สำหรับวันนี้ผมจะมาแบ่งปันกับพี่น้องเกี่ยวกับเรื่องชีวิตของยอห์น ซึ่งมีทั้งยอห์นเก่าและยอห์นใหม่
ความแตกต่าง :
1. เสื้อผ้า
2. การเป็นอยู่
3. อาหารการกิน
4. การดำเนินชีวิตที่ต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์พระบัญญัติทุกวัน
ท่านยอห์นผู้ให้บัพติสมาเป็นบุตรชายของเศคาริยาห์ ท่านยอห์นอยู่ในตระกูลของปุโรหิตซึ่งอีกไม่นานเมื่อพระบิดาของท่านเสียชีวิตท่านก็มีโอกาสที่จะได้เป็นมหาปุโรหิตคนต่อไป ท่านยอห์นอยู่ในเมืองเสื้อผ้าที่เขาใส่มีราคาและไม่ธรรมดาผู้คนทั่วไปจะไม่มีโอกาสไม่มีสิทธิ์ใส่ อาหารที่เขากินก็คือขนมปังและเนื้อสัตว์ที่ชนชาติอิสราเอลนำมาเพื่อถวายแด่พระเจ้าที่พระวิหาร ถ้าหากท่านยอห์นยังอยู่ในเมืองท่านก็จะต้องดำเนินชีวิตที่เคร่งครัดอยู่ภายใต้กฎพระบัญญัติเดิมและรักษาชีวิตให้บริสุทธิ์และชอบธรรมอยู่เสมอ
แต่เนื่องจากว่าพระเจ้าทรงเลือกท่านยอห์นให้เป็นผู้ปิดยุคพระบัญญัติและเปิดยุคพระคุณ เพราะฉะนั้นท่านยอห์นจึงได้ออกมาอยู่ที่ป่าทุรกันดารการแต่งกายของท่านไม่เหมือนเดิมแล้ว เมื่อก่อนต้องสวมเสื้อให้เหมาะกับการเป็นปุโรหิตและเสื้อผ้าไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์จะสวมใส่เหมือนเขาแต่ต่อมาท่านยอห์นใช้ขนอูฐเป็นเสื้อที่เขาสวมใส่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎพระบัญญัติโดยเฉพาะแล้วขนอูฐได้มาจากตัวอูฐูและตัวอูฐูเป็นสัตว์ที่มีมลทินเป็นการกระทำที่ขัดแย้งต่อต้านต่อสู้ระบบเดิมอย่างมากมายเลยทีเดียว อาหารที่ท่านกินก็ไม่เหมือนเดิมแล้วคือตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า
ชีวิตของท่านยอห์นอยู่ในป่าทุรกันดารไม่ได้เข้าในกรอบออกตามซอยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ซึ่งท่านจะตื่นเวลาไหนจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า เราจะเห็นนะครับว่าการแต่งกายในยุคเดิมในระบบเดิมและการแต่งกายในยุคใหม่และระบบใหม่อาหารการกินก็ไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนกันซึ่งเป็นการขัดแย้งกันอย่างมากเลยทีเดียว พี่น้องผู้เชื่อมากมายอาจจะคิดว่าการแต่งกายหรือว่าถ้าหากเราเป็นคริสเตียน เราเป็นบุตรพระเจ้าเราเป็นประชากรของพระเจ้าเราควรจะ หาเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้มันดูดีหน่อย เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าใช่ไหม
แต่แท้ที่จริงยุคใหม่พระเจ้าเน้นที่จิตใจภายในพระเจ้าต้องการความบริสุทธิ์ใจ ความรักที่เรามีให้พระเจ้า เรามีใจเดียวให้พระเจ้า เรามีความบริสุทธิ์ใจต่อพี่น้อง ต่อมนุษย์ทั้งหลาย เราแสวงหาความรักและความชอบธรรมของพระเจ้า เราแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการและนี่คือบัญญัติใหม่ของพระเยซู สำหรับพี่น้องคริสเตียนส่วนมากเราเน้นที่การแต่งกายภายนอก การพูดจาที่ดี โดยเฉพาะแล้วเวลาที่เราอยู่กับพี่น้องในคริสตจักร หรือว่าอยู่ท่ามกลางสังคมคริสเตียนทั้งหลาย แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้อยู่ต่อหน้าพี่น้องคริสเตียนหรืออยู่ในคริสตจักร เราก็เป็นตัวจริงของเราใช่ไหม
อันนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่ต้องการ คือเรื่องการแต่งกายภายนอก การดูดีภายนอกไม่สำคัญสำหรับพระเจ้าแต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือจิตใจภายในและนี่คือหลักการของยุคใหม่ ความชอบธรรมความดีของยุคใหม่เน้นที่ความคิดจิตใจภายใน สำหรับชีวิตคริสเตียนเราทุกคน ดูเหมือนว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยคือ คริสเตียนมักเน้นถึงเรื่องการแต่งตัวการสวมเสื้อผ้า การดูดีแต่ภายนอกและตึก อาคาร โบสถ์ ที่เรียกกันว่าคริสตจักรใช่มั้ย หรูหรามาก ราคาแพงมาก ค่าเช่าก็แพงด้วยทำให้พี่น้องคริสตจักรต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย
