SPA & Self Enquiry
คำนิยาม ความหมาย
SA = Self assessment
การประเมินตนเอง
SA เติม P เป็น SPA
SPA = Standard Practice Assessment
เป็นคู่มือ เป็นเครื่องมือ เป็นตัวช่วย
ในการนำมาตรฐานไปใช้งาน
เน้นความสำคัญของการนำมาตรฐานไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
std นั้นจึงจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กร
Selt Enquiry
คือ การตามรอย เป็นการสืบค้นความจริง
หรือ การทำความเข้าใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ใช้สำหรับการทำ internal survey ก็ได้
ปัจจุบันมี 3 เล่ม
ชื่อเล่ม
1.SPA&Humanized Healthcare Part I เล่มเขียว
2.SPA&Humanized Healthcare Part II รอปรับปรุง
3.SPA&Humanized Healthcare Part III เล่มชมพู
เป็นคู่มือการนำมาตรฐานสู่การปฎิบัติ
สำหรับ มาตรฐานฉบับ 60 ปี พิมพ์ครั้งแรก พย.2552
SPA เทียบกับ 3P
Standard นำมาตรฐาน : Purpose
Practice มาสู่การปฏิบัติ : Practise
Assessment ประเมินให้เห็นชัด : Performance
ขยายความ SPA
-SPA เป็นเครื่องมือ เป็นตัวช่วย ในการนำมาตรฐานไปใช้
เนื่องจากรพ.ที่ไม่เคยทำอาจคิดไม่ออก
หากเข้าใจในมาตรฐาน เคยทำอยู่แล้ว
และทำดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องใช้ก็ได้
-เป็นการเปลี่ยนจาก รูปธรรมให้เป็นนามธรรม
-เป็นเครื่องมือช่วยให้รพ.เห็นแนวทางการนำ std ไปสู่การปฏิบัติทีชัดเจน
-จะบอกแนวทางการสรุปข้อมูลสำคัญที่จะบันทึกส่งให้คณะผู้เยี่ยมสำรวจ ซึ่งจะลดภาระของร.พ.และผู้เยี่ยมสำรวจในเรื่องการจัดทำเอกสาร
หนังสือในแต่ละมาตรฐาน
มีอยู่ 2 องค์ประกอบ
1.SPA
มี 3 ส่วนหลัก
1.1 หัวข้อมาตรฐานที่กำหนดมาให้
ข้อนี้ คือ ส่วนที่นำมาจากมาตรฐานเล่มเหลือง 60 ปี พ.ศ.2549
1.2 กิจกรรมที่ควรดำเนินการ
1.3 ประเด็นที่ควรตอบในแบบประเมินตนเอง
ข้อนี้ คือ ส่วนที่จะตอบหัวข้อบทเรียนใน HA2011
2.Self Enquiry
มี 4 ส่วนหลัก
2.1 Over all requirement
2.2 การเตรียมตัวของผู้เยี่ยม
2.3 กลุ่มเป้าหมาย
2.4 ประเด็นคำถาม
การทำความเข้าใจในแนวคิด
-แนวคิด SPA
วงล้อ 3 ตัว
การใช้ประโยชน์ >
กิจกรรม/กระบวนการพื้นฐาน >
ปรับปรุงให้เป็นระบบยิ่งขึ้น >
-ความเป็นระบบคือ
ตัวย่อ DR.MP
Definable
Repeatable
Measurable
Predictable
-การประเมินตนเอง เป็นการบันทึกการเดินทางของการใช้ SPA และการพัฒนา
1.ศึกษาทำความเข้าใจ
คุยกันเล่น
2.ประเมินการปฏิบัติงาน
การนำ std ไปสู่การปฏบัติสามารถทำได้ง่ายๆโดย
(เป็นการทำมาตรฐานให้เข้าไปอยู่ในชีวิตจริง)
คุยกันเล่น
-why มีเป้าหมายอะไร
-why ช่วยให้ระบบดีขึ้นอย่างไร
-what อะไรที่เราทำได้ดี อะไรที่เป็นจุดอ่อน จุดอ่อนอยู่ไหน กับใคร เมื่อไร ที่ใด
เห็นของจริง
management by fact (GenBa Genbutsu)
*ตามรอย
*Self enquity พูดคุยสอบถามหน้างาน
*Clinical self enquity : gap analysis, policy
อิงการวิจัย(R2R)
ตั้งประเด็นข้อสงสัยเอาไว้มากๆ
เลือกประเด็นสำคัญ ตั้งคำถามการวิจัย
ทำ mini research ทำน้อยๆแต่ให้ได้ความรู้ตรงประเด็น และ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา
เห็นของจริง
3.ประเมิน
-ธำรงคุณภาพ QA คือ ดีอยู่แล้ว
-พัมนาและประเมินซ้ำ CQI คือ ยังไม่ดีต้องพัฒนา
4.สรุปผลใน SA