(เสื้อที่ดีที่สุด และเสื้อที่เหมาะกับงานเลี้ยงแต่งงาน)
การงานของพระเจ้าเพื่อไถ่เรา คือนำเรามาสู่ความบริสุทธิ์ และชอบธรรมทั้งต่อหน้าพระเจ้าและต่อหน้ามนุษย์ ชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้า คือการได้สวมเสื้อที่ดีที่สุด และชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ คือการได้สวมเสื้อที่เหมาะกับงานเลี้ยงแต่งงาน
ความชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้า (การได้สวมเสื้อที่ดีที่สุด ลก 15:22)
ทันทีที่เราเชื่อ เราได้รับการอภัยโทษบาปทางพระโลหิตของพระเยซู ไม่เกี่ยวกับเรื่องการทำดีของเรา
พระวิญญาณบริสุทธิ์ดลบันดาลให้วิญญาณเราบังเกิดใหม่
พระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาสร้างบ้านถาวรในวิญญาณของเรา พระคริสต์เสด็จมาอยู่กับเรา และเป็นเสื้อที่ดีที่สุดให้เราสวมใส่ ทุกครั้งที่พระบิดามองมาที่เราจะไม่เห็นเราคนเก่า แต่เห็นพระคริสต์และเราคนใหม่ (ลก 15:22; 2 คร 5:16–17) เราจึงกลายเป็นคนบริสุทธิ์ชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้า 24 ชั่วโมง 7 วัน ถึงแม้ว่าเราจะทำบาปมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่พระเจ้าก็ยังมองว่าเราเป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อ ไม่ใช่เพราะการทำดีหรือทำชั่วของเรา
พระเจ้าเข้ามาสร้างบ้านถาวรในวิญญาณของเรา เราคือวิหารของพระเจ้า
ความชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ (การได้สวมเสื้อที่เหมาะกับงานเลี้ยงยุคพันปี มธ 22:1–14)
เมื่อเราแสวงหาและพบอาณาจักรของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ เราเข้าสู่การเปลี่ยนใหม่ได้อย่างแท้จริง หลุดพ้นจากการเป็นคริสเตียนขาดรักดั้งเดิม คริสเตียนศาสนา คริสเตียนโลก คริสเตียนที่ตายแล้ว คริสเตียนท้อแท้ และคริสเตียนที่เป็นอุ่นๆ
ชีวิตเราเริ่มปรากฏผลของพระวิญญาณเก้าประการและอีกมากมาย และเลิกทำบาปได้โดยธรรมชาติใหม่ของพระคริสต์ในเรา
เราดำเนินชีวิตด้วยต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ตายจากโลกนี้ และปลงต่อทุกสิ่งได้แล้ว เราสนิทในพระคริสต์ แสวงหาการอยู่ในพระองค์ และพระองค์อยู่ในเรา คือการงานที่สองที่พระเจ้ากระทำในชีวิตเรา เพื่อให้เราได้กลายเป็นคนชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์
สรุป
1. ทันทีที่เราเชื่อ เราก็ได้กลายเป็นคนชอบธรรมแล้ว และเท่ากันกับคนยิวที่รักษาพระบัญญัติอย่างเคร่งครัด (โรม 4:22–25) เราได้รอดจากบึงไฟ และเราได้สวมเสื้อที่ดีที่สุด
