ไขรหัสดวงธรรม 9 ประการ
พุทธธรรมวาระพิเศษ
ในเช้าของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
เนื่องในวัน ”งานสมโภชองค์พระใหญ่พระพุทธเจ้าศรีเชียงของ”
ท่านพระยาธรรมิกราช ได้ขึ้นเข้าเฝ้านอบน้อม ต่อองค์พระพุทธบิดาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ท่าน เพื่อน้อมดวงแก้วดวงธรรมลงสู่โลก
เมื่อท่านพระยาธรรมิกราช ได้ขึ้นเข้าเฝ้านอบน้อมต่อองค์พระพุทธบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ท่าน แล้วนั้น จึงได้นอบน้อมเฝ้าทูลถาม และกล่าวขอฟังธรรมจากพระพุทธองค์ท่าน ดังนี้ว่า
พระยาธรรม : ข้าแต่องค์พระพุทธบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจ้าขา
วันนี้ลูก ก็ได้ทำพุทธพิธีจนถึงวันที่ 9 แล้ว พระพุทธเจ้าค่ะ และซึ่งเป็นวันที่ลูก
จะขอน้อมอาราธนาอัญเชิญ”ดวงแก้วดวงธรรม”ลงสู่โลก ถึง 9 ดวง ลูกจึงจะขอถึงพระพุทธองค์โปรดทรงเมตตา แสดงธรรม เรื่องดวงธรรม 9 ดวง ให้ลูกได้ฟังด้วยเกิดพระพุทธเจ้าข้า ฯ
พระพุทธองค์ : ดีแล้วหล่ะพระยาธรรมเอย แล้วลูกพอจะเข้าใจหรือเปล่าเล่า ว่าเหตุใด
จึงต้องอัญเชิญดวงธรรมถึง 9 ดวงลงสู่โลก จงกล่าวธรรมนั้นมาก่อนเถิดพระยาธรรม
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะ ลูกพอจะทราบว่า การที่อัญเชิญดวงเก้าดวงธรรมลงสู่โลก 9 ดวงเพราะว่าดวงธรรมนั้นมี”พุทธพลังบารมี” หรือมี”พลังพุทธะ” ที่แตกต่างกัน พระพุทธเจ้าข้าฯ
และพระพุทธองค์ก็ทรงให้ทำพุทธพิธี 9วันนี้ เพื่อหมุนโลกจักรวาลวัฏฏะสงสาร เข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรือง
พระองค์จงทรงให้ดวงแก้วดวงธรรม ที่เสด็จลงสู่โลกแต่ละดวงแตกต่างกัน พระพุทธเจ้าค่ะ
และที่สำคัญก็คือ วันนี้เป็นวันเบิกพระเนตรของพระพุทธองค์ซึ่งเป็นดวงตาอันสว่างไสว
รู้แจ้งในโลกธาตุ รู้ตื่นในวัฏฏะสงสาร ดวงจิตทั้งหลายก็จะได้รู้แจ้ง เห็นตามความเป็นจริง ที่พระพุทธองค์ทรงชี้ทางบอกทางไว้ บรรลุธรรม เห็นธรรม ตามพระพุทธเจ้าข้าฯ
ลูกนั้น จึงจะต้องถอดรหัสธรรมของดวงธรรม 9 ประการ ลงสู่โลก เพื่อน้อมดวงธรรมทั้ง 9 ดวงนี้ 9 พลังพุทธบารมี เพื่อปรับสภาวะต่างๆ พร้อมกับพลังบารมีของพระพุทธองค์ ที่เสด็จลงอย่างสมบูรณ์ และเปิดดวงพระเนตรแห่งองค์พระพุทธรูปพระพุทธเจ้าใหญ่ศรีเชียงของ ซึ่งเป็นองค์แทน ของพระพุทธองค์ ทุกพระองค์ และเป็นองค์แทนแห่งพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าข้าฯ
พระพุทธองค์ : ก็ดีแล้วหละพระยาธรรม ถ้าอย่างนั้น ก็แสดงว่าลูกเข้าใจได้เป็นอย่างดีนะ ทีนี้ ก็เข้าเรื่องเลย ก็แล้วกัน บางอย่างพูดมากไปก็จะซับซ้อนสับสน วุ่นวาย บางอย่างพูดน้อยไปก็จะไม่เข้าใจ ในความละเอียดอ่อน ฉะนั้น ลูกก็ได้อธิบายในเหตุในผลของสิ่งที่จะต้องทำต่อจากนี้ไป คือการอัญเชิญพลังพุทธบารมี 9 ประการ สู่ดวงแก้วดวงธรรม ลงสู่โลกเพื่อหมุนจักรวาลวัฏฏะสงสาร เข้าสู่”ยุคศิวิไลซ์”...”ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรือง” ยุคกึ่งพุทธกาล
