Snake bite
S nake bite
มี 2 ส่วน
1.แนวทางปฏิบัติ
2.คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยถูกงูกัดเมื่อกลับบ้าน
แนวทางปฏิบัติกรณีผู้ป่วยถูกงูกัด
ประวัติผู้ป่วยถูกงูกัด
กรณี 1. งูไม่มีพิษ ให้กลับบ้านได้
กรณี 2. ไม่แน่ใจ
กรณี 3. งูพิษ
-เห็นตัวงู
-รอยเขี้ยว Fang mark
-อาการแสดง
-Local บวม แดง necrosis lesion
-Systemic Hematotoxin/Neurotoxin
การให้การดูแลกรณี 1-2
Dressing : ทำแผล, bed rest, consult surg กรณีต้องการdebridgement
Analgesic : Paracetamal (ห้ามให้ aspirin)
Antibiotic : กรณีติดเชื้อชัดเจน Cover Anaerobe
Tetanus prophylaxis : หลังอาการทาง systemic ดี
Hematotoxin
1.งูเขียวหางไหม้
ถูกกัดมา < 3 ชั่วโมง
ให้สังเกตอาการจนครบ 3 ชั่วโมง
แล้วตรวจ CBC, Platelet count, VCT
ถูกกัดมา > 3 ชั่วโมง
- ตรวจ CBC,Platelet count, VCT
- Mild case บวดน้อยกว่า 1 ข้อ ไม่มี ecchymosis
ผลเลือดปกติ รักษาแบบ OPD case และนัด follow up * 3 วัน
- Moderate case ผลเลือดผิดปกติให้นอนโรงพยาบาล
2.งูแมวเซา
- Admit ward เจาะ CBC, VCT q 6 ชั่วโมง ใน 24 ชั่วโมงแรก
- Hydration
- Follow up BUN, Cr ระวัง Acute renal failure
กรณีอาการดีขึ้นให้ Discharge
กรณีอาการไม่ดีขึ้น :
Severe systemic bleeding
VCT> 30, Platelet count < 20,000
ให้ Admit ICU
Neurotoxin
1.งูเหา จงอาง สามเหลี่ยม
ให้ Admit ICU
กรณี
ซึมลง หนังตาตก หายใจลำบาก : Intubation tube
FR-CPG-PCT MED-16
Page 1 : Flow
Page 2 : คำแนะนำ
เอกสารเพิ่มเติม
วิธีสังเกตว่า ถูกงูที่เป็นพิษกัดหรือไม่
พิษงูจะถูกเก็บไว้ในต่อมใต้เขี้ยวงูและถูกปล่อยผ่านทางเขี้ยวงูพิษจึงจะต้องมีเขี้ยวงู
ผู้ป่วยที่ถูกงูพิษกัดจึงควรมีรอยเขี้ยวงูให้เห็น ฉะนั้น สามารถวินิจฉัยได้โดยการตรวจจากรอยเขี้ยวงู (Fang mark)
กรณี 1 ถ้ามีรอยเขี้ยวงูแสดงว่าถูกงูพิษกัด
กรณี 2 ถ้าไม่พบรอยเขี้ยวงูเป็นเพียงรอยฟันงู ก็แสดงว่าเป็นงูที่ไม่มีพิษกัด
ข้อควรระวัง
ถ้าตรวจอย่างละเอียดแล้วไม่พบรอยเขี้ยวงู แสดงว่าอาจจะไม่ใช่งูพิษกัด
แต่ต้องแน่ใจว่า ไม่มีรอยเขี้ยวจริงเพราะงูพิษบางชนิดไม่ก่อให้เกิด อาการบวมบริเวณที่ถูกกัด ทำให้ตรวจหาได้ยาก
วิธีสังเกตว่า ถูกงูชนิดใดกัด
งูพิษที่กัดเป็นชนิดใด
1.ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง และ บริเวณที่ถูกกัดบวมมากหรือมีเนื้อตาย คิดถึงงูเห่าและงูจงอาง
แยกจากกันโดย
-งูเห่า พบไดทั่วไปในประเทศไทย
-งูจงอาง อาจจะพบในป่าหรือสถานที่เลี้ยงงูเท่านั้น ถ้าไม่ใช่สถานที่ดังกล่าวโอกาส พบงูจงอางน้อยมาก
2.ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง และ บริเวณที่ถูกกัดบวมเล็กน้อยหรือไม่บวมเลย คิดถึงงูทับสมิงคลาและงูสามเหลี่ยม
แยกจากกันโดย
-งูทับสมิงคลา พบในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น ลักษณะงูเป็น ปล้องสีดำสลับขาว
-งูสามเหลี่ยม พบทั่วประเทศ ลักษณะเป็นปล้องดำสลับเหลือง งูสามเหลี่ยมมีอุบัติการณ์กัดคนต่ำมาก
3. ผู้ป่วยมีภาวะเลือดไม่แข็งตัวเลือดออกและบริเวณที่ถูกกัดบวม ห้อเลือด (ecchymosis) คิดถึงงูเขียวหางไหม้และงูกะปะ
แยกจากกันโดย
-งูเขียวหางไหม้ พบทั่วไป โดยเฉพาะในเมือง ตามบ้านเรือน ลักษณะงูไม่จำเป็นต้องเป็นสีเขียวเสมอไป มักอยู่ตามต้นไม้ ซึ่งแผลมักจะทำให้เกิดการบวมมากกว่ามีเลือดออก
-งูกะปะ พบไดทั่วไปในภาคกลาง หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่พบได้มากใน ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก ลักษณะงูมีลายรูปสามเหลี่ยมฐานกลับตรงสันของตัวงู สามารถทำให้แผล ที่มีการบวมเป็นตุ่มน้ำหรือเนื้อตายได้มาก
4.ผู้ป่วยมีภาวะเลือดไม่แข็งตัว แต่แผลไม่บวม
คิดถึงงูแมวเซา
ยืนยันได้โดย เป็นงูที่พบได้เฉพาะในภาคกลางกับ บริเวณภาคตะวันออกตอนบน เช่น ปราจีนบุรี และสระแก้ว
5.ผู้ป่วยมีปวดบวมกล้ามเนื้อ และ แผลบวมเล็กน้อย
คิดถึง งูทะเล
เอกสารอ้างอิง
https://sites.google.com/site/medicnote/miscellaneous/snake-bite