2.เรารับการก่อขึ้นของพระคริสต์ และพระองค์สามารถดำเนินชีวิตผ่านเราแทนเราในแต่ละวันจนเราสุกงอม หมดสภาพของชีวิตเก่า-เนื้อหนังของอาดัม เราได้สวมเสื้อที่เหมาะกับงานเลี้ยงแต่งงาน คือได้เข้าไปในอาณาจักร และร่วมครอบครองกับพระเยซูในยุคพันปี และฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่
ถาม:
เสื้อสีขาวใน วว 7:13–14 นั้นหมายถึงเสื้อที่ดีที่สุดใช่หรือเปล่าครับ
ตอบ:
คือการดำเนินชีวิตประจำวันที่บริสุทธิ์ และชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์
เสื้อสีขาวตัวที่หนึ่ง
คือการได้บังเกิดใหม่ ได้กลายเป็นคนชอบธรรมทันทีที่เชื่อ เราได้รับความรอดโดยทางพระคุณทางพระโลหิต (ลก 15:22; กท 3:27)
เสื้อตัวที่สอง
คือการมีชีวิตที่พระคริสต์กระทำผ่านเราในแต่ละวัน
การดำเนินชีวิตของผู้ชนะ ควรมีชัยชนะเหนือความบาป และเหนือความตายด้วย
ชัยชนะเหนือความบาป คือการมีพระคริสต์ดำเนินชีวิตแทนเราชัยชนะเหนือความตาย คือการใช้ชีวิตสนิทในพระคริสต์ เดินในความเชื่อในฝ่ายวิญญาณในแต่ละชั่วโมง เพื่อเราจะไม่กลับไปอยู่ในเนื้อหนัง และหลุดออกไปจากพระวิญญาณ เพื่อเราจะอยู่ในชีวิตและสันติสุขทั้งวัน เมื่อเผลอก็กลับมาสนิท และเดินในวิญญาณใหม่ได้ทันที (โรม 8:5–7)
การเดินทั้งสองแบบ คือการสวมเสื้อสีขาวตัวที่สอง หรือเสื้อที่เหมาะสมกับงานเลี้ยงในยุคพันปี (อาณาจักรสวรรค์) — มัทธิวบทที่ 22 และวิวรณ์ 3:4
ทีนี้เราจะมาพูดถึงเสื้อตัวที่สองนะครับ
เสื้อตัวที่หนึ่งเรารู้แล้วนะครับว่า เป็นเสื้อที่ที่สุด เมื่อเราเชื่อ เราก็ได้สวมใส่เพื่อปกปิดชีวิตเก่า ชีวิตอาดัมที่ขาดไปแล้ว เป็นชีวิต เป็นความดี เป็นความชอบธรรมที่ตายแล้ว ขาดแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไร และพระเยซูผ่านกระบวนการซัก ฟอก ยอก ต้ม ย้อม ทุกสิ่งสำเร็จแล้ว เป็นผ้าที่สำเร็จ และพร้อมที่จะเย็บให้เราสวมใส่เพื่อได้กลายเป็นคนชอบธรรมต่อพระพักตร์ของพระบิดา
เราสามารถยืนอยู่ต่อพระพักตร์ของพระเจ้าได้ เราไม่กลัว และเรากลายเป็นคนชอบธรรม ทุกครั้งพระเจ้ามองมาเห็นเรา จะยอมรับเราว่า เป็นคนชอบธรรม เป็นบุตรพระเจ้า เป็นปุโรหิตหลวง เป็นแกะของพระองค์ เป็นทุกสิ่ง แต่ว่า เสื้อตัวที่สองนี้ จำเป็นมากที่เราจะต้องสวมใส่ เป็นเสื้อที่เราจะได้เข้าไปในราชอาณาจักร
เสื้อตัวที่หนึ่ง เป็นเสื้อที่พระเจ้ารับรองให้ได้รอดในวันสุดท้าย คือรอดจากนรกบึงไฟ เข้าไปในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เรารอดแน่นอน เรื่องการได้รอดเข้าไปในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เราไม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว ไม่มีปัญหาแล้ว ซึ่งพระเยซู พระโลหิตของพระองค์ไถ่บาปของเราแล้ว และยอมรับเราเป็นคนชอบธรรม เป็นบุตรของพระเจ้า ได้รับการไถ่เรียบร้อยแล้ว เป็นแกะที่ติดตามพระเยซูไปไม่ยอมห่าง ไม่ยอมทิ้งพระเยซูเด็ดขาด คือคนที่บังเกิดใหม่แล้วนะครับ
