การช่วยเหลือของพระเจ้าเป็นสิ่งที่อัศจรรย์ พระองค์เลือกที่จะช่วยเหลือตอนที่มันคือคับขัน แล้วก็ทางตัน มาถึงทางตันจริงๆ มาถึงที่ที่มันไม่มีทางออกจริงๆ
คือตอนที่พอจะมีทางออกได้ พอจะไปมาได้ พอจะทำอะไรได้ คิดได้ พอจะเลือกทางได้ แต่ปรากฏว่าวิธีทางของพระเจ้า "การช่วยเหลือของพระเจ้าจะมาก็ต่อเมื่อเราหมดทางแล้ว"
ถามว่าทำไมพระเจ้าเลือกที่จะช่วยตอนที่เราหมดทาง เราหมดเรี่ยวแรง เราอ่อนแอมากจนช่วยชีวิตเราเองไม่ได้แล้ว ก็คือเพื่อให้เรารู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่เราจะต้องพึ่งพา
คล้ายๆ กับเรื่องผู้ชายที่ตกน้ำที่ว่ายน้ำไม่เป็น แล้วปรากฏว่าหลายคนก็ยืนมองแล้วก็บอกเขาว่ายเอามือว่ายไปทางซ้ายไปทางขวาว่ายแบบนี้ว่ายแบบนั้น กระดิกน้ำก็สอนก็บอก แต่ไม่มีใครกระโดดลงไปช่วย
แล้วบางคนจะกระโดดลงแต่มีผู้ชายคนหนึ่งเห็นเขาก็ห้าม ไม่ต้องกระโดดลงไปรอก่อน แล้วผู้ชายคนนี้ก็โกรธว่าไม่กระโดดได้ไงเขากำลังจะตายก็ต้องรีบลงไปช่วยสิ รอก่อนผู้ชายคนนั้นบอกว่าใจเย็นรอก่อนเราช่วยเขาแน่
ปรากฏว่าเขาว่ายน้ำ คือทำยังไงก็จะไม่รอดแล้ว ก็คือจะจมลงไปแล้ว หมดเรี่ยวแรงแล้ว ผู้ชายคนนี้จึงตัดสินใจกระโดดลงไปแล้วดึงขึ้นมา เพราะว่าถ้าหากเราไปช่วยเขาตอนที่เขายังมีแรงอยู่ การช่วยเหลือคืออาจจะไม่สำเร็จ เขาอาจจะดึงเราไปตายด้วยกันทั้งสองใช่ไหม
คือการที่คนยังไม่มาถึงทางตัน เขาอาจจะคิดว่าเขาก็อาจจะมีทางทำดีได้ช่วยตัวเองได้ พระเจ้าก็เข้ามาช่วยนิดนึง เป็นผลงานของเขาบ้าง นี้คือสิ่งที่พระเจ้าไม่ต้องการให้เราคิด เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่ต้องการให้เราเห็น คือเราต้องยอมจำนนจริงๆ ยอมรับจริงๆ ว่าคนที่ช่วยฉันไม่ใช่ฉันเลยแม้แต่นิดเดียว ก็คือเป็นพระเจ้านี่แหละ เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงให้เรามาจนถึงทางตัน
แต่ถ้าหากเราเรียนรู้ เราฝึกตลอดเวลาเรื่องการวางใจในพระเจ้า เรื่องการปล่อยวางฉันจะไม่เคลื่อนไหว แต่ถ้าจะเคลื่อนไหว ก็คือเชื่อว่าฉันเป็นคนใหม่แล้วพระคริสต์เป็นคนที่เคลื่อนไหวในฉัน ก็ทำ
การฝึกในการวางใจพระเจ้าแบบนี้ ซึ่งหลายครั้งที่พระเจ้าอาจจะไม่นำเรามาจนถึงทางตันก็ได้ ขอบคุณพระเยซูเอเมน
"เมื่อเรามาถึงทางตัน ทางตันไม่ได้หมายความว่ามันคือความพ่ายแพ้ แต่สำหรับพระเจ้าเมื่อเรามนุษย์มาถึงทางตัน มันคือการเริ่มต้นสู่ชัยชนะของพระเจ้าที่ทำกับเราทำในเรา" เอเมน