ถาม.
จริงๆ เราบังเกิดใหม่ ตั้งแต่ตอนที่พระเยซูฟื้นจากความตายแล้วใช่ไหมครับ แม้ว่าเราจะยังไม่เกิดมาก็ตาม แต่พอเราได้มารับเชื่อในพระเยซู พระวิญญาณแค่ได้เปิดตาเรา ให้เราได้เราประจักษ์เท่านั้น ที่ คต. มักพูดกันว่า เมื่อเราเชื่อ เราได้บังเกิดใหม่ จริงๆ แค่การถูกเปิดตา อันนี้ผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ
ตอบ.
ใช่ครับ เราตายและมีชีวิตใหม่ในพระคริสต์ เมื่อสองพันปีก่อน เรารับบัพติศมาเพื่อยอมรับความจริงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา (ในพระคริสต์)
...
ถาม.
กรณีที่ อับราฮัมกลัวฟาโรห์ จึงโกหกว่าภรรยาเป็นน้องสาว และเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ ก็เกิดขึ้นในรุ่นของอิสอัคก็โกหกว่าภรรยาเป็นน้องสาวด้วย เหมือนกัน
ถามว่า ทำไมเหตุการณ์จึงเกิดขึ้นเหมือนเหมือนกัน ซึ่งคริสตจักรศาสนาสอนว่า วิญญาณสามารถถ่ายทอดได้ แล้วจริงๆ วิญญาณสามารถถ่ายทอดไปสู่รุ่นต่อไปได้ไหมครับ?
ตอบ.
มีบางคนหรือบางครอบครัวที่พ่อแม่เป็นแบบไหน ลูกหลานบางคนก็มีนิสัยคล้ายเหมือนพ่อแม่หรือปู่ย่าตาทวด ไม่เกี่ยวอะไรกับวิญญาณถ่ายทอดครับ
...
ถาม.
การเเตกหักหรือสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นกับเรา การแตกหักคือการทดสอบจากพระเจ้าหรือไม่ค่ะ?
ตอบ.
เราต้องถามพระเจ้าครับว่า คืออะไร
...
ถาม.
และอีกข้อค่ะลืมถามค่ะ การทดสอบจากพระเจ้าผลคือการเสริมสร้างให้ดีขึ้น ส่วนการทดลองนี้คือมาเพื่อทำลายอย่างเดียวใช่ไหมค่ะ?
ตอบ.
ทั้งการทดสอบและลงโทษต่างก็มีผลที่ดีตามมานะครับ คือเพื่อให้เป็นบทเรียนแก่เราเพื่อจะแสวงหาการไม่ทำบาปดังกล่าวอีก
...
ถาม.
ยุคพันปีจะมีแสงจากดวงอาทิตย์และเเสงจากดวงจันทร์ไหมค่ะ
ตอบ.
ยุดพันปียังมีดวงอาทิตย์ครับ แต่แผ่นดินโลกใหม่ไม่มี
...
ถาม.
ประชากรยุคพันปีที่อยู่ข้างนอกวัง (นอกเมือง) เขามีจิตใจรักโลภโกรธหลงไหมค่ะ หรือว่าใด้รับการชำระใหม่แล้วมีจิตใจเหมือนคนที่ถูกเลือกให้อยู่ในราชอาณาจักรที่ปกครองร่วมกับพระเยซูที่อยู่ในวัง (ในเมือง)
ตอบ.
ยังเหมือนเดิมครับ แต่ไม่วุ่นวายไม่เกิดเรื่องราวไม่ดีเนื่องจากว่าทุกคนกินอยู่สบาย
...
ถาม.
ทำไมพระเจ้าห้ามเปาโลไม่ให้มาประกาศทางทวีปเอเซียคะ
ตอบ.
พระวิญญาณทรงทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรกับพวกเขา หรือพระวิญญาณต้องการให้ไปที่อื่นก่อน เพราะว่าอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่จะไปครับ
(เราต้องอ่านทั้งบทหรือก่อนหน้านั้นหรือหลังจากเหตุการณ์นั้นนะครับจึงจะเข้าใจ)
...
ถาม.
