าใจว่าจะประกาศอย่างไร โดยการนำพาของพระวิญญาณ และหลีกเลี่ยง ผู้นำศาสนา หรือกลุ่มผู้นำ ที่ไม่เปิดใจ แต่ประกาศกับคนที่เปิดใจ
2. ทุกวันนี้ มีคนมากมายกระทำหลายสิ่งโดยไม่เข้าใจ เราจึง ยกโทษอภัย ไม่ถือสา ในสิ่งที่เขากระทำ พระเจ้าก็จะยกโทษไม่ถือสาในสิ่งที่เรากระทำเหมือนกัน
3. พระเยซูเป็นพระเจ้า เป็นเจ้าชายผู้ให้ชีวิตแก่เราทั้งหลาย ในพระองค์มีชีวิตที่ครบบริบูรณ์เอเมน
4. พระเจ้าทำงานผ่านความเชื่อของเรา
5. การทนทุกข์ทรมาน การถูกเฆี่ยนตีถูกฆ่า ไม่ใช่ชัยชนะของมารซาตาน แต่เป็นชัยชนะของพระเจ้า พระองค์กำหนด วางแผน และทำให้เกิดขึ้นเพื่อไถ่มนุษย์ทั้งโลก และเพื่อทำลายความบาปและความตายให้หมดสิ้นไป โดยการได้รับความทุกข์ทรมานและถูกฆ่าของพระเยซู คำทำนายในอิสยาจึงสำเร็จแล้ว
3:19 เหตุฉะนั้นพวกท่านจงกลับใจเสียใหม่และตั้งใจใหม่ เพื่อบาปทั้งหลายของพวกท่านจะถูกลบล้างเสีย เมื่อเวลาทั้งหลายแห่งความสดชื่นจะมาจากเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า
** กลับใจใหม่ ในที่นี้ กรีกคือ μετανοέω คือการเปลี่ยนใจ เปลี่ยนความคิดที่เคยมี เคยเป็น เคยเชื่อ เคยเดินทางแบบเดิม สู่ความคิดใหม่แบบใหม่ระบบใหม่
** ตั้งใจใหม่ กรีก คือ ἐπιστρέφω turn, to return forward to back คือ การหันหลัง กลับหลัง จากที่เดินไปข้างหน้า หรือไม่ไปต่อ
** เปโตร เตือนให้ผู้ที่มาฟังให้กลับใจ และเปลี่ยนทิศทางของการเชื่อ และการดำเนินชีวิต เพื่อพระเจ้า ซึ่งเมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ระบบเก่าก็ผ่านพ้นไป และเมื่อพระองค์เป็นขึ้นระบบใหม่ก็เริ่มขึ้น
** ชาวยิวที่รักษาพระบัญญัติเพื่อให้ได้รับพระพร และได้กลายเป็นคนชอบธรรมเพื่อให้ได้รอด ต้องหันมาพึ่งพาพระคุณพระเจ้าผ่านทางพระเยซู คือเชื่อวางใจในพระองค์เพื่อรับการยกโทษบาป และได้กลายเป็นคนชอบธรรมโดยทางความเชื่อ และความสดชื่นจะมาจากพระเจ้า ก็คือพระบิดาเป็นแหล่งแห่งชีวิตและสันติสุข เราจะได้รับเป็นของขวัญโดยไม่ต้องเอาอะไรไปแลกเมื่อเราเชื่อ (โรม 5:1)
3:20 และพระองค์จะทรงส่งพระเยซูคริสต์ ผู้ซึ่งเมื่อก่อนนั้นได้ถูกประกาศไว้แก่พวกท่านแล้ว
** เมื่อก่อนนั้น คือคำทำนายในพระคัมภีร์เดิม
3:21 ผู้ซึ่งสวรรค์จะต้องรับไว้จนถึงเวลาทั้งหลายแห่งการตั้งขึ้นใหม่ของสิ่งสารพัด ซึ่งพระเจ้าได้ตรัสไว้โดยปากของศาสดาพยากรณ์ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์ทุกคน ตั้งแต่เริ่มสร้างโลก
** สวรรค์รับไว้ คือพระเจ้าและทูตสวรรค์ทั้งหลาย ซึ่งรับเรื่องของการเสด็จมาของพระเยซู และเราจะได้เห็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูแผ่นดินโลกในยุคพันปีเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา คำทำนายเหล่านี้อยู่ในหนังสืออิสยาห์ 11:1-10 / 65:18-25 (พระเยซูเปิดเผยว่า คือพระองค์เองที่จะกลับมาเพื่อฟื้นฟูแผ่นดินโลก (มธ 19:28))
3:22 ด้วยว่าแท้จริงแล้วโมเสสได้กล่าวไว้แก่บรรพบุรุษว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกท่าน จะโปรดตั้งผู้พยากรณ์ผู้หนึ่งขึ้นมาแก่พวกท่านจากพวกพี่น้องของพวกท่าน เหมือนอย่างเรา พวกท่านจงฟังผู้นั้นในสิ่งสารพัด ไม่ว่าผู้นั้นจะกล่าวสิ่งใดแก่พวกท่านก็ตาม
