ถ้าหากเรายอมและทำให้น้ำพระทัยพระเจ้าสำเร็จ พระเจ้าจะไม่ทอดทิ้ง
ถาม.
มีประเด็นละเอียดอ่อนเกิดขึ้น
บนเวทีแกรนด์แล้ววันนี้…
คือวันนี้มีการให้แฟนคลับโหวต
ใครมีคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรก
จะได้ดูดวงกับหมอดูจากทางแกรนด์
เฌอเอม ผู้เข้าประกวดจากลำพูน
ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 และเมื่อถึง
หน้าเวที ก็ได้ขอใช้สิทธิ์ปฏิเสธดูดวง
เอมไม่สะดวกใจดูดวง โดยให้เหตุผลว่า
เอมเป็นคริสเตียนไม่สะดวกใจ จึงขอใช้สิทธิ์นี้
จากนั้น ผู้จัด ก็ได้พูดขึ้นมาว่า…
ผู้จัด : จะสอนให้ว่าการอยู่ร่วมกันในสังคม มันคือความหลากหลาย การยึดติดในสิ่งบางสิ่ง จะเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงของเรา พี่ดูดวงให้ตอนนี้ได้เลย เพราะงานศิลปินต้องใช้ศาสตร์ครบสูตร
พี่ไม่ใช่พราหมณ์ พี่เข้าพิธีพราหมณ์ทุกครั้ง
ไม่ใช่คาทอลิกแต่เข้าโบสถ์เวลาไปต่างประเทศทุกครั้งพี่ไม่ใช่มุสลิม แต่พี่ไปอินโดนิเชียพี่ 'อัสสลามุอะลัยกุม' ทุกวัน
คนที่ฉลาดเท่านั้นจะอยู่กับคนทุกประเภทได้ เฌอเอมต้องคิดให้ดี ถ้าไม่ยอมอยู่กับคนทุกประเภท จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ ถ้าเลือกประเภทจะได้คนแค่บางประเภท
ศาสนาเป็นเพียงรสนิยม ไม่ใช่ชีวิตไม่ใช่จิตใจ ไม่ใช่หน่อเนื้อ มันไม่มีใครให้ชีวิต พระเจ้าก็ไม่ได้ให้ชีวิต
พระอัลเลาะห์ก็ไม่ได้ให้ชีวิต พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ให้ชีวิต
พ่อกับแม่ต่างหากที่ให้ชีวิต เพราะฉะนั้นถ้ายังคิดแบบนี้
นั่นคืออุปสรรคอันใหญ่หลวงของหนู เพราะงานของแกรนด์ไทยแลนด์ เรา reference กับความเชื่อเยอะมาก (ยกตัวอย่างชื่อสปอนเซอร์ที่จำหน่ายเครื่องลางโชคลาภ) มันเป็นงานที่คนของมิสแกรนด์ทำซึ่งบางคนก็ไม่ใช่พุทธ
เพราะฉะนั้นพี่ให้ข้อคิด ศาสนาจะทำให้เราเจริญ หรือทำให้ถอยหลัง มันไม่ใช่มันอยู่ที่ตัวเรา ถ้าติดกับดักตัวเองแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ ใช่ไหม?
ให้สิทธิ์ในการไม่ดูดวง แต่คำพูดข้างต้นเป็นเพียงคำพูดของผู้ใหญ่คนนึงที่เคยสอนคนไม่ว่าจะต่างชาติ ต่างภาษา หรือวัฒนธรรม แล้วประสบความสำเร็จแค่นั้นเอง
สุดท้ายเอมขออนุญาตวางไมค์
และกิจกรรมก็ดำเนินต่อไปปกติ
แต่แฟนนางงามกำลังถกกันหนักมาก
เนื่องจากเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน
**ถ้าพี่น้องเป็นน้องเฌอเอม จะตอบอย่างไรครับ?
ตอบ.
ถ้าหากจะมองผู้เชื่อที่ยังเป็นเด็กหรือเป็นคริสเตียนศาสนา เราก็ไม่มีความคิดเห็นอะไร
** แต่สำหรับพระเจ้า น้ำพระทัยของพระองค์ คือให้เราไม่ไปยุ่งเกี่ยวอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับนิทาน-นิยายต่าง ๆ แต่ให้ผู้เชื่อที่เป็นเหล่าบุตรของพระองค์ฝึกเดินในวิญญาณในแต่ละวัน และถ้าหากเรายอมและทำให้น้ำพระทัยพระเจ้าสำเร็จ พระเจ้าจะไม่ทอดทิ้ง และเตรียมสิ่งดีมากมายให้เรา และแน่นอนที่สุดมันย่อมจะดีกว่าการงาน และชื่อเสียงที่มนุษย์ยกให้เราเสียอีก
.....
1 ทิโมธี 1:4 ทั้งไม่ให้ใส่ใจในเรื่องนิทานต่าง ๆ และเรื่องลำดับวงศ์ตระกูลอันไม่รู้จบ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากกว่าเสริมสร้างให้จำเริญขึ้นในทางของพระเจ้า ซึ่งอยู่ในความเชื่อ ก็จงกระทำดังนั้น
1 ทิโมธี 4:7-8 อย่าเกี่ยวข้องกับนิยายของพวกไม่นับถือพระเจ้า และเรื่องเล่าที่ไร้สาระ แต่จงฝึกตนในทางพระเจ้า เพราะถ้าการฝึกทางกายมีประโยชน์อยู่บ้าง ทางพระเจ้าก็มีประโยชน์ทุกด้าน เพราะมีพระสัญญาสำหรับชีวิตปัจจุบันและอนาตค
2 เปโตร 1:16
เพราะว่าเราไม่ได้คล้อยตามนิยายที่แต่งขึ้นอย่างชาญฉลาด เมื่อเราได้ประกาศให้พวกท่านทราบถึงฤทธานุภาพ และการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งหลาย แต่เราเป็นสักขีพยานถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์
.....
ถึงอย่างไรก็ดี เรามาใกล้จะถึงสิ้นยุคแล้ว เราอยู่ในช่วงเวลาที่มืดสนิท โลกทั้งโลกมีสิ่งมากมายที่ซาตานใช้เพื่อเป็นกับดัก ไม่ว่าจะเดินมอง และไปทางไหนก็มีแต่สิ่งที่เป็นของฝ่ายความมืดที่มืดสนิท พระเจ้าเข้าใจและทำงานหนักเพื่อช่วยเหล่าบุตรของพระองค์