เสื้อตัวที่สอง คือเสื้อที่สวมสำหรับงานแต่งงาน ในมัทธิวบทที่ 22 กล่าวถึงผู้ชายคนหนึ่ง ที่ถูกเชิญไปในงานเลี้ยงแต่งงานของราชโอรสของกษัตริย์ และปรากฏว่า กษัตริย์องค์นั้นเสด็จทอดพระเนตรดูแขก ก็เห็นผู้หนึ่งมิได้สวมเสื้อสำหรับงานสมรส ท่านจึงรับสั่งถามเขาว่า “สหายเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานสมรส” ผู้นั้นก็นิ่งอยู่พูดไม่ออก กษัตริย์จึงรับสั่งแก่พวกผู้รับใช้ว่า “จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปทิ้งเสียที่มืดภายนอก ที่นั่นจะมีการร้องไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ด้วยผู้ที่รับเชิญก็มาก แต่ผู้ที่ทรงเลือกก็มีน้อย”
ผู้ชายคนนี้เป็นตัวแทนของคริสเตียนศาสนา ซึ่งดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้มีผลงาน นำคนมาเชื่อได้มากมาย มีของประทานในการรักษาโรคได้ อาจจะไล่ผีได้ เทศนาสั่งสอนได้ รับใช้ในงานคริสตจักรทุกอย่าง แต่เขาไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานสมรส
เสื้อสำหรับงานสมรสนี้แตกต่างจากเสื้อตัวที่หนึ่ง เสื้อตัวที่หนึ่งเรียกว่า เสื้อที่ดีที่สุด (The Best Robe) และเสื้อสำหรับงานสมรสนี้ ก็คือ Wedding Garment
Wedding Garment ก็คือเสื้อสำหรับงานแต่งงาน
เสื้อสำหรับงานสมรส เป็นชีวิตของพระเยซูคริสต์ ที่ดำเนินชีวิตออกมาผ่านเรา ซึ่งเราเลิก เราหยุด เราปฏิเสธที่จะใช้ชีวิตอาดัมของเราที่มันขาดแล้ว เพื่อรับใช้พระเจ้า เพื่อดำเนินชีวิตที่เชื่อฟังพระเจ้า เพื่อรักษาพระบัญญัติในแต่ละวัน ไม่ครับ
เราจำเป็นมากที่จะต้องสวมเสื้อของพระเยซูคริสต์ และเสื้อตัวที่สองของพระเยซูคริสต์นี้ ก็คือการดำเนินชีวิต การทำแทนของพระเยซูนี่เอง
ฟป 2.13 กล่าวว่า “เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้กระทำกิจอยู่ในท่าน ทั้งความปรารถนาและการกระทำ”
ความปรารถนา ความต้องการของเรามันอ่อนแรงมาก บางครั้งก็อยากทำดี ปรารถนาที่จะเชื่อฟังพระเจ้า แต่บางครั้งก็ “เออ… ขอเวลาหน่อยนะ” “เอ่อ… คือตอนนี้ยังไม่พร้อม” คือความปรารถนาของเรามันอ่อนแรง มันไม่มีแรง มันไม่ต้องการที่จะเข้ามาสู่ฝ่ายวิญญาณ เข้ามาสู่การดำเนินชีวิตในความเชื่อ ในการรับใช้ ในการเชื่อฟัง ในการอยู่ในพระเจ้า แต่พระเจ้าเป็นผู้ทำงาน เป็นผู้ที่จะทำให้เรามีความปรารถนาอย่างร้อนแรง อย่างร้อนรน ในการที่จะดำเนินชีวิตอยู่เพื่อให้พระเจ้าใช้ชีวิตของเราในแต่ละวัน
เมื่อพระเยซูคริสต์เป็นเสื้อสำหรับงานสมรส ก็คือการที่พระเยซูครอบครองจิตใจของเราได้แล้ว และพระเยซูสามารถดำเนินชีวิตของพระองค์ออกมาให้โลกเห็นผ่านเรา
