3:1 พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าเป็นอาจารย์กันมากมายหลายคนเลย โดยทราบว่าพวกเราจะได้รับการ *พิพากษาลงโทษที่ยิ่งใหญ่กว่า* (the greater judgment)
** พระเจ้าเตือนผู้เชื่ออย่ายกตนเป็นครูอาจารย์ทั้งที่ตนไม่มีของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ เนื่องจากว่าการสอนผู้เชื่อให้ออกไปจากความจริงแห่งพระคำ และรับเชื้อยีสต์ซึ่งเป็นคำสอนที่แปลผิด จะทำให้พระกายของพระคริสต์กลายพันธุ์เป็นคริสเตียนศาสนา โทษที่ผู้สอนจะได้รับก็คือการตีสอนที่หนักในยุคพันปี และไม่มีบำเหน็จในฟ้าสวรรค์ใหม่ และแผ่นดินโลกใหม่
3:2 เพราะว่าในหลาย ๆ อย่างพวกเราทำให้คนทั้งปวงขัดเคืองใจ ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดมิได้ทำให้ผู้ใดขัดเคืองใจในทางวาจา ผู้นั้นก็เป็นคนดีพร้อมแล้ว และสามารถบังคับทั้งตัวไว้ได้ด้วย
3:3 ดูเถิด พวกเราเอาเหล็กบังเหียนใส่ในปากม้าทั้งหลาย เพื่อให้พวกมันเชื่อฟังพวกเรา และพวกเราก็ทำให้ทั้งตัวของพวกมันหันไปมาได้
3:4 จงดูบรรดาเรือด้วยเช่นกัน ซึ่งถึงแม้ว่าพวกมันใหญ่โต และถูกลมแรงพัดแล่นไป แต่พวกมันก็ยังถูกหันไปมาด้วยหางเสือเล็ก ๆ ไปยังที่ไหนก็ตามที่ผู้ควบคุมนั้นบังคับ
3:5 เช่นนั้นแหละ ลิ้นก็เป็นอวัยวะเล็ก ๆ และพูดโอ้อวดอ้างการใหญ่ ดูเถิด ไฟนิดเดียวก็เผาไหม้ได้มากสักเพียงใด
3:6 และลิ้นนั้นก็เป็นไฟ เป็นโลกแห่งความชั่วช้า ลิ้นก็เป็นเช่นนั้นท่ามกลางบรรดาอวัยวะของพวกเรา จนมันทำให้ทั้งร่างกายเป็นมลทินไป และเผาไหม้วิถีแห่งธรรมชาติ และมันเองก็ติดไฟแห่งนรก (ไฟแห่งเกเฮนา ไม่ใช่ไฟแห่งนรก)
3:7 ด้วยว่าทุกชนิดของพวกสัตว์เดรัจฉาน และของบรรดานก และของงูทั้งหลาย และของบรรดาสัตว์ในทะเลก็เลี้ยงให้เชื่องได้ และถูกเลี้ยงให้เชื่องแล้วโดยมนุษย์
3:8 แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้ มันเป็นสิ่งชั่วร้ายซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ เต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย
** บุตรพระเจ้าควรใช้คำพูดที่มีแต่เสริมสร้างไม่ใช่ทำลาย เพราะฉะนั้นเราต้องเติมรสเค็ม เพื่อให้คำพูดมีรสชาติที่น่ากิน น่าฟัง น่าเคารพยกย่อง เพื่อนำพี่น้องให้มาถึงความจริง และรับการชำระด้วยพระคำ ไม่ใช่ชักนำเขาให้เชื่อไปในทางที่ผิด ซึ่งแน่นอนที่สุดที่เราต้องให้พระคริสต์เป็นคนพูดแทนเรามากขึ้นในแต่ละวัน เพื่อผู้คนจะได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ในเราผ่านเรา
3:9 ด้วยลิ้นนั้นพวกเราสรรเสริญพระเจ้าคือพระบิดา และด้วยลิ้นนั้นพวกเราก็แช่งด่ามนุษย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นตามแบบพระฉายของพระเจ้า
3:10 จากปากอันเดียวกันมีคำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมา พี่น้องของข้าพเจ้า สิ่งเหล่านี้ไม่ควรให้เป็นเช่นนั้นเลย
** สำหรับพระเจ้า ทรงประสงค์ให้ผู้เชื่อพูดแค่สิ่งที่ดีออกมา เพื่อเสริมสร้างกันและกัน ทั้งให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปที่ไม่เชื่อ เราใช้ลิ้นเพื่อสะสมบำเหน็จด้วยการยกย่องสรรเสริญบอกรักพระเยซู และหลีกเลี่ยงการใช้ลิ้นเพื่อพูดในแง่ลบ และทำลายทำร้ายผู้อื่น ขอพระวิญญาณทรงชำระเราให้หลุดพ้นจากการใช้ลิ้นเพื่อสรรเสริญพระเจ้าและแช่งด่ามนุษย์ควบคู่กันไป เพราะว่าเราจะสูญเสียบำเหน็จเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา ให้เราเชื่อว่าลิ้นเป็นของพระเยซู และพระองค์จะใช้เพื่อพูดแต่สิ่งที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า เพื่อให้เป็นที่พอพระทัยพระบิดา และมนุษย์ เมื่อการชำระมาถึงเราจะบังคับลิ้นได้อย่างง่ายดาย
3:11 บ่อน้ำพุส่งจากช่องเดียวกันทั้งน้ำจืดและน้ำกร่อยได้หรือ