พระยาธรรมเอย ลูกก็ได้กล่าวเอาไว้หมดแล้ว ทีนี้ ก็เข้าสู่พลังพุทธบารมีของดวงธรรมแต่ละดวงเลยก็แล้วกัน ลูกนั้นถอดรหัสได้อย่างไรเล่า ในดวงธรรมดวงที่ 1
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะลูกถอดรหัสดวงธรรมดวงที่ 1 ได้อย่างนี้พระพุทธเจ้าค่ะ ดวงธรรมดวงที่ 1 คือล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายให้หมดไป มลายสิ้นไป พระพุทธเจ้าค่ะ
พระพุทธองค์ : แล้วลูกนั้น พอจะเข้าใจบ้างหรือเปล่าเล่า ว่าอะไรคือสิ่งที่ล้าง สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายจงกล่าวธรรมนั้นมาเถิด พระยาธรรม
พระยาธรรม : ลูกพอจะเข้าใจว่า สิ่งที่ล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย คงจะเป็นการปั่นรอบสร้างบารมีในขั้นที่ 1ที่ลูกได้ทำ มาจนถึงวันนี้ คือการค้นหาตัวตนให้เจอ และรวบรวมหลักสูตรค้นหาตัวตน ในสายปฏิบัติธรรม “สัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ” สร้างองค์พระใหญ่พุทธเจ้าศรีเชียงของ น้อมพระธรรมลงสู่โลก สร้างคัมภีร์กึ่งพุทธกาล ถ่ายทอดพระธรรมของพระพุทธองค์สืบต่อไป สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะช่วยชำระล้างสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ให้หมดไปมลายสิ้นไป พระพุทธเจ้าค่ะ
เพราะลูกมองเห็นว่า บุคคลผู้ทุกข์เมื่อเข้ามาสู่หลักสูตรค้นหาตัวตนนั้นก็คลายทุกข์
บุคคลผู้ทุกข์เมื่อฟังธรรม เข้าใจแล้วก็คลายทุกข์ บุคคลผู้ฝึกฝนประพฤติปฏิบัติอย่างแท้จริง เขาทั้งหลายก็ย่อมพ้นจากทุกข์ ลูกเห็นว่าสิ่งไม่ดีทั้งหลายคือ กิเลส ตัณหา กรรมวิบาก จะหมดไป มลายสิ้นไป
เมื่อ”สัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ” หลักสูตรค้นหาตัวตน พุทธธรรมกึ่งพุทธกาล
และพลังจากองค์พระใหญ่พระพุทธเจ้าศรีเชียงของ ได้แผ่พลังบารมีไปชำระล้างสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ปรับภพภูมิ ทุกที่ ทุกแห่งหนที่นี้ ทุกอย่างที่ไม่ดีก็จะค่อยๆหมดไป มลายสิ้นไป เช่นนี้ พระพุทธเจ้าข้าฯ
พระพุทธองค์ : ก็ดีแล้วหละพระยาธรรมเอย ถือว่าลูกนั้นก็เข้าใจ พอที่จะน้อมไปฝึกฝนประพฤติปฏิบัติตาม และพอที่จะน้อมเอาดวงธรรม ลูกที่ 1 สู่โลกได้ ต่อไปพระยาธรรมเอย ดวงธรรมลูกที่ 2 นั้น ลูกไขรหัสได้ว่าอย่างไรเล่า จงกล่าวธรรมนั้นมาเถิด พระยาธรรมเอย
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะ ลูกไขรหัสธรรมลูกที่ 2 จากดวงธรรมได้ดังนี้ว่า