วันนี้ขออธิบายเชื้อยีสต์ต่างๆ ท่ามกลางคริสเตียนพร้อมข้อพระคัมภีร์ประกอบครับ ว่าทำไมถึงเป็นเชื้อยีสต์
ตอบ.
สำหรับพระเจ้า ขนมปังไร้เชื้อที่นำมาถวายที่พระวิหารหรือชาวยิวฉลองเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ เป็นแบบเล็งถึงพระคำพระเจ้าที่ไม่มีคำสอนที่ผิดเพี้ยนเข้ามาเจือปน
พระเยซูจึงใช้คำนี้ คือ ระวังเชื้อของฟาริสีและเชื้อของเฮโรด
ซึ่งเชื้อของฟาริสี ก็คือหยิ่งพองตัว หน้าซื่อใจคด และสอนตกขอบจากพระคำพระเจ้าและความจริงทั้งหมด พวกเขาผสมคำสอนที่ผิดเพี้ยนเข้าไปในคำสอนที่เป็นความจริงของพระเจ้า
ขณะที่เชื้อของเฮโรด คือโอ้อวดในอำนาจ และอิจฉา ทำอะไรก็เพื่อให้ได้เป็นใหญ่เป็นโตมีชื่อเสียงเกียรติยศ ฯลฯ
มก 8:15 / 1 คร 5:6-8
1 คร 5:6 การที่ท่านอวดอ้างนั้นไม่ดีเลย ท่านไม่รู้หรือว่าเชื้อขนมเพียงนิดเดียวย่อมทำให้แป้งดิบฟูทั้งก้อน
5:7 ดังนั้นจงชำระเชื้อเก่าเสียเพื่อท่านจะได้เป็นแป้งดิบก้อนใหม่เหมือนขนมปังไร้เชื้อ เพราะพระคริสต์ผู้ทรงเป็นปัสกาของเรา ได้ถูกฆ่าบูชาเพื่อเราเสียแล้ว
5:8 เหตุฉะนั้นให้เราถือปัสกานั้น มิใช่ด้วยเชื้อเก่าหรือด้วยเชื้อของความชั่วช้าเลวทราม แต่ด้วยขนมปังไร้เชื้อคือความจริงใจและความจริง
มธ 13:33 พระองค์ยังตรัสคำอุปมาให้เขาฟังอีกข้อหนึ่งว่า “อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเหมือนเชื้อ ซึ่งผู้หญิงคนหนึ่งเอามาเจือลงในแป้งสามถัง จนแป้งนั้นฟูขึ้นทั้งหมด”
มธ 16:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงสังเกตและระวังเชื้อแห่งพวกฟาริสีและพวกสะดูสีให้ดี”
ลก 12:1 ในระหว่างนั้นคนเป็นอันมากนับไม่ถ้วนชุมนุมเบียดเสียดกันอยู่ พระองค์ทรงตั้งต้นตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ก่อนว่า “ท่านทั้งหลายจงระวังเชื้อของพวกฟาริสี ซึ่งเป็นความหน้าซื่อใจคด
กท 5:7-10
5:7 ท่านวิ่งแข่งดีอยู่แล้ว ใครเล่าขัดขวางท่านไม่ให้เชื่อฟังความจริง
5:8 การเกลี้ยกล่อมอย่างนี้ไม่ได้มาจากพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านทั้งหลาย
5:9 เชื้อขนมเพียงนิดหน่อยย่อมทำให้แป้งดิบฟูขึ้นได้ทั้งก้อน
5:10 ข้าพเจ้าไว้ใจท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ท่านจะไม่เชื่อถืออย่างอื่นเลย ฝ่ายผู้ที่มารบกวนท่านนั้น จะเป็นใครก็ตามจะต้องได้รับโทษ
“คำอุปมาเรื่องเชื้อยีสต์… ภาคพิเศษ”
มธ 13:33 พระองค์ยังตรัสคำอุปมาให้เขาฟังอีกข้อหนึ่งว่า “อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเหมือนเชื้อ ซึ่งผู้หญิงคนหนึ่งเอามาเจือลงในแป้งสามถัง จนแป้งนั้นฟูขึ้นทั้งหมด”
