1.บริบท
โรงพยาบาลบางปะกอก 8 เป็นโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิขนาด 120 เตียง ให้การดูแลผู้ป่วยคนไทย (สิทธิ์ทั่วไป , ประกันสังคม และผู้ป่วยต่างด้าวที่ประกันสุขภาพ (สิทธิ AW ) มีสูติแพทย์ประจำ 1 ท่าน Part time 7 ท่าน มีสูติ-นารีแพทย์ Consult 24 ชม. มีเครื่อง Ultrasound 2 เครื่อง ประจำ OPD 1 เครื่อง แผนกห้องคลอด 1 เครื่องในปี 2556-2559(ม.ค.-มิ.ย.) มีมารดาคลอดจำนวน 860,867, 556, 222 รายตามลำดับโดยมีสัดส่วนทารก ชาวไทย : ชาวพม่า (1 : 3 ) จากสถิติผู้ป่วยที่มีภาวะตกเลือดหลังคลอดจำนวน 1 ราย(25%), 1 ราย(25%), 2 ราย(28.57%), 0 ราย(0%) ตามลำดับ
จากการทบทวนสาเหตุ PPH เป็น Retain piece of placenta under Estimated blood loss และอีก 1 ราย มีปัญหา Delay diagnosis และ Treatment การ Dx. ผิดพลาดล่าช้า Uterine atony จนมีภาวะ shock unplan ICU Cardiac arrest และต้องทำ Hysterectomy
2.ประเด็นสำคัญ/ความเสี่ยงที่สำคัญ
1. การประเมินปัจจัยเสี่ยงและรับรู้ปัจจัยเสี่ยง และส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงาน
2. การดูแลการคลอด/ เงื่อนไขการรายงานแพทย์ ไม่มีระบบ Early Warning Signs
3. การ Estimated blood loss ไม่แม่นยำ
3.เป้าหมายการพัฒนา
1. เพื่อลดอัตราการเกิด PPH
2. เพื่อลดอัตราการเกิด PPH with shock
3. เพื่อลดอัตราการเกิด PPH with hysterectomy
4.กระบวนการเพื่อให้ได้คุณภาพ
1. กำหนดระบบการคัดกรองและประเมินความเสี่ยงตั้งแต่ งานฝากครรภ์ คลอด จนถึงหลังคลอด มีการสื่อสารชัดเจน กรณีมีปัจจัยเสี่ยง PPH ให้เขียนคำว่า “Risk PPH” ด้วยปากกาสีแดง ไว้ที่บันทึกการฝากครรภ์และประวัติการฝากครรภ์ เพื่อส่งข้อมูลให้ห้องคลอดและทีมเฝ้าระวังต่อ
2. จัดทำ CPG PPH/Standing order for PPH กรณีที่มีความเสี่ยงต่อการเกิด PPH ให้ดูแลตาม Standing order มีการกำหนด Early warning sign Estimated blood loss 300 ml , Active management
3. มีแนวทางการดูแลรักษา สื่อสารเจ้าหน้าที่ และมีระบบตรวจสอบประเมินกระบวนการและสมรรถนะเจ้าหน้าที่ ตามแนวทางที่กำหนด CPG เมื่อเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดขึ้น
4. มีการนำ Active management of First stage of Labor ทุกราย
5. มี CQI การประเมิน Blood loss หลังคลอดให้แม่นยำมากขึ้นโดยการตวง Blood loss เป็น ml
5. ผลการพัฒนา
6.แผนการพัฒนาต่อเนื่อง
1. พัฒนากระบวนการ ANC คุณภาพ
2. ประเมินความครอบคลุมของการปฏิบัติตาม CPG
3. พัฒนา ทักษะบุคลากรในการดูแลหลังคลอด