Design thinking

Design thinking

เน้น Human-center approach แนวคิดเพิื่อการออกแบบสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ

Stanford d.school : Design thinking

แบ่งขั้นตอนกระบวนการคิดออกเป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่

Empathize, Define, Ideate, Prototype, และ Test

จากทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ จะเห็นได้ว่า

1.ขั้นตอนที่หนึ่งและสอง (Empathize และ Define) เป็นขั้นตอนทำความเข้าใจและตีความปัญหาอย่างลึกซึ้ง

2.ขั้นตอนที่สาม (Ideate) คือขั้นตอนในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และมุมมองจากหลายๆ ด้านมาสร้างไอเดีย

3.ขั้นตอนที่สี่และห้า (Prototype และ Test) คือขั้นตอนในการทดสอบแนวคิดและพัฒนาต้นแบบที่เป็นตัวอย่างแนวคิด

เพื่อให้ได้แนวทางหรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์/ปัญหาที่เกิดขึ้น

Empathize: ทำความเข้าใจต่อกลุ่มเป้าหมาย

เช่น การสัมภาษณ์ สุ่มตัวอย่าง การสังเกต หรือ จำลองสถานการณ์

จะสร้างสรรค์สิ่งใดก็ตาม ต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนก่อน ทำความเข้าใจให้มากที่สุด

ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา นี่คือก้าวแรกของความสำเร็จ

คำถามสำคัญ 'Why"

Define: ตีความหมายของปัญหา ที่เกิดขึ้น คือ ต้องดีโจทย์ให้แตก ว่าอะไรที่ความหมายที่แท้จริง

การสังเคราะห์ข้อมูล ใช้คำถามปลายเปิดผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ไม่จำกัดกรอบ

การวิเคราะห์ความต้องการที่ถูกต้อง คำตอบที่ใช่นั้นมาจากการตั้งคำถามที่ถูกต้อง

เป็นการกำหนดให้ชัดเจนในตัวปัญหาว่าจริงๆแล้ว ปัญหานั้นคืออะไร เลือกและสรุปแนวทาง

Ideate: ระดมความคิดสร้างจินตนาการ

การรวบรวมมุมมองและใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้นอย่างไม่มีกรอบจำกัด (หมายเหตุ: รวบรวมความคิด ไม่ใช่การวิพากษ์ความคิด)

ระดมความคิด สร้างความคิดต่างๆ ไม่มีขีดจำกัด หาแนวทางหาความคิดที่หลากหลาย

เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดขึ้น ตอบ define

Prototype: สร้างแบบจำลอง

จำลองสถานการณ์ของแนวทางการแก้ไขปัญหานั้นขึ้นมา เพื่อสร้างประสบการณ์จากการเรียนรู้จริง

สร้างแบบจำลอง สร้างต้นแบบ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดสอบตอบคำถามหรือกระตุ้นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์

เพื่อจะเข้าใจสิ่งที่เราอยากรู้มากยิ่งขึ้น ยิ่งสร้างเร็วยิ่งได้ลองหาข้อผิดพลาดได้เร็ว และ เรียนรู้ไอเดียเราได้เร็วขึ้นด้วย

Test: ทดสอบ

การทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อรวบรวม Feedback และข้อเสนอแนะ เพื่อพัฒนาแนวทางต่อไป

ทดสอบเพื่อสังเกตประสิทธิภาพการใช้งาน นำข้อเสนอแนะและคำแนะนำมาพัฒนาและปรับปรุงต่อไป

UK Design Council : The Double Diamond Design Process

แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่

Discover Define Develop และ Deliver

จะเห็นได้ว่า กระบวนการคิดเชิงออกแบบของ UK Design Council จะคล้ายกันกับแนวคิดของ d.school อยู่มาก ก็คือ

1.ขั้นตอนที่หนึ่งและสอง (Discover และ Define) เป็นขั้นตอนทำความเข้าใจและตีความปัญหาอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการวางแผนโครงการ

2.ขั้นตอนที่สาม (Develop) คือขั้นตอนในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และมุมมองจากหลากหลายด้านมาสร้างไอเดียหลากหลายไอเดีย พัฒนาให้ภาพและทดสอบไอเดียต่างๆ

3.ขั้นตอนที่สี่ (Deliver) คือขั้นตอนในการทดสอบช่วงสุดท้ายก่อนที่จะนำเอานวัตกรรมออกสู่ตลาด หรือนำเอาไปใช้จริง

