Design Action Learning Improvement เป็นเครื่องมือสำหรับพัฒนางานของเรา
ต้องรู้จักวิธีการออกแบบระบบงาน(/การบริการ สิ่งของ...)
ทำอย่างไรให้มันเกิดขึ้นจริงได้ใช้งานจริง
เมื่อลองทำแล้วไม่สำเร็จไม่ได้ผลเราเรียนรู้อะไรบ้าง
และสุดท้ายเราจะปรับปรุงทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร
Design ทบทวนการออกแบบระบบ
ระบบที่มีการออกแบบที่ดี ทำให้การทำงานเดินหน้าได้อย่างราบรื่น
1.ทบทวนองค์ความรู้ Knowledge ข้อมูลวิชาการ Evidence แนวทางปฏิบัติมาตรฐาน Guideline
(K-E-G) Knowledge - Evidence - Guideline
2.วิเคราะห์ GAP ของการปฏิบัติ ว่าต่างกับ K-E-G อย่างไร ระบุกลุ่มเป้าหมายที่เจาะจง หรือกำหนด priorities
3.มีผู้ป่วยหรือกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใดที่ควรได้รับการใส่ใจเป็น พิเศษ เราได้ออกแบบเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวอย่างไร?
เริ่มต้นทบทวนที่เรา
1.รวบรวมความรู้เชิงปฏิบัติ (tacit knowledge) ทั้งนอกและในองค์กร
2.หาจุดอ่อนในการปฏิบัติ
3.แนวทางที่กำหนดไว้ทำได้หรือไม่ มี VM ใช้บ้างหรือไม่
หัวใจสำคัญ คือ People Center
การออกแบบที่ดีต้องเข้าใจเรื่อง Design thinking และ Human behavior
Action/Deploy การสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติตามระบบ
ก่อนใช้ระบบผู้ใช้ต้องเข้าใจระบบก่อน
Train คนที่ทำงานรู้จริงในสิ่งที่ต้องรู้หรือไม่
Monitor กลไกอะไรเพื่อรับรู้ว่ามีการทำตามที่กำหนดไว้
Trace ตามรอยดู
1. แนวทางที่กำหนดไว้สามารถทำได้จริงหรือไม่? ส่วนที่ทำไม่ได้ หรือไม่นิยมทำ ก่อให้เกิดผลเสียหรือไม่ จะยกเลิกได้หรือไม่?
2. มีการนำ visual management มาช่วยอย่างไร เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงาน ทำงานได้ง่ายขึ้นและเป็นไปตามระบบที่ออกแบบไว้ มีการนำ แนวคิด lean มาช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นอย่างไรบ้าง?
3. ผู้ปฏิบัติรู้จริงในสิ่งที่ต้องรู้เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องหรือไม่? มีการ ฝึกอบรมผู้เกี่ยวข้องอย่างไร?
4. มีกลไกอะไรเพื่อรับรู้ว่ามีการปฏิบัติตามระบบที่กำหนดไว้ เช่น การติดตามตัวชี้วัด การสุ่มสำรวจ การตามรอย
Learning การเรียนรู้การปฏิบัติตามระบบ
ไม่มีระบบไหนที่สมบูรณ์ 100 % การทบทวน การพูดคุย คือ การเรียนรู้ระบบ
แบบประเมินการปฏิบัติ สร้างช่องทางการรับรู้ปัญหา ระบบกำกับติดตาม ตามรอย สนทนากลุ่ม
วิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ ดูระดับและแนวโน้ม จำแนกกลุ่มย่อย
1. มีข้อมูลอะไรที่ทีมงานของเราเก็บรวบรวมไว้ เราจะนำข้อมูล เหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อดูระดับเปรียบเทียบกับเป้าหมาย ดูแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา ดูความแตกต่าง ระหว่างกลุ่มย่อยต่างๆ ได้หรือไม่ ข้อมูลอะไรที่เป็นภาระในการ จัดเก็บแต่ใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้ม ข้อมูลอะไรที่ควรจะมีเพิ่มเติม?