และหลายๆครั้งเราเห็นสิ่งที่ไม่สำคัญกลายเป็นสิ่งที่สำคัญและสิ่งที่สำคัญเรากลับไม่เห็นความสำคัญ เราแสวงหาแต่ เฉพาะของที่อยู่แต่ภายนอกหรือความสวยงามในตึกอาคาร ในการแต่งตัวแต่งกาย แต่ชีวิตภายในของเรา เราไม่ใส่ใจ เราไม่แสวงหาการเปลี่ยนแปลงการได้เข้ามาถึงการชำระจากพระเจ้า เราดูท่านยอห์นเป็นตัวอย่าง ท่านยอห์นเป็นคนแรกที่ปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง คือท่านไม่ยอมสวมเสื้อผ้าที่ดีถึงแม้ว่าท่านมีสิทธิ์และท่านใส่เสื้อขนอูฐซึ่งเป็นการกระทำที่ต่อต้านต่อสู้ขัดแย้งต่อกฎพระบัญญัติเดิมอย่างมากมายเลยทีเดียว แต่ท่านก็ทำสิ่งที่ท่านยอห์นกระทำเพื่อยืนยันว่าพระเจ้าไม่พอพระทัยในระบบเดิมในการกระทำแบบเดิมของผู้นำศาสนาของชนชาติอิสราเอลทั้งหลาย
ที่มักใส่ใจในเรื่องความดีความชอบธรรมแต่ภายนอกแต่ภายในความรักเขาไม่มีให้พระเจ้า จิตใจที่บริสุทธิ์เขาไม่มีให้พระเจ้าและให้เพื่อนบ้านทุกคนเราจะเห็นว่าทุกวันนี้ระบบเดิมการแต่งกายการดูดีภายนอก กำลังระบาดแพร่หลายกัน ทั่วไปในคริสตจักรทั่วโลกเลย
แต่สำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณคริสเตียนผู้ชนะ เราไม่ใส่ใจในเรื่องการแต่งกาย เราจะสวมใส่อะไรก็ได้ ง่ายๆธรรมดาธรรมดา เพื่อให้เข้ากับทุกคนได้และเราให้เกียรติพระเจ้าแน่นอนคือ การดำเนินชีวิตของเราคำพูดของเรา เราทำทุกสิ่งด้วยความรัก ด้วยการเป็นคนที่ ต่ำ ถ่อมและยอมเสียเปรียบ ด้วยการเป็นคนที่มีผลของพระวิญญาณ (กท 5:22 ) ปรากฏในชีวิตของเราแต่ละวัน และนี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการและนี่คือการให้เกียรติพระเจ้าอย่างแท้จริง
เรามาดูตัวอย่างเกี่ยวกับเรื่องม้าถ้าหากว่าม้าถูกเลี้ยงอยู่ในบ้านหรือในเมืองเขาจะวางกฎเกณฑ์ให้มัน การกินเวลานอน เวลากินเวลาทำอะไร ต้องออกไปฝึกกำลังกาย ต้องไปวิ่งทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีกฎมีเกณฑ์ไปหมด แต่สำหรับม้าที่อยู่ในป่ามันจะทำอะไรมันจะกินเมื่อไหร่ มันจะไปไหนไม่มีใครห้าม ไม่มีใครกำหนด ไม่มีกฎเกณฑ์สำหรับชีวิตของมัน
ม้าที่อยู่ในบ้านก็คือ ชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฎพระบัญญัติเดิม ส่วนม้าที่อยู่ในป่าก็คือ คริสเตียนฝ่ายวิญญาณ คริสเตียนที่ดำเนินชีวิตโดยการนำพาโดยการนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือการนำของพระเจ้า ซึ่งถ้าหากว่าเรารู้จักเคล็ดลับ ในการดำเนินชีวิตที่ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำเราได้ในแต่ละวันเราจะเห็นผลของพระวิญญาณและเห็นผลของชีวิตใหม่เกิดขึ้นและมีมากขึ้นทุกวันทุกวันด้วย
ขอพระเจ้าช่วยเรานะครับที่ จะเข้าใจการดำเนินชีวิตในระบบใหม่ในยุคพระบัญญัติในยุคพระคุณ เราไม่ใส่ใจในเรื่องการแต่งกายภายนอก การดูดีภายนอกเท่านั้น หรือการเสแสร้งแกล้งทำ หรือการเป็นคริสเตียนที่หน้าซื่อใจคด หรือการพูดดีแต่ภายนอก แต่ภายในเรามีจิตใจที่ข่มขืน จิตใจที่เป็นทุกข์ไม่มีสันติสุขและไม่มีความหวังดีมีแต่ความคิดที่คิดแต่แง่ลบต่อผู้อื่นสิ่งเหล่านี้ถึงแม้ว่าเราจะสวมเสื้อผ้าที่ดีแบรนด์เนมหรือคำพูดที่ประจบประแจง เราอาจจะดูดีได้ทำดีได้ในเวลาที่อยู่กับพี่น้อง หรืออยู่ท่ามกลางคริสตจักรหรือคริสเตียน แต่ชีวิตจริงภายในของเรา เราไม่ได้ให้เกียรติพระเจ้า เพราะฉะนั้นแล้วใครจะแต่งกายยังไงใครจะกินอะไรไม่เป็นเรื่องใหญ่แต่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องใหญ่หรือเรื่องสำคัญที่สุด พระเยซูตรัสว่าสิ่งที่ออกมาจากปากของเราคือสิ่งที่ออกมาจากความคิดจิตใจภายในเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับพระเจ้า (มัทธิว 15:18)