2I 4: Prevention and Control Spread of Multidrug-Resistant Organisms (MDRO)
Definition
เชื้อดื้อยาหลายขนาน (Multidrug-resistant organisms) คือ เชื้อที่ดื้อต่อยาต้าน
แบคทีเรียอย่างน้อย 3 กลุ่มที่น ามาทดสอบ เชื้อดื้อยาอย่างกว้างขวาง (Extensively drugresistant) คือ เชื้อที่ดื้อต่อยาต้านแบคทีเรียหลายขนานมากจนเหลือยาที่ยังมีฤทธ์ต่อเชื้อนั้นไม่
เกิน 2 ชนิด
Goal
ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อดื้อยาในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
Why
การติดเชื้อดื้อยาเป็นปัญหาการติดเชื้อที่ส าคัญในโรงพยาบาลทุกระดับและมีแนวโน้มทวี
ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ท าให้การรักษามีความยุ่งยาก ก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อผู้ป่วย
ผู้ป่วยทุกข์ทรมาน ต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้น เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงขึ้น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ
ดื้อยามีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่ไม่ดื้อยา ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
ของโรงพยาบาลและระบบสาธารณสุข เชื้อก่อโรคในปัจจุบันดื้อยามากขึ้นจากเชื้อดื้อยาหลาย
ขนาน (multidrug-resistant) เป็นเชื้อดื้อยาอย่างกว้างขวาง (extensively drug-resistant) จนถึง
ดื้อยาต้านจุลชีพทุกชนิด (Total-drug-resistant)
Process
กิจกรรมส าคัญที่โรงพยาบาลควรด าเนินการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อและการติดเชื้อ
ดื้อยา ประกอบด้วย
1. การสนับสนุนของผู้บริหาร การก าหนดนโยบายและแนวทางการด าเนินงานในการป้องกัน
การติดเชื้อดื้อยาของโรงพยาบาลที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร การจัดตั้งคณะกรรมการ
รับผิดชอบโดยตรง การสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จ าเป็นและการพัฒนา
ความรู้บุคลากร การติดตามผลการด าเนินงานป้องกันการติดเชื้อดื้อยา
2. การจัดท าแนวปฏิบัติตามหลัก standard precautions และ contact precautions เผยแพร่
แก่ทุกหน่วยงานที่ให้การดูแลผู้ป่วย ให้ความรู้บุคลากรผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับแนวปฏิบัติใน
การป้องกันการปนเปื้อนและแพร่กระจายเชื้ออย่างถูกต้อง เช่น การท าความสะอาดมือ การ
สวมใส่เสื้อคลุมและถุงมือ เป็นต้น
3. การเฝ้าระวังการติดเชื้อดื้อยาที่มีความส าคัญและส่งผลกระทบรุนแรง ก าหนดเกณฑ์การ
วินิจฉัยการติดเชื้อดื้อยาที่เป็นมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลและรายงานการติดเชื้อดื้อยาแก่
ผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง ค้นหาการระบาดของเชื้อดื้อยา
4. การพัฒนาห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาให้สามารถวินิจฉัยเชื้อก่อโรคและเชื้อดื้อยาได้อย่าง
ถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาผู้ป่วยและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากโรงพยาบาลไม่สามารถตรวจเพาะเชื้อได้เองควรสร้างระบบ
เครือข่ายร่วมกับโรงพยาบาลที่มีห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาที่อยู่ใกล้เคียง หรือ
ห้องปฏิบัติการที่โรงพยาบาลใช้บริการอยู่ให้ได้ผลการตรวจที่รวดเร็ว
5. ก าหนดแนวทางการใช้ยาของโรงพยาบาล ไม่ให้มีการใช้ยาปฏิชีวนะเกินจ าเป็นโดยเฉพาะ
ยาปฏช ิ ว ี นะทอ่ ี อกฤทธก ิ ์ วา้ ง ตด ิ ตามและประเมน ิ ผลการใชย ้ าตา้ นจล ุ ชพ ี
6. การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ก าหนดมาตรการแยกผู้ป่วยตามชนิดของเชื้อดื้อยาและ
ความรุนแรงของการระบาดของเชื้อ โดยมาตรการหลักคือ standard และ contact
precautions ในกรณีเชื้อดื้อยาที่เป็นปัญหารุนแรง ให้พิจารณาแยกผู้ป่วยเข้าห้องแยกหรือ
จัดบริเวณ (zoning, cohort) ให้ผู้ป่วยโดยเฉพาะ
7. การก าหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในการท าความสะอาดและท าลายเชื้อพื้นผิวสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อย ให้ความรู้บุคลากรที่ท าหน้าที่ในการจัดการสิ่งแวดล้อม
สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันและอุปกรณ์ในการท าความสะอาดและท าลายเชื้อสิ่งแวดล้อม
8. การย้ายผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล พัฒนาระบบรับและส่งต่อผู้ป่วย ระบบการติดต่อ
ประสานงานเพื่อให้หน่วยงานทราบว่าผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยา การส่งต่อผู้ป่วยแจ้งให้หน่วยงาน
ที่รับผู้ป่วยทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
Training
ให้ความรู้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลเกี่ยวกับ contact precautions และการท าลายเชื้อใน
สิ่งแวดล้อม การเก็บและน าส่งสิ่งส่งตรวจ
ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวขณะอยู่โรงพยาบาลและการท าความ
สะอาดมือ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาลและการแพร่กระจายเชื้อสู่ชุมชน
Monitoring
การปฏิบัติตามหลัก Contact precautions และการท าความสะอาดมือของบุคลากร
การท าความสะอาดและท าลายเชื้อสิ่งแวดล้อม
การให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติ
อัตราการพบเชื้อดื้อยาที่เป็นปัญหาส าคัญในโรงพยาบาลนั้น ๆ
Pitfall
โรงพยาบาลไม่มีห้องปฏิบัติการ ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากห้องปฏิบัติการหรือเครือข่าย หรือ
คุณภาพห้องปฏิบัติการยังไม่ได้มาตรฐานทั้งในแง่จ านวนบุคลากรและวัสดุอุปกรณ์ที่จ าเป็น
ท าให้วินิจฉัยเชื้อก่อโรคและการดื้อยาของเชื้อได้ล่าช้า หรือคลาดเคลื่อน ส่งผลทั้งต่อการ
รักษาและการป้องกัน
การใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคลมีข้อจ ากัด เนื่องจากอุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วน
บุคคลมีไม่ครบทุกประเภทและมีไม่เพียงพอ
การแยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยาไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากหอผู้ป่วยแออัด ห้องแยกในหอ
ผู้ป่วยมีไม่เพียงพอ และพื้นที่จ ากัด
บุคลากรท าความสะอาดมือน้อยกว่าที่ควร อาจเนื่องจากมีอ่างล้างมือไม่เพียงพอ ผ้าหรือ
กระดาษเช็ดมือไม่พียงพอ แอลกอฮอล์ส าหรับท าความสะอาดมือไม่เพียงพอหรือมีคุณภาพ
ไม่ดี รวมทั้งการขาดความตระหนักถึงความส าคัญของการท าความสะอาดมือ
มีการใช้วัสดุอุปกรณ์ร่วมกันระหว่างผู้ป่วย
การให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติไม่สามารถท าได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง เนื่องจาก
ญาติผู้ป่วยมีจ านวนมากและบุคลากรมีภาระงานมาก
บุคลากรผู้ท าหน้าที่จัดการสิ่งแวดล้อมขาดความรู้และมีการปฏิบัติไม่ถูกต้อง
มาตรฐาน HA
การปฎิบัติตามแนวทางข้างต้น คือการปฏิบัติตามมาตรฐาน โรงพยาบาลและบริการ
สุขภาพ ฉบับที่ 4 ตอนที่ II หมวดที่ 4 ข้อ 4.2 ก. การป้องกันการติดเชื้อทั่วไป (4), หมวดที่ 6
ข้อ 6.1 การก ากับดูแลการจัดการด้านยา (5)