2. มีแบบประเมินการปฏิบัติในระบบต่างๆ ที่องค์กรสุ่มสำรวจเป็น ระยะอะไรบ้าง? ตัวอย่างแบบประเมินเหล่านี้ได้แก่ แบบสำรวจ วัฒนธรรมความปลอดภัย แบบสำรวจความผูกพันและความพึง พอใจของบุคลากร แบบสำรวจสิ่งแวดล้อม แบบสำรวจการปฏิบัติ ในเรื่อง Hand Hygiene เราได้นำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และ ใช้ประโยชน์อย่างไร?
3. เรามีช่องทางการรับรู้ปัญหาจากการปฏิบัติงานอะไรบ้าง? ตัวอย่าง ช่องทางเหล่านี้ ได้แก่ Morning Brief, การส่งเวร, ระบบรายงาน อุบัติการณ์, Leadership walkround รวมทั้งการสนทนากลุ่มใน กลุ่มผู้สนใจเฉพาะเรื่อง เราได้นำข้อมูลจากการรับรู้ปัญหาดังกล่าวมาสู่การปรับปรุงแก้ไขอย่างเป็นระบบแล้วหรือไม่?
4. เราจะใช้ช่วงเวลาการปฏิบัติงานปกติในการตามรอยทางคลินิก อย่างเรียบง่ายด้วยเวลาสั้นๆ ได้อย่างไร?
5. ผู้บริหารมีระบบกำกับติดตามการปฏิบัติตามระบบที่ออกแบบไว้ อย่างไร? ผลการติดตามเป็นอย่างไร? มีการตอบสนองอย่างไร?
6. เราเห็นโอกาสที่จะทำวิจัยจากงานประจำ (R2R) อะไรบ้าง เพื่อให้ได้ความรู้ไปใช้ในการทำงานประจำ และการพัฒนาระบบ ให้ดีขึ้น?
7. ในภาพรวม หาเวลาวิเคราะห์ ใคร่ครวญ ประเมินว่าอะไรดี ดีเพราะเหตุใด อะไรยังไม่ดี ไม่ดีเพราะเหตุใด?
Improve การพัฒนา
จะก้าวออกนอกกรอบความคิดเดิมๆ ได้อย่างไร
จะหาแนวคิดใหม่ๆ ได้อย่างไร
จะชวนผู้คนมาทำเรื่องใหม่ๆ ได้อย่างไร
จะฝึกหาแนวคิดใหม่ๆ วันละเรื่องได้ไหม
1. เราจะฝึกหาแนวคิดใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาได้อย่างไร?
2. เราจะเสาะหาตัวจุดประกายแนวคิดใหม่ๆ แล้วนำมาต่อยอด ความคิดให้เหมาะสมกับบริบทของเราได้อย่างไร?
3. เราจะชักชวนผู้คนมาทำเรื่องใหม่ๆ หรือชวนกันก้าวข้ามข้อ ขัดแย้งด้วยแนวคิดที่แตกต่างเพื่อบรรลุความคิดอีกระดับหนึ่ง ได้อย่างไร?
การพัฒนาอาจจะเป็นการปรับปรุงด้วยวิธีง่ายๆ เช่น
visual management, user centered design หรือ human factor engineering
ไปจนถึงการสร้างนวัตกรรมที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ วิธีการรักษา หรือนวัตกรรม ของระบบงาน โดยอาจมีการทำวิจัยเพื่อพิสูจน์ประสิทธิผลของนวัตกรรม ดังกล่าว
พื้นฐานสำคัญที่สุดของการพัฒนาหรือการปรับปรุงคือ การก้าวออก นอกกรอบความคิดเดิมๆ ไปสู่การใช้แนวคิดใหม่ๆ ใช้วิธีการใหม่ๆ
สรุปอีกแบบ
1.Design หัวใจของการออกแบบต้องดูลูกค้าหรือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง patient Center - customer Centric - human center
การยึดผู้ป่วย-ลูกค้า-คน เป็นศูนย์กลางได้เราต้องมี empathy หรือเอาใจเขามาใส่ใจเรา
และการออกแบบที่สำคัญ ต้องง่าย สวย และ ปลอดภัย