จะต้องเป็นพระธรรมที่ก่อเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย เพราะแผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินธรรม
เป็นแผ่นดินที่มีผู้คนที่มีบุญมาเกิดมาก เป็นแผ่นดินที่องค์พระมหากษัตริย์ไทยได้ปรับไว้เพื่อรองรับพระธรรมอยู่แล้ว เป็นที่เมื่อพระธรรมก่อเกิดขึ้น จะเจริญรุ่งเรืองได้ และจะเป็นบ้านเมืองที่เจริญรุ่งเรือง รองรับยุคศิวิไลซ์ ยุคแห่งความเจริญของพระธรรมได้มากที่สุด พระพุทธเจ้าข้าฯ
พระพุทธองค์ : ก็ดีแล้วหละพระยาธรรม แสดงว่าพอจะเข้าใจอยู่นะ
ประเทศไทยเป็นที่ที่ถูกวางแผนไว้เพื่อรองรับพระธรรมเอาไว้ก่อนหน้านู้น มานานหลายปีแล้วจึงเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่มีองค์พระโพธิสัตว์น้อยใหญ่ หลายพระองค์ลงมาเกิดสร้างตำนานคุณงามความดี สร้างกุศลบารมีไว้รองรับ จนถึงในยุคนี้ จึงได้รอบได้เวลาที่ผู้มีบุญทั้งหลาย ก็ลงมาเกิดและสร้างบารมีไว้รอรอบ ซึ่งก็เหมาะสมที่สุด ที่จะเผยแผ่ธรรม
ถือเป็นเนื้อนาบุญอันอุดมสมบูรณ์ หากปลูกต้นโพธิ์ลงไป โพธิ์นั้นก็จะเจริญงอกงามและมีผู้ดูแลค้ำหนุนให้เจริญเติบโต บัดนี้ ลูกจึงก่อเกิดในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
และจะต้องเกิดทางภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อจะแผ่พลังบารมีไปทั่วทุกที่ทุกแห่งหน และทุกสิ่งที่ดีก็จะบังเกิดขึ้น พระยาธรรมเอย ทีนี้ ต่อไปดวงธรรมลูกที่ 3 เล่า พอจะเข้าใจและถอดรหัสธรรมได้ว่า อย่างไรเล่า พระยาธรรมเอย
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะดวงธรรมลูกที่ 3 ลูกถอดรหัสธรรมได้มาว่า บุคคลผู้จะขับเคลื่อนพระธรรมได้หรือดวงธรรมที่จะเกิดขึ้นนั้น เป็นพลังแห่งมหาจักรพรรดิ พระพุทธเจ้าค่ะ
ซึ่งพลังที่พระพุทธองค์ทรงประทานลงมา “จะต้องเป็นพลังมหาจักรพรรดิ”
จึงจะสามารถที่จะฉุดช่วยดวงจิตทั้งหลายได้ ซึ่งลูกก็เข้าใจว่าองค์บรมบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ องค์บรมมหาจักรพรรดิทั้งหลาย ก็ส่งพลังมาที่ลูก เพื่อการเผยแผ่ธรรมอยู่แล้ว คิดว่า ”พลังมหาจักรพรรดิ” ย่อมจะก่อเกิด พระพุทธเจ้าข้าฯ
พระพุทธองค์ : ดีแล้วหละพระยาธรรม ถ้าอย่างนั้น ลูกก็จงน้อมเอาดวงธรรมทั้งสามดวงนี้ลงสู่โลกเพื่อช่วยปรับสภาวะของสิ่งไม่ดีให้ดีขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกทั้งหลายนั้น สามารถสร้างและทำความดีให้ก่อเกิดขึ้น
เริ่มต้นจากประเทศไทยและเพื่อให้พลังมหาจักรพรรดิได้ช่วยให้ลูกทั้งหลาย ขับเคลื่อนพระธรรมเผยแผ่ต่อไป เพื่อให้ลูกทั้งหลายได้มีพลังมหาจักรพรรดิ ช่วยให้ลูกทั้งหลายนั้น ได้ถึงซึ่งความพ้นทุกข์ จงน้อมดวงธรรมทั้ง 3 ดวงนี้ ลงสู่โลกเถิดพระยาธรรม
