พระองค์ตรัสอุปมาต่อไปนี้ว่า “ชายคนหนึ่งปลูกต้นมะเดื่อต้นหนึ่งไว้ในสวนองุ่นของตน และเขามาหาผลที่ต้นนั้นแต่ไม่พบ เขาจึงพูดกับผู้ที่รักษาเถาองุ่นว่า ‘นี่แน่ะ เรามาหาผลที่ต้นมะเดื่อนี้สามปีแล้ว แต่ไม่พบ จงโค่นมันทิ้งไป จะให้ดินจืดไปเปล่าๆ ทำไม?’ แต่ผู้รักษาเถาองุ่นตอบเขาว่า ‘นายเจ้าข้า ขอเก็บเอาไว้อีกปี ลองให้ข้าพเจ้าพรวนดินใส่ปุ๋ยดู (ลูกา 13:6-9)
- "ชายคนหนึ่ง" คือพระเจ้าพระบิดา
- "ต้นมะเดื่อ" คือชนชาติอิสราเอล (ชาวยิว)
- "สวนองุ่น" คือประเทศอิสราเอลที่พระเจ้าสัญญาว่าจะยกให้ชาวยิว
- "ชายคนนั้นมาหาผลไม่พบ" คือตอนนั้นพระเจ้าไม่เห็นชาวยิวชอบธรรม หรือดีพร้อมตามมาตรฐานของพระองค์
- "จงโค่นทิ้งมันเสีย" คือละทิ้งชาวยิว
- "ผู้รักษาเถาองุ่น" คือพระเยซู พระองค์ให้โอกาสชาวยิวอีกหน่อยนึง ซึ่งเราพบว่ามียิวมากมายที่กลับใจเชื่อ และเป็นสาวกของพระเยซู พวกเขาจึงมีผลของชีวิตใหม่ไม่มากก็น้อย
คำอุปมาเกี่ยวกับต้นมะเดื่อที่ไร้ผล (ลก 13:6-9)
6 พระองค์ตรัสคำอุปมาต่อไปนี้ว่า “คนหนึ่งมีต้นมะเดื่อต้นหนึ่งปลูกไว้ในสวนองุ่นของตน และเขามาหาผลที่ต้นนั้นแต่ไม่พบ
7 เขาจึงว่าแก่คนที่รักษาสวนองุ่นว่า ‘ดูเถิด เรามาหาผลที่ต้นมะเดื่อนี้ได้สามปีแล้ว แต่ไม่พบ จงโค่นมันเสีย จะให้ดินรกไปเปล่าๆทำไม’
8 แต่ผู้รักษาสวนองุ่นตอบเขาว่า ‘นายเจ้าข้า ขอเอาไว้ปีนี้อีก ให้ข้าพเจ้าพรวนดินเอาปุ๋ยใส่
9 แล้วถ้ามันเกิดผลก็ดีอยู่ ถ้าไม่เกิดผล ภายหลังท่านจงโค่นมันเสีย’”
อ่านเพิ่มเติม: มัทธิว บทที่ 21