Clinical tracer
ตัวอย่าง ASTHMA
ตัวตามรอยทางคลินิก
องค์ประกอบ
1.บริบท
Critical to Quality
2.ประเด็นสำคัญ
3.วัตถุประสงค์
-กระบวนการพัฒนา Quality process
-การบวนการดูแลผู้ป่วย Content
-ระบบอื่นๆ Integration
4.ตัวชี้วัด Result
-ติดตามผลลัพธ์
การเขียนCTHL
การเลือกเรื่อง
-ความเสี่ยงสูง ปริมาณมาก
การเขียน
มี 5 หัวข้อ
1.บริบท
2.ประเด็นความเสี่ยงสำคัญ
3.เป้าหมายการพัฒนา
4.กระบวนการคุณภาพ
5.ผลการพัฒนา
เป้าหมายการเขียน คือ
เขียนสรุปประเด็นโดยย่อ ส่วนรายละเอียดเป็นหน้าที่ของ surveyor
หัวเรื่อง
ระบุปัญหาและประเด็นที่เราต้องการดูให้ชัดเจน
และเนื้อเรื่องที่ร้อยเรียงถัดไปต้องสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ที่ตั้งประเด็นเอาไว้
1.บริบท คือ
ให้เขียน 2 หัวข้อ
i. ศักยภาพ ของเราในการดูแลโรคนี้
ระบุ
-ข้อได้เปรียบ ในการดูแล
-ข้อเสียเปรียบ ในการดูแล
ii. มีตัวเลข เดิมมาวิเคราะหฺ์ข้อมูล
ไม่มีตัวเลข แสดงว่าไม่เคยทำ ถ้าไม่มีข้อมูล
ก็จะบอกผลลัพทธ์ไม่ได้
-ตัวเลข ที่ดีคือ ต้องย้อนหลัง 3 ปี
จากบริบทจะบอกประเด็นความเสี่ยงสำคัญ
ลักษณะความพร้อมของเราต้องชัดเจน ดูแลผู้ป่วยกลุ่มไหน ลักษณะผู้ป่วยเป็นอย่างไร ศักยภาพของเราดูแลผู้ป่วยได้ในระดับไหน
ผลทบทวนที่สำคัญ กับ ปัญหาที่พบ มีตัวเลขเล็กน้อย ?
ปัญหาต้องสอดคล้องกัน กับบริบทของโรงพยาบาล และของโรค
บริบท ให้เน้นเป็นบริบทของโรคมากกว่าบริบทของโรงพยาบาล อาจระบุ สถิติต่าง ๆ ของโรค ประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่นเป็นโรคที่มีผู้ป่วยมารับการรักษาเป็นจำนวนมาก (Top 5 ) , เป็นโรคที่มีความเสี่ยงสูง , เกิดอุบัติการณ์ไม่พึงประสงค์บ่อย , มีการ Re-admit บ่อย , ผลการรักษาที่ผ่านมา ,กลุ่มอายุ ,เพศ ,ค่าใช้จ่ายสูง ความต้องการของผู้รับบริการ ,ลักษณะของกลุ่มผู้รับบริการ ,จำนวนผู้เชี่ยวชาญที่มี , เครื่องมือพิเศษที่ใช้ เป็นต้น
2.ประเด็นความเสี่ยงสำคัญ
ปัญหาที่พบคืออะไรที่สำคัญ
2-3 เรื่อง ไม่เกิน 3 ประเด็น
ที่มา
ความเสี่ยงของโรคนั้น
Concern ของผู้ป่วยและผู้ให้การดูแล
การใช้ความรู้ทางวิชาการ
วิธีการจัดการเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด
-ถ้าไม่แน่ใจหรือกลัวไม่ครบลองใช้ PARTIII
กระบวนการดุแลผู้ป่วยมาเปรียบเทียบ
เช่น การมาถึง การประเมิน การวินิจฉัย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การผ่าตัด.....เป็นต้น
-ปัญหา มีสองความหมาย
ปัญหา-เกิดขึ้นแล้ว
ปัญหา-เสี่ยงที่จะเกิดขึ้น มีความเสี่ยง
-พยายามเรียงหัวข้อตามลำดับการดูแลผู้ป่วยด้วย
ประเด็นสำคัญความเสี่ยงสำคัญ
ควรเลือกประเด็นความเสี่ยงที่เราให้ความสำคัญโดยระบุชัดเป็นข้อ ๆ ไม่ควรมากเกินไป ซึ่งประเด็นเหล่านี้ควรไปปรากฏอยู่ในเป้าหมาย เครื่องชี้วัดสำคัญ กระบวนการเพื่อให้ได้คุณภาพ และการพัฒนาต่อเนื่องด้วย
3.เป้าหมายการพัฒนา
เป้าหมาย
** ต้องตอบทุกประเด็นความเสี่ยงสำคัญ
ตั้งประเด็นอะไรเอาไว้
**ต้องมีKPIค่อยบอก (ประเด็นที่สำคัญ)
KPI มาจากเป้าที่เราต้องการ ที่จะบ่งชี้ถึงประเด็นสำคัญ
มีเป้าหมาย กับ KPI กำกับ
อาจเป็นเรื่องของ Process หรือ result อาจมีการระบุเป้า %
หรือ ไม่ระบุก็ได้
เครื่องชี้วัดสำคัญและการใช้ประโยชน์
• ระบุเป้าหมายของการดูแลผู้ป่วย เครื่องชี้วัดที่ทีมใช้ในการ monitor ความก้าวหน้าของการพัฒนาและความสำเร็จในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ ซึ่งควรจะสอดคล้องกับเป้าหมาย ครอบคลุมประเด็นสำคัญหรือความเสี่ยงสำคัญในข้อ 2. ด้วย
