4P 4.1: Preventing Patient Falls
Definition
การป้องกันการลื่นตกหกล้มหมายถึงการวางมาตรการต่างๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลดี ในการป้องกัน
ไม่ให้ผู้ป่วยลื่นตกหกล้มและบาดเจ็บจากการลื่นตกหกล้ม
Goal
ลดอุบัติการณ์การลื่นตกหกล้ม และการบาดเจ็บจากการลื่นตกหกล้ม
Why
การลื่นตกหกล้มในโรงพยาบาลยังเป็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลอย่าง
ต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเช่นกระดูกหัก ผิวหนัง
ถลอก หรือมีเลือดออกจากอวัยวะภายใน ท าให้ผู้ป่วยถูกจ ากัดกิจกรรม มีความเจ็บปวด ต้องอยู่
โรงพยาบาลนานขึ้น เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มขึ้น และอาจเป็นสาตุท าให้โรงพยาบาลถูก
ฟ้องร้องได้
Process
1. ประเมินความเสี่ยงต่อการลื่นตกหกล้มเมื่อแรกรับเข้ารักษา(เน้นการลื่นตกหกล้มที่เกี่ยวกับ
ด้านร่างกาย)
1) ใช้เครื่องมือประเมินความเสี่ยงต่อการลื่นตกหกล้มที่เป็นมาตรฐานในการประเมินผู้ป่วย
เมื่อแรกรับเช่น Morse Fall Risk Assessment หรือ Hendrich Fall Risk Assessment
2) ถ้าอายุมากกว่า 65 ปี ให้ถามประวัติเกี่ยวกับการลื่นตกหกล้มโดยการถามตามช่วงเวลา
ขึ้นกับเครื่องมือการประเมินความเสี่ยงที่ใช้ เช่นภายใน 12 เดือนที่ผ่านมาเคยลื่นตกหก
ล้มหรือไม่
2. ประเมินปัจจัยและประวัติเกี่ยวกับการบาดเจ็บจากการลื่นตกหกล้มเมื่อแรกรับเข้ารักษา
1) ประเมินปัจจัยที่ท าให้การลื่นตกหกล้มแล้วจะเกิดการบาดเจ็บที่รุนแรง (history of
osteoporosis, risk factors or fracture, presence of anticoagulation/bleeding
problems)
2) ถามประวัติเกี่ยวกับการลื่นตกหกล้มที่เกิดการบาดเจ็บรุนแรงตั้งแต่แรกรับผู้ป่วยเช่น
history of fractures, history of head trauma, history of uncontrolled bleeding after
a fall, and history of hospitalizations due to a fall.
3. ประเมินความเสี่ยงต่างๆ ด้านร่างกายที่เกี่ยวกับการลื่นตกหกล้มและการบาดเจ็บรุนแรงจาก
การลื่นตกหกล้ม
1) ในผู้ป่วยที่พบว่ามีความเสี่ยง ให้ทีมการดูแลร่วมกันประเมินปัจจัยอื่นๆ อย่างครบถ้วน
เมื่อแรกรับเข้ารักษาและเมื่อภาวะสุขภาพมีการเปลี่ยนแปลง
2) สื่อสารและระบุผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงปานกลางและความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายรุนแรง
จากการลื่นตกหกล้มในทุกเวร
4. สื่อสารและให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงลื่นตกหกล้มและความเสี่ยงการบาดเจ็บที่จะเกิดจาก
การลื่นตกหกล้ม
1) สื่อสารให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยทุกคนให้ทราบว่าผู้ป่วยรายใดมีความเสี่ยง
เกี่ยวกับการลื่นตกหกล้มและการบาดเจ็บรุนแรงจากการลื่นตกหกล้ม
- สื่อสารการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บจากการลื่นตดหก
ล้ม (เข่นเริ่มให้ยา anticoagulation หรือได้รับการวินิจฉัยใหม่ว่าเป็น osteoporosis