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะกราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ที่ทรงเมตตา แสดงธรรมนี้ให้ลูกได้ฟังพระพุทธเจ้าข้าฯ
พระพุทธองค์ : ดีแล้วหละพระยาธรรม ตั้งใจฟังและน้อมไปประพฤติปฏิบัติตามนะ
ลูกจะเข้าใจทุกสิ่งเลยทีเดียวหละ ต่อไปรหัสธรรมในดวงธรรมที่ 4 เล่า พอจะเข้าใจว่าอย่างไรเล่า
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะ ลูกพอจะเข้าใจว่าพลังพุทธบารมีในดวงธรรมดวงที่ 4 คือ
“ความร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์” จะก่อเกิดขึ้นแก่โลกใบนี้ แก่ยุคนี้ อย่างมากมาย พระพุทธเจ้าค่ะ
ดวงธรรมดวงที่ 4 จึงเป็นความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวย รวยทั้งทรัพย์ภายใน รวยทั้งทรัพย์ภายนอก เช่นนี้พระพุทธเจ้าค่ะ
พระพุทธองค์ : ก็ดีแล้วหละพระยาธรรม คนที่รวย รวยทั้งภายนอก รวยทั้งภายใน รวยสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ รวยปัจจัย 4 เครื่องบำรุงค้ำหนุนกายหยาบให้ขับเคลื่อนสร้างบารมีได้ ย่อมเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์มหาศาลแก่โลกวัฏฏะสงสาร ดวงจิตทั้งหลายเป็นแน่แท้
ฉะนั้น ก็จงน้อมเอาดวงธรรมลูกที่ 4 คือ ความร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ ลงสู่โลกเถิดเพื่อเกิดประโยชน์แก่ดวงจิตทั้งหลาย
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ที่ทรงเมตตาแสดงธรรมนี้ ให้ลูกได้ฟังพระพุทธเจ้า ข้า ฯ
พระพุทธองค์ : ดีแล้วหละพระยาธรรม ทีนี้ต่อไปดวงธรรมลูกที่ 5 หละ ลูกถอดรหัสธรรมได้อย่างไรเล่า
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะลูกถอดรหัสธรรมดวงธรรม ลูกที่ 5 ได้ว่าเป็นพลังแห่งชัยชนะจะมีชัยชนะทุกสิ่งทุกอย่างเช่นนี้พระพุทธเจ้าค่ะ
พระพุทธองค์ : ก็ดีแล้วหละพระยาธรรม ที่พอจะเข้าใจในรหัสธรรม ดวงธรรมดวงที่ 5 ตรงตามความเป็นจริง
ลูกเอ๋ยพลังพุทธ พลังแห่งชัยชนะ ก็ควรจะมีลูก เพื่อค้ำหนุนดวงจิตของลูกทั้งหลายให้สามารถที่จะเอาชนะ กิเลสตัณหา เอาชนะโลกสมมุติ สิ่งสมมุติทั้งหลาย เพื่อถึงซึ่งความสุขในแดนพระนิพพานอย่างแท้จริง
ฉะนั้น พลังแห่งพุทธะ ที่เป็นพลังแห่งชัยชนะก็ควรจะน้อมลงสู่โลกเพื่อช่วยลูกทั้งหลาย ให้มีชัยชนะ ชนะโลก ชนะจักรวาลวัฏสงสาร ชนะทุกสิ่งทุกอย่าง ดั่งพุทธะ เช่นนี้หละพระยาธรรม
ลูกจงน้อมดวงธรรมนี้สู่โลกเถิด จะเกิดประโยชน์มากมาย เมื่อความอุดมสมบูรณ์ได้ก่อเกิดขึ้น ชัยชนะได้มีขึ้นมา ชนะกิเลสตัณหา สิ่งสมมุติทั้งหลาย ทุกอย่างย่อมจะสมบูรณ์