3:12 พี่น้องของข้าพเจ้า ต้นมะเดื่อจะออกผลเป็นมะกอกได้หรือ หรือเถาองุ่นจะออกผลเป็นมะเดื่อได้หรือ เช่นเดียวกันไม่มีบ่อน้ำพุใด ๆ จะให้ทั้งน้ำเค็มและน้ำจืดได้
** เมื่อผู้เชื่อได้รับการเปิดตาก็จะเข้าใจว่า เราเป็นมนุษย์วิญญาณ เริ่มนับใหม่กับพระเจ้า และทิ้งทุกสิ่ง ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีต่อสายตามนุษย์ หันมาทำทุกสิ่งโดยเชื่อว่าคนใหม่เป็นคนทำ โดยมีพระคริสต์ในเราเป็นคนคิดและกระทำ เราไม่คิดเองทำเอง ซึ่งนี่คือการไม่ให้อาดัมหรือชีวิตเก่าเข้ามามีบทบาทและเกิดผลร่วมกับคนใหม่คนนี้ น่าเสียดายที่ผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ คิดและกระทำด้วยอาดัมคนเก่าล้วน ๆ ซึ่งพวกเขายังมาไม่ถึงความเข้าใจในหนังสือยากอบบทที่สามนี้เลย
3:13 ผู้ใดเป็นคนมีสติปัญญาและประกอบด้วยความรู้ในท่ามกลางพวกท่านหรือ จงให้ผู้นั้นแสดงจากพฤติกรรมอันดี คือการงานต่าง ๆ ของตนด้วยความนอบน้อมแห่งสติปัญญา
** มีสติปัญญา wise และประกอบด้วยความเข้าใจ คือการได้รับมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อช่วยให้ได้เข้าใจเรื่องพระคำที่แปลถูก (ดูข้อที่ 17) พฤติกรรมอันดี ในที่นี้ คือการคิด และทำแทนของพระคริสต์ในเราผ่านเรา
3:14 แต่ถ้าพวกท่านมีการอิจฉากันอันขมขื่นและอาการแก่งแย่งกันในใจของพวกท่าน อย่าอวดเลยและอย่าพูดมุสาต่อความจริง
3:15 สติปัญญาเช่นนี้ไม่ได้ลงมาจากเบื้องบน แต่เป็นแบบโลก แบบตัณหาราคะ แบบผีปีศาจ
3:16 เพราะว่าที่ใดมีความอิจฉากันและการแก่งแย่งกัน ที่นั่นก็มีการวุ่นวายและการงานชั่วร้ายทุกอย่าง
** ความอิจฉากันและการแก่งแย่งกัน และอีกหลายๆ คุณสมบัติที่ทำร้ายทำลายพระกายของพระเยซู คือสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางคริสตจักรมากมายทุกวันนี้ เนื่องจากว่าพวกเขาใช้สติปัญญาอาดัมในการคิด และกระทำทุกสิ่ง
3:17 แต่สติปัญญาที่มาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข สุภาพและว่าง่าย เปี่ยมด้วยความเมตตาและบรรดาผลอันดี โดยปราศจากความลำเอียง และปราศจากความหน้าซื่อใจคด
** บริสุทธิ์ คือสติปัญญาที่มาจากพระวิญญาณ เพื่อให้เราเข้าสู่ถ้อยคำและการแปลความหมายที่ถูกต้อง เราจึงได้รับความสงบสุขภายในจิตใจ และเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนความคิด และการกระทำแบบใหม่ในรูปแนวของชีวิต และสุดท้ายเราก็ไม่ต้องแสดงละครหรือใส่หน้ากากเข้าหากันอีกต่อไป
3:18 และผลแห่งความชอบธรรมก็ถูกหว่านลงในสันติสุขโดยคนเหล่านั้นที่สร้างสันติสุข
** เมื่อพระคริสต์ทำแทนเราได้มากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะกลายเป็นคนที่ไม่ชอบต่อสู้ถกเถียงกับใคร แต่นำความสงบสุข Peace มาสู่ทุกคน นี่คือผลแห่งความชอบธรรมของพระคริสต์ที่ก่อตัวขึ้นภายในเราแล้ว คือผลที่ได้รับจากการแสวงหาความชอบธรรมของพระเจ้าในมัทธิว 6:33
แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใด
สามารถทำให้เชื่องได้