ผู้เชื่อส่วนมากมักจะเข้าใจผิดคิดว่า คำอุปมาเรื่องผู้หญิงกับเชื้อยีสต์เป็นเรื่องเกี่ยวกับการขยายตัวของคริสตจักร แต่ถ้าหากเราอ่าน มธ 13:1–52 เราจะพบว่า พระเยซูทรงกล่าวถึงราชอาณาจักรของพระเจ้าทั้งในด้านดีและด้านที่ไม่ดี
“เชื้อยีสต์” เป็นสิ่งที่พระเยซูใช้เพื่อเตือนสาวกของพระองค์ให้ระมัดระวังคำสอนที่ผิดเพี้ยน หรือการตีความหมายที่คลาดเคลื่อนไปจากพระวจนะคำของพระเจ้า (มธ 16:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงสังเกตและระวังเชื้อแห่งพวกฟาริสีและพวกสะดูสีให้ดี”)
อาจารย์เปาโลใช้เชื้อยีสต์เพื่อเตือนคริสตจักรเมืองโครินธ์ ให้ละทิ้งชีวิต คำสอน และความเข้าใจแบบเก่าที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง (1 คร 5:8 เหตุฉะนั้น ให้เราถือปัสกานั้นมิใช่ด้วยเชื้อเก่า หรือด้วยเชื้อของความชั่วช้าเลวทราม แต่ด้วยขนมปังไร้เชื้อ คือความจริงใจและความจริง)
.....
การที่พระเยซูรักษาคนป่วยในวันสะบาโต ทรงกล่าวว่า “เราเป็น” และกล่าวว่า “ถ้าหากผู้ใดกินเนื้อและเลือดของเรา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์” (ยอห์นบทที่ 5 และ 6) ทำให้ผู้คนมากมายเริ่มกลัว และเลิกติดตามพระองค์ เพราะเขาเหล่านั้นคิดสงสัยว่า พระเยซูเป็นผู้สอนปลอม และไม่ใช่ผู้เผยพระวจนะที่มาจากพระเจ้า
สุดท้ายก็คงเหลือแต่สาวกสิบสองคนที่ไม่ยอมละทิ้งพระเยซู
พระเยซูทรงกล่าวว่า เชื้อยีสต์มาจากผู้นำยิว และแพร่หลายไปทั่วอิสราเอล
......
เมื่ออาจารย์เปาโลรับใช้พระเจ้า ท่านได้รับการเปิดตา และเรียนรู้จากพระวิญญาณที่ทรงถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้ท่านที่ทะเลทราย
คริสตจักรหลายแห่งจึงขับไล่ไสส่งและไม่ต้อนรับท่าน เพราะคิดว่าเป็นคำสอนที่ผิดเพี้ยน
อาจารย์เปาโลกล่าวว่า คริสตจักรเมืองกาลาเทียหล่นจากพระคุณ (กท 5:4) เพราะเขาเชื่อแต่รักษาพระบัญญัติเดิมเพื่อที่จะได้รับพระวิญญาณ และได้รอด คริสตจักรเมืองโคโลสีเดินในความมืด และคริสตจักรที่กรุงโรมเชื่อ แต่ไม่มีผลของชีวิตใหม่ และไม่เข้าใจการดำเนินชีวิตที่ชนะบาปว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
......
เมื่ออาณาจักรโรมันเป็นคริสเตียนทั่วทั้งอาณาจักร คำสอนที่ผิดเพี้ยน และการดำเนินชีวิตของคริสเตียนและคริสตจักรทั่วไปกลับกลายเป็นศาสนาคริสต์ มีคนกลุ่มน้อยที่แยกตัวออกมา และหลบๆ ซ่อนๆ เพราะกลัวว่าจะถูกข่มเหง หรือถูกทำร้ายจากคริสเตียนศาสนาดังกล่าว
ทุกวันนี้คริสตจักรทั่วโลกกลับกลายเป็นศาสนาคริสต์ไปแล้วอีกรอบหนึ่ง มีแค่เพียงผู้เชื่อบางส่วนที่พบการดำเนินชีวิตแห่งผู้ชนะ และเข้าใจการแปลความหมายที่ถูกต้องตามความจริงแห่งพระวิญญาณ เป็นชีวิตที่สุขล้นได้ทุกวันเวลา และเข้าสู่การเติบโตในชีวิตพระคริสต์
......