และย่อมจะเข้าสู่พลังดวงธรรม ดวงที่ 6 คือ จะมีพระธรรมคำสอน ที่เผยแผ่ส่งตรงจากองค์พระพุทธเจ้า เปรียบเสมือน เช่นดัง “องค์พระพุทธ”ได้ก่อเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในกึ่งพุทธกาล หรือพระพุทธศาสนา จะก่อเกิดขึ้นอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง ในกึ่งพุทธกาล
ด้วยพระพุทธ พระธรรม ในกึ่งพุทธกาล ด้วยการน้อมธรรมโดยตรงที่ลูกได้ทำอยู่ พระพุทธจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
พระยาธรรมเอย จงน้อมเอาดวงธรรมแห่งพระพุทธลงสู่โลก เมื่อดวงธรรมแห่งพระพุทธลงสู่โลกแล้ว ดวงธรรมแห่งพระธรรมก็ย่อมต้องก่อเกิด และเจริญรุ่งเรือง มีมากมายมหาศาล ที่จะได้รับดวงแก้วดวงธรรมต่าง ๆ ให้ก่อเกิดแก่ดวงจิตของตน
ฉะนั้น ดวงธรรมหนึ่งดวงได้เกิดขึ้น ย่อมจะแตกออกไปเป็นร้อย เป็นหมื่น เป็นล้านดวง
พระยาธรรมเอย ฉะนั้น ก็จงน้อมเอาดวงธรรม ที่เป็นพระธรรมลงสู่โลกไปอีกดวงหนึ่งนะ เพื่อพลังแห่งพระธรรมในกึ่งพุทธกาล จะได้แข็งแกร่งแข็งแรงสว่างไสว เป็นที่พึ่งให้กับดวงจิตทั้งหลาย
ต่อไป ก็จะขับเคลื่อนเข้าสู่การมีพระสงฆ์ พระสงฆ์ พระอริยะสงฆ์ พระอริยะเจ้า อริยะบุคคลจะก่อเกิดขึ้นมากมายบนโลกนี้ พระสงฆ์ก็จะเจริญรุ่งเรืองมาก เช่นดั่งสมัยพุทธกาล ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่
พระยาธรรมเอย : ดวงธรรมแห่งองค์พระสงฆ์ที่จะเจริญมากมาย ก่อเกิดขึ้นมา จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จงน้อมเอาดวงธรรมนี้ ลงสู่โลกเถิด ต่อไปเมื่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ได้ก่อเกิดขึ้นแล้วอย่างสมบูรณ์ ศาสนาที่อุดมสมบูรณ์ได้ก่อเกิด พลังพุทธบารมีแห่งการสืบทอดพระพุทธศาสนา
จนกว่าจะสิ้นสุดพระธรรมคำสอน ในอีกกึ่งพุทธกาลที่ยังเหลืออยู่ ก็ย่อมจะมีการเผยแผ่สืบทอดไปเป็นแน่แท้
เช่นนี้หละพระยาธรรม ดวงธรรม 9 ประการ 9 พลังพุทธบารมี ดวงธรรมคุณงามความดี
ที่จะมอบให้เพื่อไปก่อเกิดสู่โลกมี 9 ประการเช่นนี้ แล้วในวันนี้ ลูกก็สามารถที่จะถอดรหัสธรรมได้ทั้งหมด
ลูกจึงสามารถนำดวงธรรมเหล่านี้ พลังแห่งความสุขความเจริญที่ได้กล่าวไปทั้งหมดแล้วนั้น ลงสู่โลกเพื่อเพาะปลูก เพื่อปลูกลงบนนาบุญอันอุดมสมบูรณ์ของจิตใจลูกทุกคน ผู้มีความตั้งใจ คิดดี ทำดี ผลย่อมจะก่อเกิดในอีกไม่ช้า เช่นนี้หละพระยาธรรมเอย พอจะเข้าใจบ้างแล้วหรือยังเล่า จงกล่าวธรรมนั้นมาเถิด พระยาธรรม
พระยาธรรม : สาธุเจ้าค่ะ ลูกพอจะเข้าใจแล้ว พระพุทธเจ้าข้าค่ะ ว่าพระพุทธองค์ทรงเมตตาประทานพลังทั้ง 9 พลังพุทธบารมี สู่ดวงธรรมทั้ง 9 ดวง เพื่อก่อเกิดอานิสงส์ที่ดี เหตุที่ดีถึง 9 ประการ ซึ่งทั้ง 9 ประการ ที่พระองค์ทรงกล่าวมา ก็ครอบจักรวาลทั้งหมดแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ฯ วันนี้ ลูกต้องกราบขอลาก่อนนะเจ้าค่ะ เอาไว้ลูกจะมาเฝ้าฟังธรรมใหม่ พระพุทธเจ้าข้า ฯ สาธุ.
คำแปลบทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ
และคำแปลบทอัญเชิญพระเข้าตัว (บทสัพเพ)
คาถามหาจักรพรรดิ
----------------------
นะโมพุทธายะ
หมายถึง พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
พระพุทธไตรรัตนะญาณ
หมายถึง สุดยอดของศีล สมาธิ ปัญญา
มณีนพรัตน์
หมายถึง สมบัติจักรพรรดิ
(อันได้แก่สมบัติหลัก 7 ประการ)
ได้แก่ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว
ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว แก้วมณี)
สีสะหัสสะสุธรรมา สีสะ
แปลว่า ความคิด
หัสสะ แปลว่า มือ ก็คือ การกระทำ
สุธรรมา คือ การรู้ทั้ง 3 โลกธาตุ
รวมความคือ การคิดและลงมือทำ
จนรู้ทั่วทั่ง 3 โลก
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ยะธาพุทโมนะ หมายถึง
พระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต คือ พระศรีอริยเมตไตรย
(เป็นการไล่สูตรคาถาย้อนกลับแบบโบราณ
โดยนำเอาคำ "ยะ" มาตั้งไว้ข้างหน้า หมายถึง
กำลังของพระศรีอริยเมตไตรยเป็นองค์นำ)
พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
หมายถึง การบูชาพระรัตนตรัย
อัคคีทานัง วะรังคันธัง
หมายถึง ไฟเผาทำลายกิเลสทั้งภายนอกภายใน
สีวลี จะ มหาเถรัง
หมายถึง โชค ลาภ ธุรกิจการงาน ครอบคลุมทั้งหมด
อะหังวันทามิ ทูระโต
อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ หมายถึง การบูชา
ทั้งหมดทั้งมวลในพระพุทธศาสนา
บทอัญเชิญพระเข้าตัว (บทสัพเพ)
---------------------------------------
สัพเพพุทธา ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
สัพเพธัมมา ด้วยอำนาจแห่งพระธรรมทั้งหลาย
สัพเพสังฆา ด้วยอำนาจแห่งพระสงฆ์ทั้งหลาย
พะลัพปัตตา ปัจเจกานัญ จะ ยังพะลัง
ด้วยอำนาจแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย
อะระหันตานัญ จะเตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (3หรือ 5จบ)
ด้วยอำนาจแห่งพระอรหันต์เจ้ารักษา
(พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสงฆ์)
ทั้งหมดทั้งมวล ขอให้เป็นไปตามคำอธิษฐาน
พุทธังอธิษฐามิ ข้าพเจ้าขออธิษฐานด้วยอำนาจแห่งพระพุทธเจ้า
ธัมมังอธิษฐามิ ข้าพเจ้าขออธิษฐานด้วยอำนาจแห่งพระธรรม
สังฆังอธิษฐามิ ข้าพเจ้าขออธิษฐานด้วยอำนาจแห่งพระสงฆ์
(น้อมจิตแผ่บุญหรืออฐิษฐานน้อมในเรื่องต่างๆ)
บทสวดจักรพรรดินี้ ถ้าใครสวดภาวนาในใจตลอด
จนจิตเป็นเนื้อเดียวกันกับบทสวด จะมีทิพย์อำนาจ
อำนาจแห่งความเป็นทิพย์ คือ คิดอะไรก็เป็นอย่างนั้น
เพระบันทึกพลังงานของจักรพรรดิตลอดเวลา พลังงานของจักรพรรดิที่มีอยู่ในโลกนี้ประมาณไม่ได้ จะเอารวยเรื่องเด็กๆ