ตลอดช่วงก่อนส่งเวรและเมื่อส่งเวร)
- ใช้ป้ายที่ระบุผู้ป่วยที่เคยลื่นตกหกล้ม(เข่นรับเข้ารักษาจากสาเหตุการลื่นตกหกล้ม
หรือลื่นตกหกล้มระหว่างเข้ารับการรักษา) ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือผู้ป่วยที่
มีประวัติได้รับการบาดเจ็บจากการลื่นตกหกล้ม
2) ให้ความรู้ผู้ป่วยและญาติโดยการสอนกลับเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บจาก
การลื่นหกล้มตั้งแต่แรกรับและตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาลและเกี่ยวกับสิ่งใดที่
ผู้ป่วยและญาติสามารถท าได้เพื่อช่วยป้องกันการลื่นหกล้ม
5. ก าหนดมาตรฐานส าหรับใช้ในการปฏิบัติส าหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการลื่นหกล้ม
1) น ามาตรฐานไปปรับปรุงการปฏิบัติทั้งระดับโรงพยาบาลและระดับผู้ป่วยเพื่อการดูแล
สภาพแวดล้อมในการป้องกันการลื่นตกหกล้มและลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บที่เกิด
จากการลื่นตกหกล้ม
2) ก าหนดการเยี่ยมตรวจ(ทุกชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง) เพื่อประเมินและตอบสนองความ
ต้องการของผู้ป่วยเกี่ยวกับความปวด การขับถ่าย การเปลี่ยนท่าทาง
6. ปรับแนวปฏิบัติให้เหมาะกับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่สุดที่จะเกิดการบาดเจ็บรุนแรงหรือ
1) เพิ่มความเข้มข้นและความถี่ในการสังเกต
2) ปรับสิ่งแวดล้อมและจัดหาอุปกรณ์ให้เหมาะเหมาะสมเฉพาะบุคคลเพื่อลดการบาดเจ็บ
จากการลื่นตกหกล้ม
3) ทบทวนและปรับยาที่อาจท าให้ผู้ป่วยลื่นตกหกล้มได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาจิตเวช
เพื่อลดผลข้างเคียงของยา
Training
การสร้างความตระหนักในการป้องกันความเสี่ยง การใช้เครื่องมือประเมินความเสี่ยง การ
ประเมินความต้องการเฉพาะ การจัดสิ่งสิ่งแวดล้อม
จัดเวทีแก้ปัญหาการลื่นตกหกล้มกับผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ปฏิบัติงาน เพื่อการพัฒนาแนว
ทางการดูแลให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา
Monitoring
จ านวนผู้ป่วยที่ลื่นตกหกล้มทั้งหมด
จ านวนผู้ป่วยที่ลื่นตกหกล้มที่เกิดการบาดเจ็บปานกลางและบาดเจ็บรุนแรง
อัตราการบาดเจ็บผู้ป่วยที่ลื่นตกหกล้มที่เกิดการบาดเจ็บปานกลางและบาดเจ็บรุนแรงต่อ
1000 วันนอน
Pitfall
มุ่งเน้นการใช้เครื่องมือประเมินความเสี่ยงให้ครบถ้วน ขาดการระบุของความต้องการเฉพาะ
ของผู้ป่วยแต่ละราย ท าให้การจัดการไม่สอดคล้องจึงเกิดอุบัติการณ์
ไม่ให้ความส าคัญกับผู้ป่วยและญาติในการป้องกันความเสี่ยง สอนผู้ป่วยและญาติโดยขาดการ
ทวนสอบท าให้ผู้ป่วยและญาติไม่เข้าใจอย่างชัดเจนและสามารถช่วยป้องกันอันตรายได้
มาตรฐาน HA
การปฎิบัติตามแนวทางข้างต้น คือการปฏิบัติตามมาตรฐาน โรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับ
ที่ 4 ตอนที่ III หมวดที่ 3 ข้อ 3.1 การวางแผนการดูแลผู้ป่วย (PLN.1) (2), (3) และ (7)