เมื่อคุณเชื่อ รักพระเจ้า และมอบกายถวายชีวิตแด่พระเจ้าเพื่อรับใช้พระองค์ แต่ชีวิตของคุณไม่มีสันติสุขทุกวันเวลา ทั้งไม่ได้พบการเปลี่ยนแปลงสู่พระลักษณะของพระเยซูคริสต์ คุณกลายเป็นคริสเตียนศาสนาไปเสียแล้ว คุณจะรอด แต่เนื่องจากคุณไม่ได้เกิดผลฝ่ายพระวิญญาณใน กาลาเทีย 5:22–23 คุณจึงขาดรางวัล และไม่ได้เข้าร่วมงานแต่งงานระหว่างพระคริสต์ที่เป็นเจ้าบ่าว และผู้ชนะที่เป็นเจ้าสาว ซึ่งงานเลี้ยงนี้จะยืดยาวไปจนถึงพันปี (มธ 7:21–27, 25:1–46, 1 คร 3:12–15)
...
ถาม.
กท 5:10 ใด้รับโทษแบบไหนค่ะ คือไปอยู่เกเฮน่า หรือว่ารับโทษในปัจจุบันในโลกนี้ยุคนี้ค่ะอาจารย์
ตอบ.
ผู้ที่มารบกวน ในข้อนี้ คือคริสเตียนชาวยิวที่มาสอนผิด โทษ คือชีวิตนี้ต้องรับโทษที่เขาทำและแน่นอนยุคหน้าคือเกเฮนนาครับ
...
ถาม.
พวกคาทอลิก ออโธดอกซ์ แบ๊พติส ถือว่าเป็นพี่น้องในพระคริสต์ไหมคะ
ตอบ.
คาทอลิก ไม่ได้บังเกิดใหม่จริง
ออร์ทอดอกซ์ กลุ่มที่เชื่อในพระเยซูและมีหลักความเชื่อเหมือนคริสเตียนทั่วไป คือพี่น้อง
ส่วนพวกที่ยังเชื่อเหมือนคาทอลิก ไม่ใช่
แบ๊พติส คือพี่น้องในพระคริสต์ครับ
...
ถาม.
ขอบคุณคะ มีเพื่อนคาทอลิกหลายคน เมื่อก่อนเคยหลงไปโบถส์คาทอลิกด้วยหลายปีเพราะจะเอาใกล้ๆ บ้าน ดีที่กลับมาโปแตสแตนอีก และในเฟสมีเพื่อนอยู่แบ๊พติสด้วย กลัวเขาจะไม่ใช่พี่น้องในพระคริสต์จริงๆ ขอบคุณมากคะ
ตอบ.
คาทอลิกที่แสวงหาความรอดรักศัทธาในพระเยซูจริง พระเจ้าจะนำเขามาถึงความรอดอย่างแน่นอนครับ
...
ถาม.
ผลของการชำระด้วยพระวิญญาณ (transformed) และผลแห่งพระวิญญาณ (fruit of the Spirit) ต่างกันไหมครับ เเละต่างกันยังไง?
การ transforming life เกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชนะระดับหนุ่มเเละพ่อ ถูกหรือไม่ครับ?
ตอบ.
เราไม่เรียกว่า ผลของการชำระด้วยพระวิญญาณ เราควรใช้คำว่า ผลที่ได้รับจากการชำระด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเหมาะกว่าครับ
การชำระด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ บางส่วนเราได้รับการชำระขณะที่เป็นหนุ่ม บางจุดเรารับการชำระเมื่อเป็นพ่อ
ยกตัวอย่างเช่น: ผมรับการชำระเกือบจะทั้งหมด คือ 80% แต่ยังมีบางเรื่องบางจุดที่ยังไม่ได้รับการชำระต้องฝึกเดินและรับการเปิดตาต่อไปจนถึงเวลาอันควร
...
ถาม.
