SIPOC

SIPOC

ประโยชน์ของการวิเคราะห์กระบวนการทำงานโดยใช้ SIPOC

ทำให้เราสามารถย้อนกลับไป ปรับปรุงกระบวนการ หรือ re-design ได้

มีคำศัพท์ 2 คำที่นิยมใช้ คือ

1.กระบวนการที่เป็น as is (สภาพปัจจุบัน)

2.กระบวนการที่เป็น to be (ที่ควรจะเป็น)

เราต้องรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็น

- stakeholders หรือ supplier (ผู้ส่งมอบ)

- customers (ลูกค้า) จากทั้งภายในและภายนอกองค์กร

- อะไรเป็นความต้องการ (need) ที่แท้จริงของเขา

- มีตัวชี้วัด (KPI) เพื่อวัดความพอใจด้วย

เราต้องกำหนด

คุณลักษณะ (specification) ของ

- input (ปัจจัยนำเข้า)

- process (กระบวนการหรือขั้นตอนการดำเนินงาน)

- output (สินค้าหรือบริการ)

- พร้อมกับ กำหนดตัวชี้วัดทุกขั้นตอน

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำ SIPOC

-เป็นการ re-sign กระบวนการ ซึ่งควรทบทวน SIPOC อย่างน้อยปีละครั้ง

-ผลการทบทวนกระบวนการ ทำให้เราทราบจุดแข็ง (strength) และโอกาสพัฒนา (Opportunity of Improvement – OFI หรือ โอฟี่)

-สามารถกำหนดแผนเพื่อหาทางพัฒนากระบวนการให้ดีขึ้น

ควรกำหนดว่า

1.ใครเป็นผู้รับผิดชอบ

2.มีการกำหนดเป้าหมาย (target)

3.การตั้งเป้าเป็น KPI และ

4.กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จ

https://www.slideshare.net/maruay/sipoc-model

เพิ่มเติม

S suppliers

I Inputs

P Process

O Outputs

C Customers

จะทำอะไรทุกกิจกรรมต้องมี siproc หมดทุกอย่าง

กินข้าว ล้างรถเป็นเสี้ยวหนึ่งของ supply chain 1 ห่วง คือ 1 siproc

มาร่อยต่อเป็น supply chain

งานที่ตอบสนองลูกค้าตนเดียว นั้นเห็นได้เลยว่า

มีคนที่เกียวข้องอยุมากมาย คนนัด คนโทรตาม

คนรับผิดชอบ กระบวนการ คนโทรก็ต้องมีข้อมูล

มี lead time ต้องโทรภายในวันไน ช่วงไหนก็ต้องมี

S suppliers ต้องดี การทำต้มยำไก่ เอาไก่บ้านมาทำต้องสด รสชาติดี

I Inputs ที่ดีต้องมี s ที่ดีต่อเนื่องกัน

P Process สำคัญ

O Outputs คือ การบริการแม้อาจารย์ ก็คือ การบริการ ให้นักศึกษามีความรู้ม6จบออกไปแล้ว

ความรู้เปลี่ยน 3 ชั่วโมงที่เจอกัน ไม่เปลี่ยนคือล้มเหลว

เอาความรู้ใหม่เติมความรู้เดิม ต้องเปลีย่น

C Customers ต้องการอะไรคือ product เช่นรถยนต์ รถสมรรถนะดี มีความแรง แต่ลูกค้าบอกที่อยากได้

คือประหยัดน่ำมัน ดังนี้นต้องดูว่าลูกค้าต้องการอะไร

ปัญหา ถ้าหาไม่เจอให้ถามลูกค้า

คือ ต้องหาลูกค้าให้เจอก่อน

เรื่องของ flow เรื่องของ Lay out มีผลต่อลูกค้าทั้งนั้นเลย

Process

ถ้ามีของดีไม่ดี มั่นใจว่าใครก็ได้ที่เรียนจบม.6ได้

สอนให้เรียนจบได้

ถึงจุดหนึ่งบอกเอาสีอะไรได้ ก็สามารถวาดให้เป็นศิลปะชั้นเลิศได้

สุดท้ายเป็นเรื่อง ทักษะ และ skill ในการทำงาน

สุดท้ายแก้ปัญหาเรื่อง ไม่ได้ out put ตามที่ลูกค่าต้องการ

เพราะ process มีส่วนเกี่ยวข้องมากมาย คน เครื่องจักร เครื่องไม้ เครื่องมิอมือ

เช่น เครื่องมือทำฟันหากไม่คมก็ทำงานยาก เป็นต้น

เครื่องมือให้ qulity ที่ต่างกัน ขั้นตอนการทำงาน เทคโนโลยี

การจัดคิวการนัด เป็นเร่ือ่งการจัดการ แก้ปัญหา productivity ได้

เช่น การนัด ลดการรอคอยได้

Keizen ส่วนตัวไม่พบแพทย์ คือไม่ป่วยดีกว่า

Customer

ปัญหาให้มองที่ customer ทำงานให้ใคร

support หนีไม่พ้นคือ ลูกค้าภายใน

ลูกค้า ดู internal , external customer

ส่วนใหญ่มองแต่ external customer

ระวังเอา value หนึ่งไปทำงานอีก value หนึ่ง

customer speak หรือ voice of customer

เป็นตัวบอก output ของเราว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร

เห็นได้ว่า ทำเฉพาะตัวคนเดียวเป็นเสี้ยวหนึ่งของห่วง

เราจะพัฒนาอะไรได้ จะทำได้ก็ต่่อเมื่อมี 1 ห่วง siproc ชัดเจน

การรวมทีมกันก็มีความหลากก็ดี

แต่ควรเอางานที่เกี่ยวข้องกันเพราะมีผลต่อการทำงานด้วย