• การนำเสนอข้อมูลเครื่องชี้วัดที่ติดตามต่อเนื่องอาจนำเสนอในรูปแบบของ run chart หรือ control chart ตอนนี้มีหลายที่พัฒนาการแสดงผลลัพธ์เป็นข้อมูลเชิงสังเคราะห์ เช่นแสดงผลลัพธ์เป็นกราฟ และมีคำอธิบายใต้กราฟว่าเกิดการเปลี่ยนปลงอะไรขึ้น ช่วงไหน เพราะอะไร มีการใช้เครื่องมือคุณภาพอะไรจึงทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
4.กระบวนการคุณภาพ
คือ ขั้นตอนการทำงาน
จะปรับกระบวนการส่วนไหนเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย
เพื่อให้มีกระบวนการที่มีคุณภาพ ทำให้ผลลัพท์การดูแลผู้ป่วยดีขึ้น
ต้องระบุว่าปรับอะไร ความชัดเจนที่ต้องระบุ
การประเมิน การวินิจฉัย
การรักษา
แบ่งเป็นหัวข้อที่เราทำแบบสรุป ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
กระบวนการเพื่อให้ได้คุณภาพ
4.1 กระบวนการพัฒนาคุณภาพเป็นส่วนที่สรุปย่อว่ามีการใช้กระบวนการคุณภาพ (เครื่องมือคุณภาพต่าง ๆ) ที่ใช้ในการดูแลผู้ป่วยรายนี้มีอะไรบ้าง เช่น CQI , Clinical CQI ,นวัตกรรม ,CPG , Evidence Base Data , Peer review ,WP / WI , Care MAP , Clinical Risk , มาตรฐาน , คู่มือต่าง ๆ เป็นต้น(ส่วนนี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้ เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ยังไม่มีกระบวนการคุณภาพอะไรมาก ก็อาจข้ามไปเขียนกระบวนการเลย)
4.2 กระบวนการดูแลผู้ป่วย เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดใน Tracer เพราะจะเป็นการเล่ากระบวนการคุณภาพทั้งหมด ที่ รวบรวมมาโดยใช้เครื่องมือต่าง ๆในการดูแลผู้ป่วยเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เครื่องมือที่ใช้ให้เขียนย่อสรุป แต่ละเรื่องเป็นการสรุปไม่ควรเกิด 4-5 บรรทัด โดยเล่ากระบวนเป็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มเข้า (Entry) จนออกจากโรงพยาบาล การเล่ากระบวนการอาจเล่าได้หลายรูปแบบ เช่น เน้น Process เป็นหลัก อาจเขียนเป็น Entry , Assessment , Planning , Care Delivery , การดูแลต่อเนื่อง หรือถ้าเน้นจุดบริการเป็นหลักขั้นตอนจะเป็น การดูแลผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉิน / ห้องตรวจ , การดูแลผู้ป่วยที่หอผู้ป่วยใน (ซึ่งอาจแยกกระบวนการย่อยได้อีก) , กระบวนการติดตามการดูแลต่อเนื่อง หรือถ้าเน้นกระบวนการให้การรักษา อาจเขียนเป็น การดูแลผู้ป่วยก่อนผ่าตัด , การดูแลผู้ป่วยระหว่างผ่าตัด , การดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด , การดูแลต่อเนื่องหลังจำหน่าย (เหมือนตัวอย่าง Clinical Tonsillectomy ที่เคยนำเสนอไปก่อน) เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นกับบริบทของโรค และความถนัดของผู้เขี่ยนที่คิดว่าโรคที่ดูแลอยู่นี้ควรสื่อการดูแลเป็นขั้นตอนแบบไหนจะสื่อได้ดีและครอบคลุมที่สุด
4.3 ระบบงานสำคัญที่เกี่ยวข้อง เป็นกระบวนการคุณภาพที่เป็นคู่ขนานกับคุณภาพหลัก ส่วนใหญ่เป็น ระบบต่าง ๆ ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น
- ระบบ การส่งต่อ ระบบการดูแลต่อเนื่อง ระบบการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ
- ระบบงานสนับสนุนบริการ เช่น ระบบสำรองเครื่องมือช่วยชีวิต ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน
- ระบบการบันทึกเวชระเบียน
5.ผลการพัฒนา