ศบ. ทางเมืองนอกหลายคนที่วางมือรักษาโรคได้เป็นการทำงานของพระเจ้าหรือซาตานกันแน่คะ...
คนที่ซาตานทำ เค้าได้บังเกิดใหม่และเชื่อพระเยซูจริงๆ มั้ยคะ
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรคะว่าพระเจ้าให้ของประทานเขาหรือซาตานปลอมมาหลอกลวงผู้เชื่อ
ตอบ.
ทั้งสองครับ
- บางคนพระเจ้าทำ
- บางคนซาตานทำอีกไม่นานเค้าจะเปิดเผยตัวตนหรือจะมีข่าวเรื่องเขาไม่เชื่อจริงและทำเพื่อผลประโยชน์อะไรบางอย่าง พวกนี้เรียกว่าหากินในท่ามกลางสังคมคริสเตียนครับ
(ต่างประเทศมีเยอะมาก เขาจะพูดเรื่องเงิน การถวาย บริจาก ฯลฯ บ่อยมาก)
...
ถาม.
แต่เท่าที่เห็นในไทยอาจารย์หลายๆ ท่านเกือบจะทุกๆ คนก็จะพูดเรื่องเงินและการถวายจะเน้นค่ะคือยังไงค่ะเขามาจากมารเหรอค่ะ
ตอบ.
ผู้นำ นักเทศน์ที่พูดถึงเรื่องเงิน การถวาย แบ่งออกเป็นสองพวกครับ เชื่อจริงมาจากพระเจ้า กับเชื่อไม่จริงและมาจากมาร
...
ถาม.
เค้าเป็นข้าวละมานเหรอคะ อ.
ตอบ.
ใช่ครับ
ถามว่าทำไมผู้รับใช้ที่ไม่ได้เชื่อจริงและไม่ได้บังเกิดใหม่ทำการอัศจรรย์ได้
คนที่หาย เชื่อ หรือคนที่เป็นญาติเพื่อน เชื่อครับ
(แต่คนที่วางมือที่ไม่ได้เชื่อจริงได้หน้า)
...
ถาม.
กว่าพระเยซูจะเสด็จกลับก็คงจะกอบโกยไปเยอะเลยนะคะ
ตอบ.
ทั้งกอบและทั้งโกยครับ หลายคนเป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์ที่ไม่อาจนับเป็นมูลค่าได้
ผู้ชนะ ผู้ที่พบมานาฯ เราหลีกหนีจากการหวังได้ เราไม่เน้นเรื่องเงินทองการถวายและบริจาค
เราทำเพราะสงสารคนที่ยากจนขัดสนจริงๆ และวางใจในพระเจ้าอย่างตายใจ พระวิญญาณจะทำงานท่ามกลางพี่น้องของพวกเราและช่วยกันตามขนาดของความเชื่อ บำเหน็จก็มีมากมายทั้งชีวิตนี้และยุคหน้าครับ
...
ถาม.
แต่ส่วนดีของพวกเขา คือการประกาศให้คนกลับใจมาเชื่อพระเจ้าได้เยอะเหมือนกันนะคะ
ตอบ.
พระเยซูจะตรับกับพวกเขาว่า พวกเธอก็ได้หน้าและเงินทองแล้ว แต่อาณาจักรเข้าไปไม่ได้
...
ถาม.
การเป็น ศบ. เขามีเงินเดือนให้คะ เลยอยากเรียนเป็นนักเทศน์กันมาก งานเบาๆ มีที่อยู่ที่กินฟรีด้วย
ตอบ.
ศิษยาภิบาลไม่ควรมีเงินเดือนหรือเรียกว่าเงินเดือน คริสตจักรให้เพื่อช่วยเหลือ การเป็นอยู่ และไม่ควรกำหนดว่าเดือนละเท่าไหร่
ดูตัวอย่างในหนังสือกิจการและชีวิตของเปาโลที่ไม่เคยมีเงินเดือน และท่านก็ทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ ถ้าขัดสน ท่านจะขอให้คริสตจักรช่วยเหลือบางครั้งคราว เนื่องจากว่าท่านวางใจในพระเจ้า