2I 2.2: Ventilator-Associated Pneumonia (VAP) Prevention
Definition
ภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อในผู้ป่วยที่มีการใช้เครื่องช่วยหายใจมาแล้วไม่น้อยกว่า
สองวัน โดยในวันที่เริ่มมีอาการหรือการตรวจพบที่น าไปสู่การวินิจฉัยภาวะนี้ ผู้ป่วยยังคงใช้
เครื่องช่วยหายใจอยู่หรือยุติการใช้ไปแล้วไม่เกิน 1 วัน
Goal
ป้องกันการเกิดปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจ
Why
ปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นการติดเชื้อในโรงพยาบาล ที่พบ
มากเป็นล าดับต้น ส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้ป่วย ท าให้ผู้ป่วยต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้น ต้องเสีย
ค่าใช้จ่ายในการรักษาการติดเชื้อจ านวนมาก เชื้อก่อโรคส่วนใหญ่เป็นเชื้อดื้อยาหลายขนานท า
ให้ผู้ป่วยที่เกิดปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจมีโอกาสเสียชีวิตสูง
Process
กิจกรรมที่โรงพยาบาลควรด าเนินการเพื่อป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้
เครื่องช่วยหายใจ ประกอบด้วย
1. การจัดท าแนวปฏิบัติในการป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจ
โดยอ้างอิงจากแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐาน
2. ให้ข้อมูลแก่บุคลากรเกี่ยวข้อง เรื่องระบาดวิทยา ผลกระทบและการปฏิบัติ ในการ
ป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยแนวทางปฏิบัติที่ส าคัญคือ
การจัดท่านอนผู้ป่วย การดูดเสมหะ การท าความสะอาดปากและฟัน การให้อาหารทาง
สายยาง การท าลายเชื้ออุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ การให้ยาคลายกล้ามเนื้อและยานอนหลับ
เท่าที่จ าเป็น
3. มีแนวทางการเฝ้าระวังปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ
4. มีการพัฒนากระบวนการในการส่งเสริมและระบบในการติดตามการปฏิบัติตาม
มาตรการส าคัญในการป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจอย่าง
เคร่งครัดและต่อเนื่อง ประกอบด้วย
o พิจารณาใช้ non-invasive positive pressure ventilation ในผู้ป่วยก่อนใช้เครื่องช่วย
หายใจ และหากใช้เครื่องช่วยหายใจ ควรก าหนดแนวทางการหย่าเครื่องช่วยหายใจและ
การประเมินความพร้อมในการหย่าเครื่องช่วยหายใจของผู้ป่วยทุกวัน
o ก าหนดแนวทางการให้ sedative ในผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
o สนับสนุนอุปกรณ์ที่จ าเป็น เพื่อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติตามแนวปฏิบัติได้ อาทิ
เช่น เครื่องวัด cuff pressure ถุงส าหรับบรรจุอาหารที่ให้ทางสายยาง อุปกรณ์ในการท า
ความสะอาดปากและฟันที่มีคุณภาพ
o จัดท่านอนผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้นอนศีรษะสูง 30-45 องศา ในกรณีไม่มีข้อ
ห้ามทางการแพทย์
o ป้องกันท่อช่วยหายใจเคลื่อน เลื่อนหลุดและการใส่ท่อช่วยหายใจซ ้า
o ท าลายเชื้ออุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
o ท าความสะอาดช่องปากของผู้ป่วยอย่างน้อยวันละสามครั้ง และพิจารณาใช้ 0.12-2%
chlorhexidine เช็ดในช่องปาก หากผู้ป่วยไม่มีอาการระคายเคืองจาก chlorhexidine
Training
ให้ความรู้บุคลากรผู้ให้การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจทั้งแพทย์และพยาบาล
เกี่ยวกับระบาดวิทยาของการติดเชื้อ ผลกระทบและการป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับ
การใช้เครื่องช่วยหายใจ
นิเทศและให้ค าแนะน าแก่บุคลากรขณะปฏิบัติงาน โดยเฉพาะบุคลากรใหม่และบุคลากร
ที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยสามัญที่ต้องให้การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
Monitoring
ประเมินการปฏิบัติของบุคลากรตามมาตรการส าคัญในการป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์
กับการใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นระยะ ประกอบด้วย การจัดท่านอนผู้ป่วย การดูดเสมหะ
การท าความสะอาดปากและฟัน การให้อาหารทางสายยาง การท าลายเชื้ออุปกรณ์
เครื่องช่วยหายใจขณะใช้งาน
ประเมินประสิทธิภาพการเฝ้าระวังปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจ
อุบัติการณ์การเกิด VAP
Pitfall
บุคลากรขาดความรู้ที่ทันสมัยในการป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วย
หายใจตามหลักฐานเชิงประจักษ์
บุคลากรขาดความช านาญในการดูผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
ขาดอุปกรณ์ที่จ าเป็นเพื่อป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจ เช่น
เครื่องวัด cuff pressure
เครื่องช่วยหายใจจ านวนมากที่ใช้ในโรงพยาบาลเป็นชนิด pressure-control ventilator
ซึ่งระบบท่อทางเดินหายใจไม่ได้เป็นระบบปิด และมักมีหยดน ้า (condensate) คาอยู่ใน
สายมากกว่าเครื่องช่วยหายใจแบบ volume control อาจจะมีผลต่ออัตราการติดเชื้อที่
สูงกว่า เป็นประเด็นที่ควรท าการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม
มาตรฐาน HA
การปฎิบัติตามแนวทางข้างต้น คือการปฏิบัติตามมาตรฐาน โรงพยาบาลและบริการ
สุขภาพ ฉบับที่ 4 ตอนที่ II หมวดที่ 4 ข้อ 4.2 ก. การป้องกันการติดเชื้อทั่วไป (4)