เราขอบพระคุณพระเจ้า ที่เมื่อเราเชื่อเราก็ได้สวมเสื้อที่ดีที่สุด พระเจ้ายอมรับว่า เราเป็นคนชอบธรรม เราสามารถยืนต่อพระพักตร์พระเจ้าได้ (We can stand before God) พระเจ้าจะมองเราเป็นคนชอบธรรม (God will see us as a righteous person)
และประการที่สอง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
เสื้อตัวที่สอง ก็คือ Wedding Garment คือเสื้อสำหรับงานสมรส
ในแต่ละวันเราบอกพระเยซู พระเยซูอยู่ข้างใน อยู่ในชีวิตของเรา อยู่ในวิญญาณของเรา
“ขอบพระคุณพระองค์ที่ครอบครองวิญญาณแล้ว ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทำงาน ครอบครองในจิตใจของข้าพระองค์แล้ว ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนข้าพระองค์ ขอบพระคุณพระองค์เป็นคนรักแทน เป็นคนเมตตาแทน เป็นคนยกโทษแทน เป็นคนทำทุกสิ่งแทนข้า ข้าไม่เหมาะสมที่จะดำเนินชีวิตในพระคริสต์ ข้าไม่เหมาะสมที่จะรักษาพระบัญญัติของพระเจ้าได้ เพระว่าข้าพระองค์ตกต่ำ และถูกขายให้เนื้อหนัง ถูกขายให้บาปแล้ว”
“เพราะฉะนั้น พระเยซูพระองค์เป็นผู้ที่เหมาะสม และสามารถที่จะเอาชนะความบาป เป็นผู้เดียวเท่านั้น ที่จะดำเนินชีวิตอยู่ใต้พระบัญญัติของพระเจ้า ดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ และชอบธรรมอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันได้ ข้าพระองค์ทำไม่ได้ พระเยซูทำแทนข้าพระองค์เถิด”
นี่คือการดำเนินชีวิตในขั้นที่สอง คือการได้สวมเสื้อสำหรับงานสมรส
ขอพระเจ้าช่วยเรานะครับ ที่จะเข้าใจเรื่องราวของเสื้อสองตัวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเรา ซึ่งผู้เชื่อมากมายทุกคนทุกวันนี้ทั่วโลก ถ้าได้บังเกิดใหม่แล้ว เราได้สวมเสื้อที่ดีที่สุดแล้ว แต่ผู้เชื่ออีกมากมาย ยังไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานสมรส คือการดำเนินชีวิตที่ปรากฏความดีความชอบธรรมของพระเยซู ไม่ใช่ความชอบธรรมของเรา
ให้โลกได้เห็น ให้พี่น้อง ให้เพื่อนในที่ทำงานเห็น ให้คนในครอบครัวเห็น ให้ทุกคนในโลกนี้ได้เห็นเรา และยอมรับเราว่า เป็นคนชอบธรรม เป็นคนดี ไม่ใช่เราพูดเอง
“ฉันเปลี่ยนแล้วนะ ฉันดีแล้วนะ” อันนี้ไม่เอาครับ ไม่ได้ครับ
แต่เมื่อมนุษย์ยอมรับเรา เค้าพูดเองเลย
“อ้อ คนนี้เปลี่ยนไป คนนี้ไม่เหมือนเดิม คนนี้ถ่อมใจมาก คนนี้พูดจาเมื่อก่อนก้าวร้าว เมื่อก่อนใช้คำพูดที่ไม่ดี แต่เดี๋ยวนี้เค้าพูด เค้าสุภาพอ่อนโยน เดี๋ยวนี้เค้ามีจิตใจใหม่ เดี๋ยวนี้เค้าผิดปกติ ไม่เหมือนเดิม”
อันนี้คือการสวมเสื้อสำหรับงานสมรส คือการที่พระเยซูทำแทนเราแล้ว ไม่ใช่การเสแร้ง แกล้งทำในคริสตจักร และกลับมาบ้านเราไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานสมรส
ปัญหาที่ตามมาก็คือ ในอนาคตเราจะรอดแน่นอน สำหรับความรอดที่พ้นจากบึงไฟ แต่เราจะไม่ได้เข้าไปในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นงานสมรส งานเลี้ยงของพระเยซู ที่จะมาถึงในยุคหน้าครับ
ขอพระเจ้าช่วยเรา ให้เข้าถึงชีวิตที่ปรากฏชีวิตของพระเยซู ให้ได้สวมใส่เสื้อสำหรับงานสมรส เพื่อเราจะได้รอดทั้งสองนะครับ คือรอดเข้าไปในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ และได้รับบำเหน็จรางวัล ซึ่งเป็นการที่ได้สวมเสื้อขาว ที่เป็นเสื้อสำหรับงานสมรส และเราจะได้มีส่วนครอบครองกับพระเยซู มีตำแหน่งเป็นใหญ่เป็นโต ได้เข้าไปในราชอาณาจักรในยุคหน้า ที่พระเยซูจะนำมาก่อตั้งอยู่ในโลกนี้ และการครอบครองของเรา จะมีส่วนร่วมกับพระเยซูไปจนตลอดชั่วนิรันดร์
แต่ผู้เชื่อที่ไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานสมรส ก็จะถูกตีสอนอยู่นอกอาณาจักรเป็นเวลาพันปี จากนั้นเค้าก็จะได้รอดในวันสุดท้ายเท่านั้น และเป็นประชากรของฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ไม่มีบำเหน็จรางวัลอะไรให้เค้า
พระเยซูจะปฏิเสธเค้านะครับว่า “เราไม่รู้จักเจ้า เพราะว่าเจ้าไม่เคยรู้จักเรา เจ้าไม่เคยพูดคุยกับเรา สนิทกับเรา เจ้าไปเกิดผล เจ้าออกไปประกาศ เจ้ารับใช้งานของเรา เจ้าปรนนิบัติพี่น้อง รับใช้พี่น้อง แต่เจ้าลืมในสิ่งที่สำคัญมาก ก็คือไม่ได้ปรนนิบัติเราผู้เป็นบุคคล”
เราขอบพระคุณพระเจ้า ที่เราได้สวมเสื้อตัวที่หนึ่งแล้ว คือเสื้อที่ดีที่สุด เราสามารถได้รับความรอดสู่ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ แต่ขอพระเจ้าช่วยเราอีกนะครับ เพื่อที่เราจะสามารถได้รับเสื้อตัวที่สอง คือเสื้อสำหรับงานสมรส และมีชีวิตจิตใจใหม่ปรากฏออกมาผ่านเรา
- เราจะเลิกมีความหยิ่งยโสภายในจิตใจ
- เราจะถ่อมได้จนถึงดิน
- เราจะเลิกความโกรธ โมโห จิตใจที่ขี้ใจน้อย จิตใจที่คิดกับพี่น้องคนอื่นไม่ดี คิดแต่ในแง่ลบ ในด้านลบอยู่เสมอ ตัดสินผู้อื่น จ้องมองผู้อื่นในสภาพของศาลตัดสินของตำรวจ
เพื่อที่เราจะเป็นผู้ที่มีความรักมากมาย รักอะกะเป เป็นคนที่มีเมตตา สงสาร กรุณา อยู่ในความสงบสุขกับพี่น้องทุกคน
และให้ความรักโลกของเราหมดสิ้นไป เราไม่สนใจไม่ติดตามแฟชั่น ไม่ติดตามอะไรทั้งนั้น การบ้านการเมือง เรื่องอะไรของโลกนี้ปล่อยให้เค้าจัดการกันเอง แต่สำหรับเรา เราอยู่เพื่อที่จะสวมเสื้อสำหรับงานสมรส
เพราะว่าบุตรพระเจ้า เราปักใจในสิ่งที่อยู่เบื้องบน คือราชอาณาจักรสวรรค์ คือพระเจ้าผู้เป็นความหวังของเรา และเป็นผู้ที่จะให้เรามีส่วนครอบครองกับพระองค์ตลอดไปจนชั่วนิรันดร์