สรุป เบบเน้นๆ

Design Thinking แบ่งออกเป็น 3 ส่วน

Understand-Create-Deliver : เปิดใจ ต่อยอด ลงมือให้เร็ว

เข้าใจ สร้างสรรค์ ลงมือ

1. Understand

คือการทำความเข้าใจ ศึกษาค้นหา Insight ของเหตุการณ์และบุคคลที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ และตีความหาโจทย์ที่น่าสนใจสำหรับมาใช้ในการคิดแก้ปัญหาต่อไป

Tips:

· เปิดใจรับฟังปัญหา ห้ามตีกรอบ หรือตัดสินปัญหาด้วยมุมมองของเราเพียงฝ่ายเดียว

· เอาใจเขา มาใส่ใจเรา เข้าไปซึมซับในสถานที่ และประสบการณ์จริง

· สัมภาษณ์หาข้อมูล Insight ให้ได้ลึกและชัดเจนที่สุด ใช้ 5 Whys (https://open.buffer.com/5-whys-process/)

· เลือก โจทย์ ที่คนในทีมทุกคนสนใจ และเห็นพ้องตรงกัน

· อย่าเพิ่งคิดแนวทางแก้ไขปัญหาตั้งแต่แรก เพราะไอเดียที่ได้อาจจะไม่ได้แก้ไขปัญหาจริงๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นได้

2. Create

คือการสร้างไอเดีย หรือการต่อยอดไอเดียจากหลากหลายมุมมองของคนภายในทีม เพื่อสร้างสรรค์ไอเดียนวัตกรรมที่แปลกใหม่และตอบโจทย์การแก้ไขปัญหานั้นๆ

Tips:

· ห้ามประเมินไอเดียของคนอื่น เพราะมันจะเป็นการบล็อกความคิดสร้างสรรค์ และทำลายบรรยากาศภายในทีม

· ห้ามประเมินไอเดียของตนเองเช่นกัน คิดอะไรออก ให้เขียนลง Post it และพูดออกมาเลย

· ไอเดียธรรมดา สามารถกลายเป็นสุดยอดไอเดียได้

· เน้นปริมาณ ไม่เน้นคุณภาพ

· ต่อยอดไอเดียซึ่งกันและกัน

3. Deliver

คือการพัฒนาไอเดีย สร้างต้นแบบ และนำไปทดลองกับกลุ่มเป้าหมาย รับ Feedback เพื่อนำไปพัฒนาต้นแบบ จนกระทั่งคนภายในทีมและกลุ่มเป้าหมายพึงพอใจ แล้วนำเอานวัตกรรมนั้นไปใช้จริง

Tips:

· Fail Fast, Fail Often, Fail Cheap, Fail forward

· รีบลงมือทำ อย่ามัวแต่วางแผน

· ต้นแบบเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความคิดในหัว ให้ออกมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้เพื่อใช้ในการพิสูจน์ไอเดีย

“Design thinking is about creating a multipolar experience in which everyone has the opportunity to participate in the conversation”. Brown (2009, p.192)

เกร็ดความรู้:

· สมาชิกภายในทีมควรรวมกันจากหลากหลายสายอาชีพ เพื่อจะทำให้ได้หลากหลายมุมมอง อาทิเช่น Business, Design, Engineer, และ Environmental Science เป็นต้น

· เปิดใจ รับฟัง ไม่ยึดติดกับความคิดของตัวเอง คือ คุณสมบัติหลักที่สมาชิกภายในทีมต้องมี

· ในการทำ Design Thinking ผู้เชี่ยวชาญมักจะบอกว่า

“Stop Talking, Start Doing” อย่ามัวแต่คุยวางแผนให้ยืดยาว รีบลงมือทำให้เร็ว

รีบล้มเหลวจากสิ่งเล็กๆ เพื่อที่จะป้องกันการล้มเหลวครั้งใหญ่ในตอนท้าย

· เรามักใช้กระดาษ Post-it ในการเขียนประเด็นต่างๆ ทั้งปัญหาต่างๆ ที่ได้มาจากขั้นตอน Empathy เพื่อใช้ในการ Define ปัญหา และยังใช้ในขั้นตอน Ideate อีกด้วย

· 3 คำง่ายๆ สำหรับ Design Thinking “เปิดใจ ต่อยอด ลงมือเร็ว”

สรุปจาก

https://medium.com/base-the-business-playhouse/design-thinking-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-overview-dc8c8e7547db

https://www.applicadthai.com/articles/%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-design-thinking/