ง่าย หมายถึง ผู้ใช้งาน สามารถใช้งานได้ง่าย ซิมพลิซิตี้ เข้าใจได้ง่าย ทำง่าย ขั้นตอนไม่ซับซ้อน
สวย หมายถึง การมีศิลปะเข้าใจถึงอารมณ์ของมนุษย์
ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ไม่ต้องจำก็ทำได้
ปลอดภัย ล๊อคขั้นตอนปลอดภัย ทำแล้วเสี่ยงน้อยสุด
สรุป
human center. Empathy. Simplicity. Mood. Safety
2.Action
คือการลงมือทำ สิ่งสำคัญที่สุดในการออกแบบ หากคิดแล้วไม่ลงมือทำสิ่งนั้นย่อมไม่เกิด
การลงมือทำสิ่งสำคัญอันไหนที่ทำได้ทำเลยเรียกว่า power of now พลังแห่งปัจจุบันแห่งการทำเดี๋ยวนี้ที่ดีที่สุด หรือ ใช้วิธี อะไรที่ทำได้ภายใน 2 นาทีให้ทำให้เสร็จนะตอนนี้เลยเราเรียกว่ากฏ 2 นาที
และสิ่งสำคัญคือ อย่างเราต้องกำหนดเดดไลน์หรือเส้นตาย เช่นเราเปิด แผนกผู้ป่วยใหม่ต้องกำหนดว่าภายในวันที่นั้นต้องเสร็จ
สรุป
Power of now. กฏ 2 minute. Deadline
3.Learning
เป็นเรื่องของ Result คือ การเรียนรู้หลังจากเราลงมือทำแล้วเราต้องดูผลลัพธ์ว่าเป็นยังไงบ้าง
ก็จะมีอยู่ 2 ทาง คือ ประสบความสำเร็จ success หรือล้มเหลวคือ failure
สิ่งสำคัญต้องมี failure mindset คือในการทำอะไรบางอย่างหากเราไม่รู้ เป็นของใหม่ เราสามารถทดลองทำ สิ่งที่ทำ สำเร็จหรือล้มเหลว สามารถเกิดขึ้นได้ หัวใจเธอเราต้องยอมรับผลลัพธ์นั้น แล้วเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นนำมาปรับปรุงแก้ไข หรือ experimental mindset ทดลองทำ
แต่ต้องแยกความล้มเหลวออกจากความละเลย
ความล้มเหลว ในความหมายนี้คือ ไม่รู้แต่ลองทำ
ละเลยคือ รู้แต่ไม่ทำหรือทำในสิ่งนั้นทั้งที่รู้ แล้วทำให้เกิดความผิดพลาด
สรุป
Failure mindset. Success mindset. Acception
4.Improvment
การพัฒนาให้ดีขึ้นตัวอย่าง 3 เรื่องคือ
1 ใครเซ็นคือทำวันละเล็กวันละน้อยให้ดีขึ้นในทุกๆวันแม้วันละ 1% ในการปรับเปลี่ยน 100 วันก็ได้ 100%
2 Reengeneering
คือการปฏิวัติใหม่จากหน้ามือเป็นหลังมือตัวอย่างเช่นการจัดยาใช้เครื่องจักรใช้หุ่นยนต์แทนคนหรือปฏิวัติใหม่เริ่มต้นจากศูนย์เลยโดยใช้หลัก First Principle-Zero base principle หมายความว่าบางครั้งระบบมีอยู่แล้วแต่มีปัญหาเยอะ เราลบทิ้งแล้วเริ่มคิดจาก 0 คือหากไม่มีระบบแล้วเราวางระบบใหม่จะทำอย่างไร หรือบางอย่างมีฐานข้อมูลของปีที่แล้วแล้วคิดเพิ่มหรือลดจากฐานข้อมูลเดิม แต่ไม่เอาเราคิดใหม่ทั้งหมดเลย เริ่มต้นจาก 0
3 Innovation คือการใช้หลักของนวัตกรรมนวัตกรรมคือวิธีคิด 4 ขั้นตอนเป็นกระบวนการคิดเริ่มด้วยเอ็มพาตี้
แล้วมาช่วยกันระดมความคิด หาทางออก แล้ว สร้าง prototype ซึ่งก็จะย้อนกลับไปที่กระบวนการของ การดีไซน์ตัวแรกของ DALi
สุดท้ายก็จะเป็นวงล้อแห่งการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
สรุป
Keisen. Reengeneering. Innovation