ต้องมี KPI ชี้ให้ชัดเจน การเก็บข้อมูลต้องดี
KPI ต้องสอดคล้องกับปัญหาของเรา
แสดงออกมาเป็นตัวเลข
-ผลไม่ดี ต้องมี action plan กำกับ
(ต้องระวัง การที่ทำแต่ไม่ทำแล้วปล่อยค้างทิ้่งไว้หลายๆปี)
-ผลที่ดีนิ่งแล้ว ไม่ต้องมาเสนอใส Highlight แต่เก็บผลที่ได้ในประเด็นสำคัญไว้ในฉบับเต็มได้
6.การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• ให้มองหาว่าอะไรคือสิ่งที่คิดว่ายังขาดในส่วนกระบวนการ คุณภาพในเรื่องนี้ก็ต้องหาโอกาสพัฒนาต่อไปให้ครอบคลุม ซึ่งผลลัพธ์คงออกมาใน Version ต่อ ๆไปก็ไม่เป็นไร
• ระบุว่ามีแผนที่จะพัฒนาในเรื่องนี้ต่อเนื่องอย่างไร มีวัตถุประสงค์และกำหนดเวลาอย่างไร
• เรื่องที่เพิ่งพัฒนาการดูแลจะสามารถมองเห็นโอกาสและมีแผนที่ต้องพัฒนาต่อไปอีกหลายเรื่อง
การสื่อสารหรือเล่า Clinical Tracer ด้วยภาพ โดยเล่ากระบวนการดูแลผู้ป่วยการใช้เครื่องมือคุณภาพในรูปแบบต่าง ๆ โดยสื่อสารเป็นภาพอธิยาบขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จะทำให้สื่อสารให้ผู้ฟังเห็นภาพตามกระบวนการ ให้ได้มาซึ่ง Clinical Tracer เรื่องนั้น ๆ ได้ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้เพื่อเกิดประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในองค์กร และจะช่วยทำให้ทีมที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ Clinical Tracer มองเห็นหลักการทำและการเขียน Tracer ได้ง่ายขึ้นมาก
พิจารณาความสมบูรณ์และตรงประเด็นของตัวอย่างนี้
Clinical Tracer Highlight : Asthma
ผู้ป่วยโรคหอบหืดของโรงพยาบาลมีประมาณ 130 คน ปัญหาที่พบบ่อยคือ acute exacerbation ต้องมารับการพ่นยาฉุกเฉินบ่อยครัง้ ในปี 2551 มีการ admit ผู้ป่วย asthma 37ครัง้ (1% ของ admission ทัง้ หมด)
มีการพัฒนาโดยส่งบุคลากรสหสาขาวิชาชีพเข้ารับการอบรม, จัดตัง้ คลินิก asthma ทุกวันพุธตัง้ แต่ ก.ย. 51 มีแพทย์และพยาบาลประจำคลินิก เภสัชกรแนะนำการใช้ยาพ่นทุกราย, เน้น
การใช้ยาพ่นสเตียรอยด์อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง
ผลงานของการจัดตัง้ คลินิก 6 เดือน มีผู้ป่วยขึ้นทะเบียนทัง้ หมด 74 คน ระดับการควบคุม โรคหอบหืด controlled เพิ่มจาก 20% เป็น 59%, poor controlled ลดจาก 19% เหลือ 8%;
ค่าเฉลี่ยของ peak flow เพิ่มจาก 78% เป็น 88%
ปญัหาที่ยังพบได้แก่การไม่มาตามนัด การตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาพ่นของผู้ป่วยวัยกลางคนไม่ดีเท่าที่ควร ผู้ป่วยบางรายยังไม่สามารถควบคุมอาการได้ มีแผนดำเนินการต่อได้แก่
1) การจัดระบบติดตาม 2) การค้นหาผู้ป่วยเพื่อรักษาแต่เนิ่นๆ 3) การประสานกับ home health care ออกเยี่ยมบ้านเพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อมห้เหมาะสมกับผู้ป่วย 4) จัดหาเครื่องพ่นยาแบบละอองฝอยให้ผู้ป่วยใช้ที่บ้านในรายที่ควบคุมอาการโรคได้ยากหรือ ใช้ยาพ่น แบบ MDI ไม่ได้
ตัวอย่างเขียนลง ทำอะไร อย่างไร ผลเป็นอย่างไร
III-4 การดูแลผู้ป่วย
บทเรียนเกี่ยวกับความรับผิดชอบให้ผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม
รพ.ได้ปรับปรุงการดูแล Asthmaใน รพ. ด้วยการ
พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ในการให้คำแนะนำรวมถึง
ให้เภสัชกรเป็นคนสอนพ่นยาในคลินิก Asthma ของ
โรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่ วย Asthma กลุ่ม controlled
เพิ่มขึ้นจากจาก 20% เป็ น 59% ภายใน 6 เดือน
เพิ่มเติม