3:23 และจะเป็นเช่นนี้คือทุกคนที่จะไม่ฟังผู้พยากรณ์ผู้นั้น จะถูกทำลายไปจากท่ามกลางประชาชน’
** ผู้พยากรณ์ผู้นั้น ในที่นี้ คือพระเยซูนี่เอง พระองค์ออกมาจากชาวยิว และทรงตั้งไว้เพื่อให้ทุกคนเชื่อ ฟัง และวางใจในพระองค์ ส่วนคนที่ไม่เชื่อฟังก็จะถูกทำลาย คือพิพากษาลงโทษ
3:24 ใช่แล้ว และบรรดาศาสดาพยากรณ์ ตั้งแต่ซามูเอล และคนเหล่านั้นที่ตามมาภายหลัง ทุกคนที่กล่าวแล้ว ได้กล่าวล่วงหน้าถึงวันเหล่านี้ในทำนองเดียวกัน
** พระเจ้านับท่านซามูเอลว่าเป็นศาสดาพยากรณ์คนแรกของพระเจ้าในพระคัมภีร์เดิม (ข้อนี้และ 1 ซมอ 3:20 / กจ 13:20)
3:25 พวกท่านเป็นลูกหลานของพวกศาสดาพยากรณ์นั้น และแห่งพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเรา โดยตรัสแก่อับราฮัมว่า ‘และในเชื้อสายของเจ้า บรรดาครอบครัวทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกจะได้รับพระพร’
** พวกศาสดาพยากรณ์นั้น ในข้อนี้ คือบรรดาผู้เผยพระวจนะในสมัยพระคัมภีร์เดิมที่เอ่ยถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่ออับราฮัมเรื่องพระพร และการฟื้นฟูแผ่นดินโลก ผ่านเมล็ดพันธุ์ที่มาจากท่านอับราฮัมก็คือลูกหลานชาวยิว และไม่เพียงแต่ยิวเท่านั้นที่ได้รับพระพรแต่คนต่างชาติก็ได้รับด้วย
3:26 มายังพวกท่านก่อน พระเจ้าซึ่งได้โปรดให้พระเยซูพระบุตรของพระองค์เป็นขึ้นแล้ว ได้ทรงส่งพระองค์มาเพื่ออวยพรพวกท่าน ในการให้ทุกคนในพวกท่านหันเสียจากบรรดาความชั่วช้าของตน”
** เมื่อพระเยซูเป็นขึ้นจากตาย ชาวยิวก็จะได้รับพระพรก่อน จากนั้นพระพรก็ไปถึงคนต่างชาติทั่วโลก แต่ก่อนที่จะเข้าสู่พระสัญญาของพระเจ้าพวกยิวก็ต้องกลับใจจากทางแห่งการชั่วร้าย ซึ่งก็คือเส้นทางเดิมของพวกเขาที่เชื่อ และรักษาพระบัญญัติเพื่อพระพรและได้รอด แต่ไม่มีหัวใจให้พระเจ้า และพระเยซูนำพระเจ้ามาสู่พวกเขาอีกครั้งเพื่อพวกเขาจะได้อยู่ในพระองค์ และเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์
1. การกลับใจเสียใหม่ ไม่ใช่เลิกทำบาป แต่คือการกลับใจจากความเชื่อเดิม ความคิดเดิมที่ผิด ศาสนาเดิม รูปแนวศาสนา กลับใจจากพยายามรักษาพระบัญญัติเพื่อให้ได้รอด และหันมาเชื่อวางใจในพระเยซูเพื่อกลายเป็นคนชอบธรรมและรอด
2. การตั้งใจใหม่ คือเริ่มฝึกเดินตามรูปแนวชีวิต และเน้นที่ความผูกพันกับพระเจ้า เน้นรัก ไม่เน้นเหตุผล ผิดถูก
3. พระเยซูเป็นหนึ่งในผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า
4. ยังมีอีกยุคหนึ่งคือยุคพันปี ที่พระเยซูเรียกว่า ยุคแห่งการฟื้นฟูโลก พระเจ้าจะทำให้โลกเห็นว่าการปกครองของพระองค์นั้นดีที่สุดไม่เหมือนมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังกลายเป็นเพื่อนกับมนุษย์ จะไม่มีสิ่งที่ไม่ดีและเลวร้ายอีก เนื่องจากว่าไม่มีความทุกข์ยากอีกต่อไป
5. การเป็นขึ้นของพระเยซู เพื่อยิวและต่างชาติทั่วโลกจะได้รับพระพรจากพระสัญญาที่มีต่ออับราฮัม
.....
