4P 3.1 Pre-placement and Return to Work Health Examination
P 3.1: Pre-placement and Return to Work Health Examination
Definition
การประเมินความพร้อมต่อสุขภาพส าหรับการท างานที่มีความเสี่ยงสูง สามารถ การ
ประเมินความพร้อมของสุขภาพก่อนเริ่มงานและการประเมินความพร้อมของสุขภาพก่อน
กลับเข้าท างานหลังจากเจ็บป่วย
Goal
การป้องกันไมให้บุคลากรเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพหากต้องท างานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น
การสัมผัสสารคัดหลั่ง เลือด น ้าเหลือง สารเคมี รังสี เสียงดัง
Why
1. เนื่องจากสิ่งแวดล้อมในการท างาน อาจมีผลต่อสุขภาพที่มีอยู่เดิมท าให้ร่างกายอาจ
ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น อาจเกิดโรคเรื้อรังและอาจมีผลต่อชีวิตและจิตใจได้ ท าให้
ประสิทธิภาพในการท างานลดลงได้ นอกจากนั้นงานที่เสี่ยงต่อสิ่งคุกคามต่อสุขภาพ เช่น
บุคลากรสุขภาพที่มีโอกาสติดเชื้อที่ผ่านมาทางเลือดและน ้าเหลือง จ าเป็นต้องมีภูมิคุ้มกัน
การติดเชื้อ ก่อนเริมปฏิบัติงาน
2. สอดคล้องกับปฏิบัติตาม กฎกระทรวงแรงงานก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจ
สุขภาพของลูกจ้างและส่งผลการตรวจแก่พนักงานตรวจแรงงาน พ.ศ. 2547
Process
1. ปฏิบัติตาม กฎกระทรวงแรงงานก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของ
ลูกจ้างและส่งผลการตรวจแก่พนักงานตรวจแรงงาน พ.ศ. 2547
2. ปฏิบัติตาม ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง ก าหนดสารเคมีอันตรายที่ให้นายจ้างจัด
ให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง พ.ศ. 2552
3. ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับ 4409 (พ.ศ. 2555) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง ก าหนดมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แนวปฏิบัติการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงด้านสารเคมีและ
กายภาพจากการประกอบอาชีพในสถานประกอบกิจก
4. บุคลากรที่ต้องท างานสัมผัสกับผู้ป่วยหรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วยต้องมีภูมิคุ้มกันต่อ
ไวรัสตับอักเสบชนิดบี
5. บุคลากรที่ต้องสัมผัสกับเสียงดังตั้งแต่ 85 เดซิเบลเอ ต้องได้รับการตรวจการได้ยิน
เป็นพื้นฐาน
6. บุคลากรที่ปฏิบัติงานกับสารเคมี รังสี แสงสว่าง ต้องได้รับการตรวจสุขภาพก่อนเข้า
งานตามแนวปฏิบัติที่แนะน า ให้เหมาะสม ถูกต้องกับสิ่งคุกคามนั้นๆ
7. บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านสุขภาพควรได้รับภูมิคุ้มกันต่อ ไวรัสตับอักเสบชนิดบี โรค
สุกใส โรคหัด คางทูม และ ไข้หวัดใหญ่
8. บุคลากรที่มีการเจ็บป่วยหรือลางานจากการเจ็บป่วยใดๆ โดยเฉพาะ หลังผ่าตัด หรือ
เป็นโรคระบบหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคติดเชื้อ โรคระบบประสาท
ตลอดจนการที่บุคลากรต้องใช้อุปกรณ์ช่วยพยุง หรือเคลื่อนย้ายนั้นต้องได้รับการ
ประเมินสุขภาพกายและจิตใจก่อนกลับไปปฏิบัติหน้าที่เดิม ทั้งนี้แพทย์ผู้ประเมิน อาจ
มีความเห็นว่า กลับเข้าท างานเดิมได้ หรือห้ามท ากิจกรรมบางอย่างชั่วคราว/ถาวร
หรือจ าเป็นต้องเปลี่ยนงาน/หน้าที่
9. โรงพยาบาลควรมีทีมงานหรือหน่วยงานในการบริหารและจัดการด้านสุขภาพ/อาชีวอ
นามัยของบุคลากร
Training
1. อบรมบุคลากรใหม่เรื่ออาชีวอนามัยพื้นฐาน และการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพในที่
ท างาน
2. อบรมให้ความรู้เรื่องวัคซีนที่จ าเป็นส าหรับบุคลากรสุขภาพ
3. บุคลากรทุกคนต้องได้รับการอบรม standard precaution
Monitoring
1. ติดตามสถิติการเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มปฏิบัติงาน โดยต้องได้รับการ
ประเมินสุขภาพภายใน 30 วันหลังจากเริ่มปฏิบัติงาน
2. ตรวจสอบความครอบคลุมของบุคลากรสุขภาพที่มีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสตับ
อักเสบชนิดบี
Pitfall
1. บุคลากรมักไม่เห็นความส าคัญในการประเมินสุขภาพก่อนเริ่มงานและไม่ให้
ความส าคัญกับการมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบชนิดบี
2. สถานพยาบาลมีข้อจ ากัดในการบันทึกประวัติสุขภาพของบุคลากรตั้งแต่เริ่ม
ปฏิบัติงาน
3. สถานพยาบาลมีความเข้าใจว่าการดูแลสุขภาพบุคลากรนั้นกระท าเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น
แต่แท้ที่จริง การดูแลสุขภาพของบุคลากรควรด าเนินการตั้งแต่วันแรกที่เริ่มปฏิบัติงาน
4. การป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรสุขภาพ อาจมีหลายหน่วยการเกี่ยวจ้อง จ าเป็นต้อง
มีการระบุหน้าที่และผู้รับผิดชอบ ตลอดจนการไหลของงานให้ชัดเจน
มาตรฐาน HA
การปฎิบัติตามแนวทางข้างต้น คือการปฏิบัติตามมาตรฐาน โรงพยาบาลและบริการ
สุขภาพ ฉบับที่ 4 ตอนที่ I หมวดที่ 5 ข้อ 5.1 สภาพแวดล้อมของก าลังคน (WKF.1) ค.
สุขภาพและความปลอดภัยของก าลังคน (1), (2), (3) และ (4)