เปาโลเรียกผู้เชื่อทุกคนว่า ผู้บริสุทธิ์ (เท่ากับพระเจ้า) เนื่องจากว่าพระโลหิตของพระเยซู
เมื่อเราเชื่อ พระเจ้าเป็นความบริสุทธิ์ของเรา
เราบริสุทธิ์เท่ากับพระเจ้าเลยทีเดียว ถ้าหากเราอยู่ในพระคริสต์
1 คร 1:30
...แต่โดยพระองค์พวกท่านจึงอยู่ในพระเยซูคริสต์ ผู้ซึ่งโดยพระเจ้าทรงถูกตั้งไว้ให้เป็นสติปัญญา และความชอบธรรม และความบริสุทธิ์และการไถ่ สำหรับเราทั้งหลาย
พระเยซูมาอยู่ในเรา เป็น ...
1. สติปัญญาของเรา
2. เป็นความชอบธรรม
3. เป็นความบริสุทธิ์
4. ผู้ทรงไถ่เราในแต่ละวัน
ขอบพระคุณพระเยซูสำหรับกุญแจที่พระองค์ประทานให้แก่บ้านหลังใหญ่ ซึ่งเป็นพระกายเที่ยงแท้ของพระองค์ ที่อยู่ท่ามกลางทั่วโลก
ขอบพระคุณสำหรับวันนี้เรื่องการกลับใจใหม่ ที่สอนพวกเรา และเรื่องการตั้งใหม่ ที่สอนพวกเรา และเรื่องยุคหน้า คือยุคที่มีการครอบครองการปกครองของพระองค์ร่วมกับผู้ชนะทั้งหลาย เพื่อโลกจะเป็นที่อยู่ที่เต็มด้วยสันติภาพที่แท้จริง
และขอบพระคุณพระองค์ที่การเป็นขึ้นของพระองค์ทำให้เราทั้งหลายได้รับพระพร ที่พระองค์นำพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่ออับราฮัมมาสู่พวกเรา ขอบพระคุณสำหรับสันติสุข สำหรับชีวิตที่เต็มด้วยพลัง สำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ประทานให้แล้ว และเราชื่นชมยินดี เราดื่มกิน เรานำทุกสิ่งที่เป็นของพระคริสต์ที่ประทานให้เรามาใช้เพื่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน และการรับใช้ และการนมัสการพระองค์ พระเยซูพวกเรารักพระองค์
...
ขอบพระคุณพระเยซูซึ่งเมื่อก่อนเราจะทำอะไร เราต้องคิด ต้องตัดสินใจเอง ต้องใช้สติปัญญาของอาดัมซึ่งมีความจำกัดมาก และเราไม่รู้ว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี เราใช้สติปัญญาที่มาจากเนื้อหนังเป็นคนทำ
แต่ขอบพระคุณพระเจ้าทุกวันนี้พระองค์เป็นสติปัญญาของพวกเราในแต่ละวัน ในทุกเวลา และขอบพระคุณที่พระองค์เป็นความชอบธรรมของเรา เป็นเสื้อที่ดีที่สุด และนำเราเข้าสู่การชำระเพื่อที่จะเลิกทำบาปได้ เพื่อถวายเกียรติแด่พระบิดา
และขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์เป็นความบริสุทธิ์ คือเราเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่คนบาปอีกต่อไปแล้ว ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ไถ่เราในแต่ละวัน จากสถานการณ์ที่เลวร้าย จากการที่มีจิตใจกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง เพื่อเราจะกลายเป็นผู้ชนะ เป็นบุตรที่รักของพระบิดา สรรเสริญพระเยซูเอเมน